(ต่อ1)รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรมประจำเดือนธันวาคม 2549

ข่าวเศรษฐกิจ Friday February 9, 2007 15:35 —สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

4. อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า 
บริษัท Thai Tinplate ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กแผ่นเคลือบดีบุกของไทยได้เพิ่มปริมาณการผลิตจาก 150,000 ตัน/ปีเป็น 300,000 ตัน/ปีโดยเป็นการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการใช้ในประเทศ คือ อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมอาหารกระป๋องในประเทศจะขยายตัวขึ้นร้อยละ 12 ในปีนี้
1.การผลิต
ภาวะการผลิตเหล็กในช่วงเดือน พ.ย. 49 ชะลอตัวลงเล็กน้อย ร้อยละ 0.10 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนนี้มีค่า 136.42 เป็นผลมาจากการลดลงของเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ ชนิดรีดร้อน ร้อยละ 19.17 เหล็กโครงสร้างรูปพรรณ ชนิดรีดเย็น ร้อยละ 8.15 สำหรับเหล็กทรงยาว ชะลอตัว ร้อยละ 1.69 โดยเหล็กเส้นข้ออ้อย ลดลง ร้อยละ 11.72 เนื่องจากผู้ผลิตได้ขยายการผลิตเหล็กชนิดนี้เพิ่มมากขึ้นเมื่อเดือนกันยายนแต่เหล็กเส้นกลม เหล็กลวด การผลิตกลับเพิ่มขึ้น ร้อยละ 10.83 และ 8.40 ตามลำดับ ซึ่งจากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย พบว่าเครื่องชี้ภาวะอสังหาริมทรัพย์ของเดือนตุลาคมบางตัวปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับเดือนที่แล้วโดยพื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างในเขตเทศบาลทั้งประเทศและมูลค่าการซื้อขายที่ดินทั้งประเทศ ลดลง ร้อยละ 14.65 และ 0.96 ตามลำดับ แต่จำนวนรายการซื้อขายที่ดินทั้งประเทศกลับเพิ่มขึ้น ร้อยละ 1.32 สำหรับผลิตภัณฑ์เหล็กทรงแบน การผลิตขยายตัวเล็กน้อย ร้อยละ 1.94 เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว โดยเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีมีการผลิตที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 26.70 เหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 25.01 โดยเป็นการผลิตเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมต่อเนื่องเช่นอุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นต้น แต่ผลิตภัณฑ์ที่มีการผลิตลดลง คือ เหล็กแผ่นเคลือบดีบุกและเหล็กแผ่นรีดเย็น ลดลง ร้อยละ 37.11 และ 12.45 ตามลำดับ ขณะเดียวกันเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ภาวะการผลิตขยายตัวขึ้น ร้อยละ 8.76 โดยผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเหล็กทรงยาว ขยายตัวขึ้น ร้อยละ 37.50 โดยเหล็กเส้นกลมมีการผลิตที่ขยายตัวมากที่สุด ร้อยละ 63.40 สำหรับผลิตภัณฑ์เหล็กทรงแบนชะลอตัวลง ร้อยละ 1.27 โดยเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน ลดลงร้อยละ 21.30
2.ราคาเหล็ก
การเปลี่ยนแปลงของราคาเหล็ก (FOB) โดยเฉลี่ยที่สำคัญในตลาด CIS ณ ท่าทะเลดำ (Black Sea) ในช่วงเดือนธันวาคม 2549 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน ราคาโดยเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์เหล็กส่วนใหญ่จะทรงตัวโดยเหล็กแผ่นรีดร้อนมีราคา 505 เหรียญสหรัฐต่อตัน เหล็กแผ่นรีดเย็นมีราคา 580 เหรียญสหรัฐต่อตัน และเหล็กแท่งแบน เพิ่มขึ้นจาก 426 เป็น 430 เหรียญสหรัฐต่อตัน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 0.94 แต่ เหล็กเส้นราคากลับลดลดจาก 472 เป็น 448 เหรียญสหรัฐต่อตัน ลดลง ร้อยละ 5.19 และเหล็กแท่งเล็กบิลเล็ต ลดลงจาก 412 เป็น 406 เหรียญสหรัฐต่อตัน ลดลง ร้อยละ 1.40
3. แนวโน้ม
สถานการณ์เหล็กในเดือน ธ.ค. 2549 คาดว่าทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยในส่วนของการผลิตเหล็กทรงยาวมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็นผลมาจากความต้องการใช้ซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหลังจากภาวะน้ำท่วม สำหรับในส่วนของเหล็กทรงแบนคาดการณ์ว่าการผลิตจะขยายตัวขึ้นตามอุตสาหกรรมต่อเนื่อง แต่ในส่วนของการส่งออก คาดการณ์ว่าจะลดลงเนื่องจากความต้องการใช้ของตลาดในประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าเหล็กที่สำคัญเริ่มอิ่มตัว ประกอบกับตลาดในกลุ่มประเทศ EU เริ่มชะลอตัวลง สำหรับการที่ประเทศจีนได้ประกาศจัดเก็บภาษีส่งออกของผลิตภัณฑ์เหล็กกึ่งสำเร็จรูป 10% จะส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตไทยเนื่องจากผู้ผลิตของโรงงานเหล็กชนิดที่ไม่มีเตาหลอมนี้ส่วนใหญ่จะนำเข้าผลิตภัณฑ์เหล็กกึ่งสำเร็จรูป เช่น เหล็กแท่งแบน (Slab) และเหล็กแท่งเล็ก (Billet ) จากประเทศจีน ซึ่งจะส่งผลทำให้ผู้ผลิตเหล่านี้มีต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น
5. อุตสาหกรรมยานยนต์
รถยนต์
อุตสาหกรรมรถยนต์ในเดือนพฤศจิกายน 2549 การผลิตค่อนข้างทรงตัวเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมา แต่การจำหน่ายในประเทศและการส่งออกขยายตัว โดยมีข้อมูลสภาวะอุตสาหกรรมรถยนต์ในเดือนพฤศจิกายน ดังนี้
- การผลิตรถยนต์ จำนวน 101,117 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2548 ซึ่งมีการผลิต 108,176 คัน ร้อยละ 6.53 และลดลงจากเดือนตุลาคม 2549 ร้อยละ 0.15
- การจำหน่ายรถยนต์ จำนวน 57,800 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2548 ซึ่งมีการจำหน่าย 63,417 คัน ร้อยละ 8.86 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2549 ร้อยละ 14.32
- การส่งออกรถยนต์ จำนวน 44,085 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2548 ซึ่งมีการส่งออก 40,952 คัน ร้อยละ 7.65 และเพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2549 ร้อยละ 5.53
- แนวโน้ม ภาวะอุตสาหกรรมรถยนต์ในเดือนธันวาคม 2549 คาดว่าขยายตัวขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2549 เนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูกาลขาย และมีการจัดงาน Motor Expo 2006 ในช่วงต้นเดือน ซึ่งในปีนี้มียอดขายภายในงาน 17,106 คัน และในปี 2549 คาดว่าจะมีการผลิตรถยนต์ประมาณ 1.2 ล้านคัน แบ่งเป็นการจำหน่ายในประเทศร้อยละ 55 และส่งออกร้อยละ 45 สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมรถยนต์ปี 2550 คาดว่าจะมีการผลิตประมาณ 1.28 ล้านคัน แบ่งเป็นการจำหน่ายภายในประเทศร้อยละ 53 และส่งออกร้อยละ 47
รถจักรยานยนต์
อุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ในเดือนพฤศจิกายน 2549 ขยายตัวเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมา โดยมีข้อมูลสภาวะอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ในเดือนพฤศจิกายน ดังนี้
- การผลิตรถจักรยานยนต์ จำนวน 155,646 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2548 ซึ่งมีการผลิต 225,594 คัน ร้อยละ 31.01 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2549 ร้อยละ 5.08
- การจำหน่าย จำนวน 158,601 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2548 ซึ่งมีการจำหน่าย 197,728 คัน ร้อยละ 19.79 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2549 ร้อยละ 9.98
- การส่งออกรถจักรยานยนต์มีจำนวน 6,149 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2548 ซึ่งมีการส่งออก 15,479 คัน ร้อยละ 60.28 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2549 ร้อยละ 2.16 สาเหตุที่มีการหดตัวของปริมาณการส่งออกรถจักรยานยนต์เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่าน ส่วนหนึ่งมาจากรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ของผู้ผลิตรายใหญ่ยังอยู่ในช่วงทดลองตลาด
- แนวโน้ม ภาวะอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ในเดือนธันวาคม 2549 คาดว่าจะขยายตัวจากเดือนพฤศจิกายน 2549 เนื่องจากเป็นฤดูกาลขายของรถจักรยานยนต์ และผู้ผลิตได้ออกโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขายช่วงสิ้นปี และปี 2549 คาดว่าจะมีการผลิตรถจักรยานยนต์ประมาณ 2.11 ล้านคัน แบ่งเป็นการจำหน่ายในประเทศร้อยละ 95 และส่งออกร้อยละ 5 สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมจักรยานยนต์ปี 2550 คาดว่าจะมีการผลิตประมาณ 2.2 ล้านคัน แบ่งเป็นจำหน่ายภายในประเทศร้อยละ 95 และส่งออกร้อยละ 5
(ยังมีต่อ).../6.อุตสาหกรรมปูน..

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ