วันนี้(10 ส.ค.50) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการพิจารณาผู้สมัครรับเลือกตั้งสภาผู้แทนราฎรของพรรค ว่า ที่ประชุมได้มีการหารือในหลายประเด็น แต่ที่สำคัญคือเป็นการวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ว่าเป็นสภาวะที่มีการแย่งตัวผู้สมัครที่เป็นอดีต ส.ส. ของพรรคต่างๆ อย่างมากผิดปกติ ทั้งกลุ่มอำนาจ และกลุ่มต่างๆ ที่พยายามจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา และยังพบความจริงว่า การเสนอให้ค่าตัวกับ อดีต ส.ส. หรือ ผู้สมัครรับเลือกตั้งที่มีแนวโน้มว่าจะได้รับเลือก มีอยู่จริงในหลายพื้นที่ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ มีความวิตกกังวล และเป็นห่วง ว่าสถานการณ์ที่กำลังจะมีขึ้น จะกลับไปสู่บรรยากาศที่ไม่พึงปรารถนา ที่เรียกว่า ธุรกิจการเมือง เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น เมื่อถึงวันเลือกตั้งการใช้เงินเพื่อให้ได้รับเลือก หรือ ให้ประโยชน์ในรูปแบบใด แบบหนึ่งก็จะเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้ง
นายองอาจ กล่าวต่อว่าดังนั้นทางพรรคประชาธิปัตย์ ต้องพิจารณาผู้รับสมัครเลือกตั้งอย่างรอบคอบ โดยไม่ใช้เงินประมูล อดีต ส.ส. หรือผู้สมัครรับเลือกตั้ง และซื้อเสียงเลือกตั้ง เพราะเห็นว่าการพิจารณาผู้สมัครต้องพิจารณาในหลายๆ ปัจจัย
นอกจากนี้ตัวแทนกลุ่มต่างๆ ก็ยังได้รายงานความเคลื่อนไหวทางการเมือง ว่าสถา ว หลังจากที่มีการยกเลิกคำสั่ง คปค. ฉบับที่ 15 และ 27 โดยในพื้นที่ที่ยังไม่ได้กำหนดตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง ได้มอบหมายให้ สาขาพรรค และสมาชิกในพื้นที่นั้นๆ จัดกิจกรรมทางการเมือง ส่วนในพื้นที่ใด ที่มีอดีต ส.ส. อยู่แล้ว ก็จะมีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งต่อไป ส่วนความเคลื่อนไหวทางการเมืองหลังจากนี้ของกลุ่มการเมืองต่างๆ ก็ได้มีการหารือกัน ซึ่งที่ประชุมก็มีความเป็นห่วง ถึงแม้ว่าประชาชนส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญดีขึ้น แต่สิ่งที่พรรควิตกกังวลก็คือ หากผลการลงประชามติ เห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบ ไม่แตกต่างกันมาก ก็อาจจะมีคนพยายามไปเป็นสร้างเงื่อนไขทางการเมืองที่ไม่พึงประสงค์
นายองอาจ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีการหารือถึงแนวทางการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งนอกเหนือจากการนำเสนอวาระประชาชน ก็ต้องนำเสนอผู้สมัครของพรรคในพื้นทีต่างๆ เพื่อให้ประชาชนเห็นความพร้อม ซึ่งต้องทำควบคู่ไปด้วย ดังนั้นหลังวันลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ จะมีความชัดเจนในเรื่องตัวผู้สมัคร รวมทั้งการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในพื้นที่ ก็จะเร่งไปทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ ภาคอีสาน ซึ่งเป็นพื้นที่ในที่ประชุมเห็นพ้องว่าต้องทำงานหนัก มากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ประชาชนมีความผูกพันกับพรรคประชาธิปัตย์เบาบางกว่าในพื้นที่อื่นๆ อย่างไรก็ตามเราเชื่อมั่นว่ากระแสของพรรคได้รับการตอบรับดีขึ้นกว่าเดิม อย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน ภายหลังที่ ของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ลงพื้นที่พบปะประชาชน ดังนั้น เราจะเร่งดำเนินการในลักษณะนี้ในหลายพื้นที่
นายองอาจกล่าวต่อว่า ในส่วนพื้นที่ กทม. คาดว่าไม่มีปัญหา เนื่องจากทางพรรคได้รวบรวมรายชื่อผู้ที่สนใจเอาไว้ ส่วนมากก็จะเป็นคนใหม่จากเดิมที่เราเคยมี ส.ส. อยู่ เพียง 4 คน แต่ในขณะนี้ยังไม่ได้มอบหมายให้ใครดูพื้นทีเป็นการเฉพาะแต่ในนายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็ได้ช่วยดูในภาพรวม จนกว่าจะเข้าสู่การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการตั้งกองอำนวยการเลือกตั้ง ส่วนจะประกาศรายชื่อผู้สมัครที่ชัดเจนได้เมื่อไรนั้น เบื้องต้นจะประกาศเป็นโซนๆ ไป โซนไหนที่พร้อมก็จะประกาศไปก่อน ซึ่งคงต้องดูผู้แข่งขันในแต่ละพื้นที่ด้วย
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีความเห็นว่า ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์มีความพร้อมในการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากมีผู้เสนอตัวที่จะลงเล่นการเมือง ทั้งที่เป็นนักการเมืองหน้าใหม่ จำนวนมากกว่าที่ส่งลงสมัครรับเลือกตั้งได้ อย่างไรก็ตามพรรคก็ได้มีการพิจารณาพื้นฐานหลายๆ ด้าน อาทิ เศรษฐกิจ เสียงสนับสนุนเดิมที่มีอยู่ในพื้นที่
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 10 ส.ค. 2550--จบ--
นายองอาจ กล่าวต่อว่าดังนั้นทางพรรคประชาธิปัตย์ ต้องพิจารณาผู้รับสมัครเลือกตั้งอย่างรอบคอบ โดยไม่ใช้เงินประมูล อดีต ส.ส. หรือผู้สมัครรับเลือกตั้ง และซื้อเสียงเลือกตั้ง เพราะเห็นว่าการพิจารณาผู้สมัครต้องพิจารณาในหลายๆ ปัจจัย
นอกจากนี้ตัวแทนกลุ่มต่างๆ ก็ยังได้รายงานความเคลื่อนไหวทางการเมือง ว่าสถา ว หลังจากที่มีการยกเลิกคำสั่ง คปค. ฉบับที่ 15 และ 27 โดยในพื้นที่ที่ยังไม่ได้กำหนดตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง ได้มอบหมายให้ สาขาพรรค และสมาชิกในพื้นที่นั้นๆ จัดกิจกรรมทางการเมือง ส่วนในพื้นที่ใด ที่มีอดีต ส.ส. อยู่แล้ว ก็จะมีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งต่อไป ส่วนความเคลื่อนไหวทางการเมืองหลังจากนี้ของกลุ่มการเมืองต่างๆ ก็ได้มีการหารือกัน ซึ่งที่ประชุมก็มีความเป็นห่วง ถึงแม้ว่าประชาชนส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญดีขึ้น แต่สิ่งที่พรรควิตกกังวลก็คือ หากผลการลงประชามติ เห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบ ไม่แตกต่างกันมาก ก็อาจจะมีคนพยายามไปเป็นสร้างเงื่อนไขทางการเมืองที่ไม่พึงประสงค์
นายองอาจ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีการหารือถึงแนวทางการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งนอกเหนือจากการนำเสนอวาระประชาชน ก็ต้องนำเสนอผู้สมัครของพรรคในพื้นทีต่างๆ เพื่อให้ประชาชนเห็นความพร้อม ซึ่งต้องทำควบคู่ไปด้วย ดังนั้นหลังวันลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ จะมีความชัดเจนในเรื่องตัวผู้สมัคร รวมทั้งการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในพื้นที่ ก็จะเร่งไปทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ ภาคอีสาน ซึ่งเป็นพื้นที่ในที่ประชุมเห็นพ้องว่าต้องทำงานหนัก มากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ประชาชนมีความผูกพันกับพรรคประชาธิปัตย์เบาบางกว่าในพื้นที่อื่นๆ อย่างไรก็ตามเราเชื่อมั่นว่ากระแสของพรรคได้รับการตอบรับดีขึ้นกว่าเดิม อย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน ภายหลังที่ ของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ลงพื้นที่พบปะประชาชน ดังนั้น เราจะเร่งดำเนินการในลักษณะนี้ในหลายพื้นที่
นายองอาจกล่าวต่อว่า ในส่วนพื้นที่ กทม. คาดว่าไม่มีปัญหา เนื่องจากทางพรรคได้รวบรวมรายชื่อผู้ที่สนใจเอาไว้ ส่วนมากก็จะเป็นคนใหม่จากเดิมที่เราเคยมี ส.ส. อยู่ เพียง 4 คน แต่ในขณะนี้ยังไม่ได้มอบหมายให้ใครดูพื้นทีเป็นการเฉพาะแต่ในนายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็ได้ช่วยดูในภาพรวม จนกว่าจะเข้าสู่การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการตั้งกองอำนวยการเลือกตั้ง ส่วนจะประกาศรายชื่อผู้สมัครที่ชัดเจนได้เมื่อไรนั้น เบื้องต้นจะประกาศเป็นโซนๆ ไป โซนไหนที่พร้อมก็จะประกาศไปก่อน ซึ่งคงต้องดูผู้แข่งขันในแต่ละพื้นที่ด้วย
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีความเห็นว่า ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์มีความพร้อมในการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากมีผู้เสนอตัวที่จะลงเล่นการเมือง ทั้งที่เป็นนักการเมืองหน้าใหม่ จำนวนมากกว่าที่ส่งลงสมัครรับเลือกตั้งได้ อย่างไรก็ตามพรรคก็ได้มีการพิจารณาพื้นฐานหลายๆ ด้าน อาทิ เศรษฐกิจ เสียงสนับสนุนเดิมที่มีอยู่ในพื้นที่
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 10 ส.ค. 2550--จบ--