พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 21 มีนาคม 2550 - 27 มีนาคม 2550
การคาดหมาย ในช่วงนี้ ความกดอากาศสูงที่เข้ามาปกคลุมประเทศไทยจะมีกำลังอ่อนลงและจะสลายไป หลังจากนั้นจะเริ่มมีความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุม ทำให้ลักษณะของพายุฤดูร้อนที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศไทยลดน้อยลง และทำให้ประเทศไทยตอนบนเริ่มมีอุณหภูมิสูงขึ้นอีกครั้ง สำหรับภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนาแน่นในช่วงวันที่ 21-23 มี.ค. 50 นี้ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 21-22 มี.ค. ประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนยังคงต้องระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงไว้ด้วย
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 21-22 มี.ค. จะมีพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ทางตอนบนของภาค หลังจากนั้นมีอากาศร้อนและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซียลเซียสลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซียลเซียส ยกเว้นในช่วงวันที่ 24-27 มี.ค. จะมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันตลอดช่วง อุณหภูมิสูงสุด 36-37 องศาเซียลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 36-37 องศาเซียลเซียส ยกเว้นในช่วงวันที่ 24-27 มี.ค. จะมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 21-23 มี.ค.จะมีฝน เป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ หลังจากนั้นจะมีอากาศร้อนบางพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซียลเซียสและจะมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซียลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซียลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-