กกต.ยืนยันฐานข้อมูลสมาชิกพรรคการเมืองถูกต้องตรงกับความเป็นจริง ตามที่หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ฉบับวันที่ 16 มกราคม 2551 คอลัมน์ “คิดถึงเมืองไทย”โดยปราโมทย์ นาครทรรพ ได้ลงบทความโดยระบุว่าข้อมูลสมาชิกพรรคในฐานข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งไม่ถูกต้องตามความเป็นจริงและมีบางพรรคมีสมาชิกเพิ่มจำนวนมากผิดปกตินั้น สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวให้ทราบ ดังนี้
1. ข้อมูลสมาชิกในระบบฐานข้อมูลสมาชิกพรรคการเมืองของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้มีการปรับปรุงข้อมูลใหม่ให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2550 โดยเฉพาะต้องไม่เป็นสมาชิกซ้ำซ้อนกับพรรคการเมืองอื่น และได้นำข้อมูลเดิมที่มีอยู่ทั้งหมดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ และความมีตัวตนกับสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง โดยจะคัดข้อมูลเดิมที่ตรวจสอบแล้วถูกต้องครบถ้วนและไม่ซ้ำซ้อนกับพรรคการเมืองอื่น ถือเป็นข้อมูลตั้งต้นของแต่ละพรรคที่จะนำลงบันทึกในระบบฐานข้อมูลสมาชิกพรรค ส่วนข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเช่น ไม่ระบุวันที่สมัครเป็นสมาชิกไม่มีเลขประจำตัวประชาชน ไม่มีเลขสมาชิก หรือชื่อบุคคลไม่ตรงกับฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร จะส่งข้อมูลให้พรรคการเมืองนั้นตรวจสอบและปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องก่อน จึงจะนำลงบันทึกในระบบฐานข้อมูลได้ ซึ่งกรณีพรรคพลังประชาชน ตรวจสอบพบว่าเดิมมีการรายงานเป็นเอกสารว่ามีสมาชิกทั้งสิ้น 7,840 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2549) แต่มีข้อมูลในระบบฐานข้อมูลสมาชิกพรรคเพียง 5,958 ข้อมูล ซึ่งเมื่อนำข้อมูลจำนวน 5,958 ข้อมูล มาตรวจสอบและจำแนก พบว่ามีข้อมูลเพียง 346 ข้อมูล ที่มีความถูกต้อง มีตัวตนและไม่ซ้ำซ้อนกับพรรคการเมืองอื่น จึงได้นำข้อมูลส่วนนี้บันทึกลงในระบบฐานข้อมูลพรรคพลังประชาชนเป็นข้อมูลตั้งต้นก่อน ส่วนที่เหลือตรวจสอบพบว่าเป็นข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ 4,267 ข้อมูล เป็นข้อมูลที่ซ้ำซ้อนกับพรรคการเมืองอื่น 575 ข้อมูล ซึ่งเฉพาะข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้แจ้งให้พรรคพลังประชาชนปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้อง เพื่อจะนำกลับมาบันทึกลงในระบบฐานข้อมูลแต่จนถึงปัจจุบันพรรคพลังประชาชนยังไม่ได้ส่งข้อมูลส่วนนี้กลับมายังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง
ดังนั้น จึงยืนยันได้ว่าตัวเลขข้อมูลสมาชิก 346 ข้อมูล เป็นจำนวนสมาชิกเดิมของพรรคพลังประชาชนที่ตรวจสอบแล้วถูกต้องครบถ้วน จึงได้นำลงฐานข้อมูลและถือเป็นข้อมูลตั้งต้นของพรรค
2. กรณีที่ระบุว่าพรรคพลังประชาชน มีสมาชิกเพิ่มขึ้นในปี 2550 เป็นจำนวนถึง 34,607 คน นั้นขอชี้แจงว่าการรับสมาชิกเป็นเรื่องของพรรคการเมืองที่จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับของแต่ละพรรค และเมื่อได้รับสมาชิกพรรคแล้ว พรรคการเมืองมีหน้าที่ในการแจ้งจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้นให้นายทะเบียนพรรคการเมืองทราบ โดยหากเป็นการรับสมาชิกหลังวันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2550 ใช้บังคับ (วันที่ 8 ตุลาคม 2550) พรรคการเมืองจะต้องส่งสำเนาใบสมัครและเอกสารประกอบการสมัครให้นายทะเบียนพรรคการเมืองทราบ ซึ่งการแจ้งจำนวนสมาชิกของพรรคการเมืองสามารถกระทำได้สองวิธี คือ
(1) การแจ้งจำนวนสมาชิกในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ข่าวสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง
(2) การแจ้งจำนวนสมาชิกเป็นเอกสารตามแบบ ท.พ.5,ท.พ.6 และ ท.พ.7 โดยพรรคการเมืองจะบันทึกข้อมูลสมาชิกพรรคเข้าสู่ระบบฐานข้อมูลสมาชิกพรรคการเมืองที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้จัดทำขึ้น และให้หัวหน้าพรรคลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์รับรองข้อมูล
ที่นำเข้า พร้อมแจ้งเป็นเอกสารตามแบบ ท.พ.5 , ท.พ.6 และ ท.พ.7 ให้นายทะเบียนพรรคการเมืองทราบและเมื่อนายทะเบียนพรรคการเมืองได้รับแจ้งทั้งสองทางแล้ว จะต้องทำการตรวจสอบข้อมูลว่าถูกต้องตรงกันและมีหลักฐานการสมัครยืนยันครบถ้วนหรือไม่ หากพบว่าถูกต้องครบถ้วน นายทะเบียนพรรคการเมืองจึงจะลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์รับรองข้อมูลสมาชิกพรรคในระบบฐานข้อมูล ซึ่งกรณีของพรรคพลังประชาชนพบว่ามีการบันทึกข้อมูลสมาชิกนำเข้าสู่ระบบฐานข้อมูล จนถึงปัจจุบันมีข้อมูลทั้งสิ้น 58,851 ข้อมูล ขณะที่มีการแจ้งข้อมูลสมาชิกเพิ่มเป็นเอกสาร(แบบ ท.พ.6) ในไตรมาสที่ 4 (ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม - 31 ธันวาคม 2550) จำนวน 75,328 คน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของนายทะเบียนพรรคการเมือง และนายทะเบียนพรรคการเมืองยังมิได้ลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์รับรองความถูกต้องของข้อมูลที่พรรคพลังประชาชนนำเข้าแต่อย่างใด และในกรณีนี้ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนในหมายเหตุท้ายแบบหน้าจอแสดงผลการตรวจสอบ ข้อมูลสมาชิกพรรคการเมือง (สำหรับประชาชน) ที่ระบุว่า “ข้อมูลที่ท่านตรวจสอบอยู่นี้เป็นข้อมูลที่ยังไม่สมบูรณ์ เนื่องจากอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และนำข้อมูลเข้าระบบของพรรคการเมือง หากพบว่าข้อมูลของท่านไม่ถูกต้อง โปรดแจ้งผู้ดูแลระบบ (partydb@ect.go.th) และสามารถส่งเอกสารหลักฐานได้ที่ Fax: 0 2219 4086”
3. กรณีที่ระบุว่าพรรคมัชฌิมา พรรคเพื่อแผ่นดิน พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา และพรรคประชาราชไม่มีข้อมูลสมาชิกที่นำลงในระบบฐานข้อมูลนั้น ขอเรียนชี้แจงว่า เฉพาะกรณีพรรคมัชฌิมา พรรคเพื่อแผ่นดินและพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา เป็นพรรคการเมืองที่เพิ่งจดแจ้งจัดตั้ง ต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองในวันที่ 1,2 และ 3 ตุลาคม 2550 ตามลำดับ จึงยังไม่มีข้อมูลสมาชิกเดิมที่เป็นข้อมูลตั้งต้นที่นำลงในระบบฐานข้อมูล เช่นเดียวกับพรรคประชาราช แม้ว่าจะจัดตั้งขึ้นตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2549 แต่อยู่ในระหว่างการตรวจสอบสมาชิกพรรคตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง จึงยังมิได้นำข้อมูลสมาชิกลงในระบบฐานข้อมูล อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะยังมิได้นำข้อมูลสมาชิกลงในระบบฐานข้อมูล แต่ก็ถือว่าพรรคการเมืองดังกล่าวนี้ มีสมาชิกแล้วนับแต่วันที่จดแจ้งจัดตั้ง รวมทั้งทุกพรรคได้มีการแจ้งข้อมูลสมาชิกที่เพิ่มขึ้นในรอบปี 2550 ตามมาตรา 19 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2550 แล้ว และอยู่ระหว่างการตรวจสอบของนายทะเบียนพรรคการเมืองเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งขอยืนยันว่าได้ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายด้วยความสุจริต โปร่งใส และเที่ยงธรรม และมิได้ดำเนินการเพื่อประโยชน์ของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง โดยเฉพาะเรื่องการจัดการระบบฐานข้อมูลสมาชิกพรรคการเมือง ซึ่งปัจจุบันมีระบบการตรวจสอบและรักษาความปลอดภัยข้อมูล ที่ป้องกันมิให้มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลโดยมิชอบและข้อมูลทุกรายการในระบบฐานข้อมูลสามารถตรวจสอบยืนยันได้ว่าเป็นการบันทึกข้อมูลโดยผู้ใด ตั้งแต่เมื่อใด