ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๔๒๑) เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข และระยะเวลา เพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับการลงทุนในระบบอัตโนมัติ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๔ มาตรา ๕ (๑) และมาตรา ๖ แห่งพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๗๓๘) พ.ศ. ๒๕๖๔ อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลา เพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับการลงทุนในระบบอัตโนมัติ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ การยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับเงินได้เท่ากับรายจ่ายที่ได้จ่ายไปเพื่อการลงทุนในเครื่องจักรและโปรแกรมคอมพิวเตอร์ตามโครงการลงทุนในระบบอัตโนมัติแต่ไม่ใช่เป็นการซ่อมแซมให้คงสภาพเดิมตามมาตรา ๖๕ ตรี (๕) แห่งประมวลรัษฎากร เป็นจานวนร้อยละหนึ่งร้อยของรายจ่ายตามจานวนที่จ่ายจริง ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
(๑) ต้องเป็นรายจ่ายเพื่อการลงทุนที่เกิดขึ้นจากสัญญา ใบสั่งซื้อ ใบสั่งจ้าง หรือข้อตกลง ในลักษณะทานองเดียวกัน ที่ได้กระทาตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๕
(๒) เครื่องจักรและโปรแกรมคอมพิวเตอร์ตามโครงการลงทุนในระบบอัตโนมัติต้องได้รับการรับรองจากคณะกรรมการเครือข่ายศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ (Center of Robotics Excellence : CoRE)
ข้อ ๒ การใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ตามประกาศนี้ ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลได้รับยกเว้นตามส่วนเฉลี่ยเป็นจานวนเท่ากันของจานวนเงินได้ที่ได้รับยกเว้นสำหรับระยะเวลาห้ารอบระยะเวลาบัญชีต่อเนื่องกัน โดยให้เริ่มยกเว้นภาษีเงินได้ตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มต้นหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของเครื่องจักรและโปรแกรมคอมพิวเตอร์ตามโครงการลงทุนในระบบอัตโนมัติ ตามมาตรา ๖๕ ทวิ (๒) แห่งประมวลรัษฎากร
ข้อ ๓ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จะใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามข้อ ๒ ต้องดาเนินการดังนี้
(๑) จัดทาโครงการลงทุนในระบบอัตโนมัติและแผนการจ่ายเงินตามตารางการแจ้งโครงการลงทุนและแผนการจ่ายเงินตามที่แนบท้ายประกาศนี้ และแจ้งต่ออธิบดีผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทางเว็บไซต์ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th ภายในวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๖
๒ (๒) จัดทารายงานแสดงรายละเอียดการลงทุนในระบบอัตโนมัติ โดยมีรายการ และข้อความอย่างน้อยตามแบบแนบท้ายประกาศนี้ และเก็บรักษารายงานดังกล่าว รวมทั้งเอกสารประกอบการลงรายการในรายงานไว้ ณ สถานประกอบการ พร้อมที่จะให้เจ้าพนักงานประเมินตรวจสอบได้ และเครื่องจักรและโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั้นต้องปรากฏอยู่ในทะเบียนทรัพย์สิน หรือเอกสารอื่นใดในทานองเดียวกันของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๕
เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ (นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ)
อธิบดีกรมสรรพากร
ที่มา: http://www.rd.go.th