ไฟแนนเชียล ไทม์ สื่อจากอังกฤษระบุว่า “สหภาพยุโรป (อียู) กำลังพิจารณาว่าจะยอมรับการเป็นประเทศ “เศรษฐกิจตลาด”ของจีน โดยหวังที่จะอาศัยเป็นเงื่อนไขให้จีนยอมถอยมากขึ้นในการแก้ไขปัญหาความไม่สมดุลทางการค้า ทั้งนี้ทางยีอูได้พิจารณาว่า จะอาศัยความต้องการในการถูกยอมรับในฐานะประเทศเศรษฐกิจตลาดของจีน เป็นการต่อรองให้จีนหยุดการละเมิดสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาและเปิดกว้างตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดภาคบริการ
อนึ่ง การเป็นประเทศเศรษฐกิจตลาด หมายถึงเป็นดินแดนหรือประเทศที่ได้รับการยอมรับว่ามีมาตรฐาน มีการจำกัดการอุดหนุนทางการค้าจากรัฐ และไม่มีการผูกขาด โดย 150 ประเทศสมาชิกขององค์การการค้าโลกหรือดับเบิลยูทีโอ มีเพียง 56 ประเทศที่ยอมรับว่าจีนเป็นประเทศเศรษฐกิจตลาด ทว่าประเทศคู่ค้ายักษ์ใหญ่ของจีนอย่างสหรัฐฯกับสหภาพยุโรปยังยอมรับฐานะดังกล่าว
โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ยังได้ใช้มาตรการที่เข้มข้นกว่าของอียูในการต่อกรกับจีน โดยนอกจากจะการเรียกเก็บภาษีในสินค้านำเข้าบางประเภทเพิ่มขึ้นแล้ว ยังได้ทำการฟ้องร้องต่อดับเบิลยูทีโอในกรณีที่จีนไม่สามารถคุ้มครองสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังจำกัดการนำเข้าภาพยนตร์ เพลงดนตรีและหนังสือจากต่างชาติจนเป็นอุปสรรคทางการค้า
ประเด็นวิเคราะห์
1. ที่ผ่านมา จีนได้ถูกต่อต้านการทุ่มตลาดอย่างหนักจากสหรัฐฯและยุโรปการได้รับในฐานะประเทศเศรษฐกิจตลาดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับจีน เพราะสิ่งนี้จะช่วยทำให้ประเทศอื่นๆลงโทษจีนในด้านการทุ่มตลาด สินค้าส่งออกได้ยากขึ้น กอปรกับจะเป็นสัญลักษณ์ทางการเมือง ที่แสดงให้เห็นว่าจีนมีฐานะเทียบเท่ากับประเทศ อุตสาหกรรมทางตะวันตกอีกด้วย
2. กรณีดังกล่าวน่าจะเป็นผลทางด้านบวก โดยเฉพาะในด้านการต่อต้านการทุ่มตลาด เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมา จีนต้องเสียเปรียบในด้านนี้มาโดยตลอด
3. ตามข้อตกลงที่จีนได้เข้าร่วมกับดับเบิลยูทีโอเมื่อปี 2001 ได้กำหนดไว้ว่า ภายใน 15 ปีจีนจะยังถูกมองว่าเป็นประเทศที่ไม่ใช่เศรษฐกิจตลาด และจะได้รับฐานะประเทศเศรษฐกิจตลาดโดยอัตโนมัติในปี 2016
ที่มา: http://www.depthai.go.th