เกี่ยวกับภาษีอากร พ.ศ. ๒๕๖๖ อาศัยอำนาจตามความในข้อ ๑๐ (๑) (ข) และข้อ ๑๐ (๒) (จ) แห่งกฎกระทรวงกำหนด การแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อปฏิบัติตามความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับภาษีอากร พ.ศ. ๒๕๖๖ อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดให้กองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพดำเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และรูปแบบการรายงานข้อมูลของกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ในประกาศนี้ กองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ หมายความว่า (๑) กองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพที่มีผู้เข้าร่วมในวงกว้างซึ่งเป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อให้ผลประโยชน์ จากการเกษียณอายุ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต หรือหลายอย่างประกอบกัน แก่ผู้รับผลประโยชน์ที่เป็น หรือเคยเป็นลูกจ้าง หรือบุคคลที่ลูกจ้างดังกล่าวระบุให้ได้รับผลประโยชน์ของนายจ้างรายเดียวหรือหลายราย เพื่อตอบแทนการทำงาน
(๒) กองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพที่มีผู้เข้าร่วมในวงแคบซึ่งเป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อให้ผลประโยชน์ จากการเกษียณอายุ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต หรือหลายอย่างประกอบกัน แก่ผู้รับผลประโยชน์ที่เป็น หรือเคยเป็นลูกจ้าง หรือบุคคลที่ลูกจ้างดังกล่าวระบุให้ได้รับผลประโยชน์ของนายจ้างรายเดียวหรือหลายราย เพื่อตอบแทนการทำงาน
ข้อ ๒ ข้อมูลที่กองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพต้องรายงานมายังอธิบดีกรมสรรพากร ได้แก่ (๑) ข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ
(ก) เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร (ข) คำนำหน้าชื่อกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (ค) ชื่อกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (๒) ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทที่มีหน้าที่จัดการกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ
(ก) เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรบริษัทที่มีหน้าที่จัดการกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (ข) คำนำหน้าชื่อบริษัทที่มีหน้าที่จัดการกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (ค) ชื่อบริษัทที่มีหน้าที่จัดการกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (๓) ข้อมูลเกี่ยวกับนายจ้าง
(ก) เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรนายจ้าง (ข) คำนำหน้าชื่อนายจ้าง (ค) ชื่อนายจ้าง
(๔) ข้อมูลเกี่ยวกับลูกจ้าง
(ก) เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรลูกจ้าง (ข) คำนำหน้าชื่อลูกจ้าง (ค) ชื่อลูกจ้าง (ง) ชื่อสกุลลูกจ้าง (๕) ข้อมูลเกี่ยวกับมูลค่าเงินสะสมและเงินสมทบที่ลูกจ้างและนายจ้างนำส่งทั้งปีปฏิทิน
(ก) จำนวนเงินที่นายจ้างจ่ายสมทบเข้ากองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (ข) จำนวนเงินที่ลูกจ้างจ่ายสะสมเข้ากองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (ค) ปีพุทธศักราชที่จ่ายเงินสะสมเข้ากองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ข้อ ๓ ให้กองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพเก็บรวบรวมข้อมูลตามข้อ ๒ ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคมของทุกปี และรายงานต่อกรมสรรพากรภายในวันที่ ๓๑ มกราคมของปีถัดจาก ปีที่เก็บรวบรวมข้อมูล โดยให้จัดทำเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามรูปแบบและนำส่งตามวิธีการที่กำหนด บนเว็บไซต์ของกรมสรรพากร www.rd.go.th ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวที่กองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพรายงาน มายังอธิบดีกรมสรรพากรต้องเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษตามที่ได้จัดเก็บไว้ในฐานข้อมูลของกองทุน เพื่อการเลี้ยงชีพ และต้องระบุสกุลเงินเป็นเงินบาท
การรายงานข้อมูลของกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพตามวรรคหนึ่งให้ถือว่าสำเร็จ เมื่อกองทุน เพื่อการเลี้ยงชีพนั้นได้รับการแจ้งข้อความจากระบบของกรมสรรพากรในการยืนยันว่าการรายงานข้อมูลดังกล่าว สำเร็จแล้ว
ข้อ ๔ กองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพอาจแต่งตั้งตัวแทนซึ่งเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยในการรวบรวมและรายงานข้อมูลของกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพต่อกรมสรรพากร ตามประกาศนี้ก็ได้ ทั้งนี้ การแต่งตั้งตัวแทนดังกล่าวให้จัดทำเป็นเอกสารหลักฐานโดยให้ตัวแทนนั้น ส่งหลักฐานการแต่งตั้งตัวแทนให้กรมสรรพากรตามวิธีการที่กำหนดบนเว็บไซต์ของกรมสรรพากร www.rd.go.th
ข้อ ๕ เมื่อกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพได้รวบรวมและรายงานข้อมูลถูกต้องครบถ้วน ภายในกำหนดเวลาตามข้อ ๓ ให้ถือว่ากองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพได้มีการรายงานข้อมูลไปยังกรมสรรพากร ตามข้อ ๑๐ (๑) (ข) และข้อ ๑๐ (๒) (จ) แห่งกฎกระทรวงกำหนดการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อปฏิบัติ ตามความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับภาษีอากร พ.ศ. ๒๕๖๖ สำหรับปีที่กองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ได้ดำเนินการรายงานข้อมูลนั้น
ข้อ ๖ สำหรับปี ๒๕๖๗ เมื่อกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพได้รวบรวมข้อมูลระหว่างวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๗ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ และรายงานข้อมูลถูกต้องครบถ้วนต่อกรมสรรพากร ตามรูปแบบและวิธีการตามข้อ ๓ ภายในวันที่ ๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๘ ให้ถือว่ากองทุน เพื่อการเลี้ยงชีพได้มีการรายงานข้อมูลไปยังกรมสรรพากรตามข้อ ๑๐ (๑) (ข) และข้อ ๑๐ (๒) (จ) แห่งกฎกระทรวงกำหนดการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อปฏิบัติตามความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับภาษีอากร พ.ศ. ๒๕๖๖ โดยอนุโลม
ประกาศ ณ วันที่ ๒๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๗
กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพากร