วันนี้ (24 ก.พ. 50) นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่ากรณีกลุ่มมัชฌิมา ได้ประกาศสนับสนุน ดร.สมคิด จาตุศรี พิทักษ์ จัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ ของกลุ่มธรรมาธิปไตย และกลุ่มมัชฌิมาก็จะ เข้าร่วมด้วย นั้น จึงอยากจะเรียกร้องให้ดร.สมคิด ได้แสดงความชัดเจนทางการ เมืองออกมา เพราะในขณะนี้ มีนักการเมืองที่แตกทัพมาจากพรรคไทยรักไทย กำลัง หากลุ่มสังกัดอยู่ และกลุ่มเหล่านี้ก็ได้แสดงท่าทีที่จะร่วมพรรคกับ ดร.สมคิด หลายครั้งหลายหนแล้ว
แต่เมื่อ ดร.สมคิด ไม่กล้าที่จะประกาศตัวจัดตั้งพรรคการ เมืองของตนเองขึ้นมาก็ทำให้กลุ่มนักการเมืองเหล่านี้ ซึ่งเป็นนักการเมืองเร่ ร่อน ที่พยายามเร่หาพรรคการเมืองสังกัด ที่มีกลุ่มทุนสนับสนุนเพื่อความมั่นคง ในอาชีพนักการเมืองต่อไป สำหรับการประกาศถอนตัวจากประธานคณะกรรมการประสานงานและกระชับความสัมพันธ์ด้าน เศรษฐกิจระหว่างประเทศ ของ ดร.สมคิด จาตุศีรีพิทักษ์ โดยให้เหตุผลว่าเพื่อลด ความขัดแย้งในสังคม และได้ประกาศว่าตนเองเห็นแตกต่างกับแนวทางของพ.ต.ท.ทักษิณ มาเป็นเวลา 2 ปี แล้ว ตนอยากถาม ดร.สมคิดว่า เมื่อมีความคิดเห็นแตก ต่างด้านเศรษฐกิจกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเวลา 2 ปี แล้ว ทำไมไม่ประกาศความเห็นที่ แตกต่างกับ
พ.ต.ท.ทักษิณมาตั้งแต่เริ่มต้นของความขัดแย้ง ทั้ง ๆ ที่สังคมเรียก ร้องให้ดร.สมคิดถอนตัวออกมาจากรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ตลอดเวลา แต่ ดร.สมคิด กลับ เป็นนักการเมืองที่อยู่ร่วมหัวจมท้ายกับระบอบทักษิณจนวาระสุดท้าย เมื่อถูก คมช.ยึดอำนาจกลับมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อโหนกระแสสังคม
จึงอยากจะถามหาจุดยืนที่แท้จริงของดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และในเมื่อจะเสนอ ตัวเป็นผู้นำประเทศแล้วก็ขอให้ประกาศจุดยืนที่แท้จริงให้สังคมได้รับทราบอย่าง ชัดเจน อย่าเคลื่อนไหวทางการเมืองในลักษณะสร้างภาพหรือใช้การตลาดเหมือนกับแนว ทางพ.ต.ท.ทักษิณ เหมือนที่ผ่านมา การเสนอตัวเองของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ใน ตำแหน่งประธานคณะกรรมการประสานงานและกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่าง ประเทศ ต่อพลเอกสุรยุทธ์ นายกรัฐมนตรี นั้น ก็เป็นหนึ่งในแผนการตลาดและการ สร้างภาพของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ หลังจากการขึ้นเวทีแสดงวิสัย ทัศน์ทางด้านเศรษฐกิจ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และสถาบันศศินทร์จุฬาลงการณ์ มหาวิทยาลัยแล้ว
และเชื่อว่านับต่อจากนี้ไป สังคมก็จะได้พบกับการเมืองที่มีแต่ การสร้างภาพ ซึ่งเป็นการเมืองจอมปลอม สังคมจะต้องต่อต้าน ให้การเมืองในรูปแบบ นี้หมดสิ้นจากสังคมไทยเสียที
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 24 ก.พ. 2550--จบ--
แต่เมื่อ ดร.สมคิด ไม่กล้าที่จะประกาศตัวจัดตั้งพรรคการ เมืองของตนเองขึ้นมาก็ทำให้กลุ่มนักการเมืองเหล่านี้ ซึ่งเป็นนักการเมืองเร่ ร่อน ที่พยายามเร่หาพรรคการเมืองสังกัด ที่มีกลุ่มทุนสนับสนุนเพื่อความมั่นคง ในอาชีพนักการเมืองต่อไป สำหรับการประกาศถอนตัวจากประธานคณะกรรมการประสานงานและกระชับความสัมพันธ์ด้าน เศรษฐกิจระหว่างประเทศ ของ ดร.สมคิด จาตุศีรีพิทักษ์ โดยให้เหตุผลว่าเพื่อลด ความขัดแย้งในสังคม และได้ประกาศว่าตนเองเห็นแตกต่างกับแนวทางของพ.ต.ท.ทักษิณ มาเป็นเวลา 2 ปี แล้ว ตนอยากถาม ดร.สมคิดว่า เมื่อมีความคิดเห็นแตก ต่างด้านเศรษฐกิจกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเวลา 2 ปี แล้ว ทำไมไม่ประกาศความเห็นที่ แตกต่างกับ
พ.ต.ท.ทักษิณมาตั้งแต่เริ่มต้นของความขัดแย้ง ทั้ง ๆ ที่สังคมเรียก ร้องให้ดร.สมคิดถอนตัวออกมาจากรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ตลอดเวลา แต่ ดร.สมคิด กลับ เป็นนักการเมืองที่อยู่ร่วมหัวจมท้ายกับระบอบทักษิณจนวาระสุดท้าย เมื่อถูก คมช.ยึดอำนาจกลับมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อโหนกระแสสังคม
จึงอยากจะถามหาจุดยืนที่แท้จริงของดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และในเมื่อจะเสนอ ตัวเป็นผู้นำประเทศแล้วก็ขอให้ประกาศจุดยืนที่แท้จริงให้สังคมได้รับทราบอย่าง ชัดเจน อย่าเคลื่อนไหวทางการเมืองในลักษณะสร้างภาพหรือใช้การตลาดเหมือนกับแนว ทางพ.ต.ท.ทักษิณ เหมือนที่ผ่านมา การเสนอตัวเองของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ใน ตำแหน่งประธานคณะกรรมการประสานงานและกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่าง ประเทศ ต่อพลเอกสุรยุทธ์ นายกรัฐมนตรี นั้น ก็เป็นหนึ่งในแผนการตลาดและการ สร้างภาพของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ หลังจากการขึ้นเวทีแสดงวิสัย ทัศน์ทางด้านเศรษฐกิจ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และสถาบันศศินทร์จุฬาลงการณ์ มหาวิทยาลัยแล้ว
และเชื่อว่านับต่อจากนี้ไป สังคมก็จะได้พบกับการเมืองที่มีแต่ การสร้างภาพ ซึ่งเป็นการเมืองจอมปลอม สังคมจะต้องต่อต้าน ให้การเมืองในรูปแบบ นี้หมดสิ้นจากสังคมไทยเสียที
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 24 ก.พ. 2550--จบ--