กรุงเทพ--30 มี.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
รมว.กต. ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับผลการหารือกับ รมว.กต.มาเลเซีย เมื่อ 22 มี.ค. 2550 ในโอกาสเดินทางเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการ ดังนี้
- รมว.กต. มาเลเซียขอบคุณที่ รมว.กต. มาเยือนเป็นครั้งแรก แสดงถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและแน่นแฟ้นระหว่างไทยกับมาเลเซีย การหารือเป็นไปอย่างตรงไปตรงมาและสร้างสรรค์ ครอบคลุมความร่วมมือทุกด้านตามเจตนารมณ์ที่ นรม. ทั้งสองฝ่ายได้มอบหมายไว้
- มาเลเซียถือว่าปีนี้มีความสำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสองเพราะเป็นปีฉลอง 50 ปีความสัมพันธ์ไทย — มาเลเซีย ทั้งสองประเทศเปรียบเสมือนอยู่ในครอบครัวเดียวกัน เป็นพี่เป็นน้องกัน สันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคงของไทยถือเป็นสันติภาพ เสถียรภาพ และความมั่นคงของมาเลเซียด้วยเช่นกัน
- มาเลเซียเห็นว่า การพบปะครั้งนี้ทำให้ความสัมพันธ์และความร่วมมือในทุกๆ ด้านแน่นแฟ้น ยิ่งขึ้น ซึ่งรวมถึงความร่วมมือในการหาทางยุติปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้บนพื้นฐานของความเป็นเพื่อน และการแบ่งปันความรู้ประสบการณ์ในด้านต่าง ๆ
- มาเลเซียพร้อมจะทำงานกับไทยอย่างเต็มที่ในทุกด้าน การพบกันครั้งนี้ถือว่าเป็นก้าวแรกที่สำคัญ รมว.กต. มาเลเซียยินดีและพร้อมจะร่วมมือกับไทยในทุกด้านที่ไทยร้องขอ
- มาเลเซียเห็นด้วยอย่างเต็มที่กับแนวทางแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย และต้องการเป็นพันธมิตรในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นตอ มาเลเซียขอให้ไทยใช้ความอดทนเพราะการแก้ปัญหาต้องใช้เวลา ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ข้ามคืน มาเลเซียจึงพร้อมจะเป็นพันธมิตรในการนำความสงบและความกินดีอยู่ดีมาสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยและภาคเหนือของมาเลเซีย ในลักษณะ “partnership to promote peace and prosperity” มาเลเซียยังเห็นว่า การพัฒนาของประเทศในภูมิภาคก็จะส่งผลให้การพัฒนาประชาคมอาเซียนเป็นจริงได้โดยเร็วยิ่งขึ้นด้วย
- รายละเอียดของทุกเรื่องที่ตกลงกันจะนำมาหารือในกรอบของคณะกรรมาธิการร่วม (JC) ซึ่งทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะเร่งรัดให้มีขึ้นโดยเร็วที่สุด คาดว่า ต้นเดือนพฤษภาคม 2550 โดยไทยเป็นเจ้าภาพ
- ฝ่ายมาเลเซียเห็นด้วยกับไทยที่จะเร่งรัดโครงการกระชับความสนิทสนมระหว่างกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองฝ่าย โดยจะจัดกิจกรรมกีฬาร่วมกันในภาคเหนือของมาเลเซีย และในภาคใต้ของไทย หลังจากนั้น จะเยี่ยมชมโครงการพัฒนาพื้นที่ในภาคใต้ร่วมกัน เพื่อเป็นการเสริมสร้างรากฐานของความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างเจ้าหน้าที่การทูตของทั้งสองฝ่ายทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะร่วมมือกันในเรื่องต่างๆ ดังนี้
1. การพัฒนาทรัพยากรบุคคลและการศึกษา มาเลเซียพร้อมจะแลกเปลี่ยนประสบการณ์เรื่องการผสมผสานหลักสูตรวิชาสามัญกับวิชาศาสนา การพัฒนาทักษะและการฝึกอาชีพ การให้นักศึกษาระดับมัธยมในภาคใต้ของไทยมาศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาในมาเลเซีย
2. ด้านการจ้างงาน มาเลเซียพร้อมที่จะรับแรงงานไทยรายวันแบบเช้าไปเย็นกลับ และสนับสนุนข้อเสนอเกี่ยวกับการตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษในไทยซึ่งมาเลเซียจะเข้ามาลงทุนในเขตไทย ใช้แรงงานไทยและส่งสินค้ากลับไปยังมาเลเซียโดยไม่เสียภาษี ซึ่งจะทำให้มาเลเซียได้ประโยชน์ในเรื่องของค่าจ้างแรงงาน และไทยได้ประโยชน์ในเรื่องการจ้างงาน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการพัฒนาทรัพยากรบุคคลและเตรียมตลาดแรงงานเพื่อรองรับความร่วมมือในกรอบสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ IMT-GT และยุทธศาสตร์การพัฒนาร่วมไทย-มาเลเซียด้วย
3. ด้านสังคม มาเลเซียพร้อมที่จะส่งผู้เชี่ยวชาญมาให้คำปรึกษาและแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับการผสมผสานการใช้กฎหมายทั่วไปกับกฎหมายอิสลาม (sharia) ว่า จะสัมพันธ์กันอย่างไร ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็เคยส่งผู้เชี่ยวชาญมาช่วยไทยในการจัดตั้งธนาคารอิสลามแล้ว
4. จะไม่ให้ปัญหาการจับกลุ่มเดินทางข้ามแดนไปมาเลเซียอย่างผิดกฎหมายเป็นปัญหาทางการเมืองระหว่างกัน โดยตกลงจะมอบหมายให้กลไกที่มีอยู่ร่วมกันแก้ปัญหาในระดับพื้นที่
5. จะร่วมมือเป็นพันธมิตรทางการทูตในเวทีระหว่างประเทศ ในการชี้แจงทำความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับเหตุการณ์ในภาคใต้ของไทย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
รมว.กต. ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับผลการหารือกับ รมว.กต.มาเลเซีย เมื่อ 22 มี.ค. 2550 ในโอกาสเดินทางเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการ ดังนี้
- รมว.กต. มาเลเซียขอบคุณที่ รมว.กต. มาเยือนเป็นครั้งแรก แสดงถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและแน่นแฟ้นระหว่างไทยกับมาเลเซีย การหารือเป็นไปอย่างตรงไปตรงมาและสร้างสรรค์ ครอบคลุมความร่วมมือทุกด้านตามเจตนารมณ์ที่ นรม. ทั้งสองฝ่ายได้มอบหมายไว้
- มาเลเซียถือว่าปีนี้มีความสำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสองเพราะเป็นปีฉลอง 50 ปีความสัมพันธ์ไทย — มาเลเซีย ทั้งสองประเทศเปรียบเสมือนอยู่ในครอบครัวเดียวกัน เป็นพี่เป็นน้องกัน สันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคงของไทยถือเป็นสันติภาพ เสถียรภาพ และความมั่นคงของมาเลเซียด้วยเช่นกัน
- มาเลเซียเห็นว่า การพบปะครั้งนี้ทำให้ความสัมพันธ์และความร่วมมือในทุกๆ ด้านแน่นแฟ้น ยิ่งขึ้น ซึ่งรวมถึงความร่วมมือในการหาทางยุติปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้บนพื้นฐานของความเป็นเพื่อน และการแบ่งปันความรู้ประสบการณ์ในด้านต่าง ๆ
- มาเลเซียพร้อมจะทำงานกับไทยอย่างเต็มที่ในทุกด้าน การพบกันครั้งนี้ถือว่าเป็นก้าวแรกที่สำคัญ รมว.กต. มาเลเซียยินดีและพร้อมจะร่วมมือกับไทยในทุกด้านที่ไทยร้องขอ
- มาเลเซียเห็นด้วยอย่างเต็มที่กับแนวทางแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย และต้องการเป็นพันธมิตรในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นตอ มาเลเซียขอให้ไทยใช้ความอดทนเพราะการแก้ปัญหาต้องใช้เวลา ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ข้ามคืน มาเลเซียจึงพร้อมจะเป็นพันธมิตรในการนำความสงบและความกินดีอยู่ดีมาสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยและภาคเหนือของมาเลเซีย ในลักษณะ “partnership to promote peace and prosperity” มาเลเซียยังเห็นว่า การพัฒนาของประเทศในภูมิภาคก็จะส่งผลให้การพัฒนาประชาคมอาเซียนเป็นจริงได้โดยเร็วยิ่งขึ้นด้วย
- รายละเอียดของทุกเรื่องที่ตกลงกันจะนำมาหารือในกรอบของคณะกรรมาธิการร่วม (JC) ซึ่งทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะเร่งรัดให้มีขึ้นโดยเร็วที่สุด คาดว่า ต้นเดือนพฤษภาคม 2550 โดยไทยเป็นเจ้าภาพ
- ฝ่ายมาเลเซียเห็นด้วยกับไทยที่จะเร่งรัดโครงการกระชับความสนิทสนมระหว่างกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองฝ่าย โดยจะจัดกิจกรรมกีฬาร่วมกันในภาคเหนือของมาเลเซีย และในภาคใต้ของไทย หลังจากนั้น จะเยี่ยมชมโครงการพัฒนาพื้นที่ในภาคใต้ร่วมกัน เพื่อเป็นการเสริมสร้างรากฐานของความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างเจ้าหน้าที่การทูตของทั้งสองฝ่ายทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะร่วมมือกันในเรื่องต่างๆ ดังนี้
1. การพัฒนาทรัพยากรบุคคลและการศึกษา มาเลเซียพร้อมจะแลกเปลี่ยนประสบการณ์เรื่องการผสมผสานหลักสูตรวิชาสามัญกับวิชาศาสนา การพัฒนาทักษะและการฝึกอาชีพ การให้นักศึกษาระดับมัธยมในภาคใต้ของไทยมาศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาในมาเลเซีย
2. ด้านการจ้างงาน มาเลเซียพร้อมที่จะรับแรงงานไทยรายวันแบบเช้าไปเย็นกลับ และสนับสนุนข้อเสนอเกี่ยวกับการตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษในไทยซึ่งมาเลเซียจะเข้ามาลงทุนในเขตไทย ใช้แรงงานไทยและส่งสินค้ากลับไปยังมาเลเซียโดยไม่เสียภาษี ซึ่งจะทำให้มาเลเซียได้ประโยชน์ในเรื่องของค่าจ้างแรงงาน และไทยได้ประโยชน์ในเรื่องการจ้างงาน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการพัฒนาทรัพยากรบุคคลและเตรียมตลาดแรงงานเพื่อรองรับความร่วมมือในกรอบสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ IMT-GT และยุทธศาสตร์การพัฒนาร่วมไทย-มาเลเซียด้วย
3. ด้านสังคม มาเลเซียพร้อมที่จะส่งผู้เชี่ยวชาญมาให้คำปรึกษาและแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับการผสมผสานการใช้กฎหมายทั่วไปกับกฎหมายอิสลาม (sharia) ว่า จะสัมพันธ์กันอย่างไร ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็เคยส่งผู้เชี่ยวชาญมาช่วยไทยในการจัดตั้งธนาคารอิสลามแล้ว
4. จะไม่ให้ปัญหาการจับกลุ่มเดินทางข้ามแดนไปมาเลเซียอย่างผิดกฎหมายเป็นปัญหาทางการเมืองระหว่างกัน โดยตกลงจะมอบหมายให้กลไกที่มีอยู่ร่วมกันแก้ปัญหาในระดับพื้นที่
5. จะร่วมมือเป็นพันธมิตรทางการทูตในเวทีระหว่างประเทศ ในการชี้แจงทำความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับเหตุการณ์ในภาคใต้ของไทย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-