เพื่อให้การสั่งงดหรือลดเบี้ยปรับภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามระเบียบการงดหรือลดเบี้ยปรับภาษีมูลค่าเพิ่มที่ออกตามความในมาตรา ๘๙ วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๓๐) พ.ศ. ๒๕๓๔ เป็นไปโดยสะดวกและรวดเร็ว อาศัยอำนาจ
ตามความในมาตรา ๓๘ (๗) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๒ แห่งประมวลรัษฎากร และข้อ ๑๑ ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป. ๘๑/๒๕๔๒ เรื่อง หลักเกณฑ์การงดหรือลดเบี้ยปรับหรือเงินเพิ่มภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีธุรกิจเฉพาะ ตามมาตรา ๒๒ มาตรา ๒๖ มาตรา ๖๗ ตรี มาตรา ๘๙ และมาตรา ๙๑/๒๑ (๖) แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ ๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๒ อธิบดีกรมสรรพากรจึงมีคำสั่ง ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ให้ยกเลิกความในข้อ ๑ ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. ๑๒๐/๒๕๔๕ เรื่อง มอบหมายการสั่งงดหรือลดเบี้ยปรับภาษีมูลค่าเพิ่มตามประมวลรัษฎากรกรณีการนำเข้า ลงวันที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๕ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
"ข้อ ๑ มอบหมายให้เจ้าพนักงานประเมินสั่งงดหรือลดเบี้ยปรับภาษีมูลค่าเพิ่มในกรณีดังต่อไปนี้ โดยไม่ต้องมีคำร้องของผู้นำเข้า เฉพาะกรณีที่ผู้นำเข้าไม่มีเจตนาหลีกเลี่ยงภาษีอากรและได้ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบไต่สวนด้วยดี
(๑) ในกรณีที่ผู้นำเข้าได้รับการงดค่าปรับตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร หรือกรณีที่ไม่อาจดำเนินการเปรียบเทียบงดการฟ้องร้องตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรได้ภายในห้าปีนับแต่วันนำเข้าให้งดเบี้ยปรับภาษีมูลค่าเพิ่ม
(๒) ในกรณีที่มีการเรียกค่าปรับตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรน้อยกว่าหนึ่งเท่าของเงินอากรที่ขาด ให้ลดเบี้ยปรับลงคงเสียตามอัตราส่วนของค่าปรับที่เรียกตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร
(๓) ในกรณีที่ไม่มีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร แต่เจ้าพนักงานตรวจพบว่า ผู้นำเข้ายื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ไม่ถูกต้อง หรือมีข้อผิดพลาดทำให้จำนวนภาษีที่ต้องเสียคลาดเคลื่อนไป ให้ลดเบี้ยปรับลงคงให้เสียร้อยละ ๕๐ ของเบี้ยปรับ
(๔) ในกรณีที่ผู้นำเข้าต้องรับผิดเสียเบี้ยปรับเต็มอัตราตามกฎหมายมีจำนวนไม่เกิน ๑,๐๐๐ บาท ให้งดเบี้ยปรับภาษีมูลค่าเพิ่ม"
ข้อ ๒ คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ที่ลงในคำสั่งนี้เป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ ๑๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๕
ลวรณ แสงสนิท
(นายลวรณ แสงสนิท)
อธิบดีกรมสรรพากร
ที่มา: http://www.rd.go.th