แท็ก
กระทรวงการต่างประเทศ
อิทธิพร บุญประคอง
กรมการพัฒนาชุมชน
เศรษฐกิจพอเพียง
กระทรวงมหาดไทย
คิง พาวเวอร์
กรุงเทพ--18 เม.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2550 นายอิทธิพร บุญประคอง รองอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ และนายนิรันดร์ จงวุฒิเวศย์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงมหาดไทย เพื่อแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในการดำเนินโครงการการพัฒนาเด็กเคลื่อนที่บนถนนหมายเลข 67 (สะงำ - อันลองเวง - เสียมราฐ) ในจังหวัดอุดรมีชัย และโครงการจัดตั้งหมู่บ้านตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงบนถนนหมายเลข 48 (เกาะกง - สแรอัมเบิล) ในจังหวัดเกาะกงของกัมพูชา ตามที่รัฐบาลไทยและกัมพูชาได้เห็นชอบร่วมกันไว้
การดำเนินโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนความร่วมมือระหว่างไทยและกัมพูชา และเสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ
โครงการการพัฒนาเด็กเคลื่อนที่ฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้บิดามารดา/ผู้ปกครองเด็กที่อาศัยอยู่ในชุมชนบริเวณถนนหมายเลข 67 (สะงำ - อันลองเวง - เสียมราฐ) ได้มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง เกี่ยวกับการเลี้ยงดูเด็กตั้งแต่วัยแรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปี ให้เหมาะสมตามวัยและสภาพแวดล้อมของท้องถิ่น รวมทั้งมีพัฒนาการที่สมบูรณ์และแข็งแรงทั้งทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือทางวิชาการพัฒนาชุมชนเขตที่ 11 และสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดศรีสะเกษ จะเข้าไปดำเนินการในลักษณะเคลื่อนที่ในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนกันยายน 2550 โดยทำการคัดเลือกอาสาสมัครเพื่อเข้ารับการฝึกอบรมตามหลักวิชาการเพื่อให้สามารถถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์แก่บิดามารดา/ผู้ปกครองของเด็กต่อไป ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวถือเป็นโครงการนำร่องเพื่อปูทางไปสู่การจัดตั้งศูนย์พัฒนาเด็กอย่างถาวรต่อไปในอนาคต
โครงการจัดตั้งหมู่บ้านตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงฯ เป็นโครงการที่มุ่งส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ของประชาชนในชุมชนเป้าหมายบริเวณถนนหมายเลข 48 (เกาะกง - สแรอัมเบิล) ตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
การดำเนินโครงการฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ของไทยเพื่อช่วยในการพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนของประเทศเพื่อนบ้านให้ดีขึ้น อันจะช่วยลดปัญหาต่างๆ ที่เกิดจากความแตกต่างทางด้านเศรษฐกิจและสังคม และนำไปสู่การเสริมสร้างความเข้าใจกันระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศในที่สุด ทั้งนี้ ศูนย์ช่วยเหลือทางวิชาการพัฒนาชุมชนเขตที่ 2 และสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดตราด จะเริ่มดำเนินโครงการฯ ในช่วงเดือนเมษายน - กันยายน 2550
ประเทศไทยได้ให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนแก่กัมพูชาในการพัฒนาถนนหมายเลข 48 และหมายเลข 67 เพื่อสนับสนุนการเชื่อมโยงภาคตะวันออกของไทยกับภาคตะวันตกของกัมพูชา และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยกับภาคเหนือของกัมพูชา โดยนอกจากจะเป็นการอำนวยความสะดวกด้านการคมนาคมขนส่ง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับกัมพูชาแล้ว ยังช่วยส่งเสริมการไปมาหาสู่กันซึ่งนำไปสู่การแลกเปลี่ยนในรูปแบบต่าง ๆ ระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ อาทิ การนำผลผลิตทางการเกษตรออกสู่ท้องตลาด การแลกเปลี่ยนด้านการศึกษา สาธารณสุข วัฒนธรรม ฯลฯ
ดังนั้น การดำเนินโครงการทั้งสองข้างต้น จึงเป็นอีกความพยายามหนึ่งของรัฐบาลที่จะ “สานต่อ” ความช่วยเหลือที่ให้กับกัมพูชา และช่วยสร้างความเข้มแข็งให้แก่ประชาชนกัมพูชาในท้องถิ่น เพื่อให้สามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์อันเกิดจากการพัฒนาถนนหมายเลข 48 และ 67 ได้อย่างเต็มที่ต่อไปในอนาคต
เมื่อปี 2549 กระทรวงการต่างประเทศ โดยกรมเอเชียตะวันออกและกรมการพัฒนาชุมชนได้ร่วมมือกันจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนบนถนนหมายเลข 67 ที่หมู่บ้านโอกีกันดาล ตำบลลุมโตง อำเภออันลองเวง จังหวัดอุดรมีชัย เพื่อถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ด้านการพัฒนาแก่ประชาชนกัมพูชาให้สามารถพัฒนาชุมชนของตนบนพื้นฐานของการพึ่งพาตนเอง โดยใช้ประโยชน์จากภูมิปัญญาชาวบ้านและทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อช่วยยกระดับฐานะความเป็นอยู่และการพัฒนาคุณภาพชีวิต
นอกจากนั้น ยังได้ร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตราดในการพัฒนาสถานีอนามัยอันดวงตึ๊ก อำเภอปทุมสาโก จังหวัดเกาะกง บริเวณถนนหมายเลข 48 เพื่อช่วยพัฒนาการให้บริการด้านสาธารณสุขที่มีคุณภาพแก่ประชาชนในท้องถิ่น และมีเป้าหมายที่จะยกระดับสถานีอนามัยดังกล่าวให้เป็นโรงพยาบาลขนาด 10 เตียง ขณะนี้ อยู่ในระหว่างการดำเนินการ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2550 นายอิทธิพร บุญประคอง รองอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ และนายนิรันดร์ จงวุฒิเวศย์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงมหาดไทย เพื่อแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในการดำเนินโครงการการพัฒนาเด็กเคลื่อนที่บนถนนหมายเลข 67 (สะงำ - อันลองเวง - เสียมราฐ) ในจังหวัดอุดรมีชัย และโครงการจัดตั้งหมู่บ้านตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงบนถนนหมายเลข 48 (เกาะกง - สแรอัมเบิล) ในจังหวัดเกาะกงของกัมพูชา ตามที่รัฐบาลไทยและกัมพูชาได้เห็นชอบร่วมกันไว้
การดำเนินโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนความร่วมมือระหว่างไทยและกัมพูชา และเสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ
โครงการการพัฒนาเด็กเคลื่อนที่ฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้บิดามารดา/ผู้ปกครองเด็กที่อาศัยอยู่ในชุมชนบริเวณถนนหมายเลข 67 (สะงำ - อันลองเวง - เสียมราฐ) ได้มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง เกี่ยวกับการเลี้ยงดูเด็กตั้งแต่วัยแรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปี ให้เหมาะสมตามวัยและสภาพแวดล้อมของท้องถิ่น รวมทั้งมีพัฒนาการที่สมบูรณ์และแข็งแรงทั้งทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือทางวิชาการพัฒนาชุมชนเขตที่ 11 และสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดศรีสะเกษ จะเข้าไปดำเนินการในลักษณะเคลื่อนที่ในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนกันยายน 2550 โดยทำการคัดเลือกอาสาสมัครเพื่อเข้ารับการฝึกอบรมตามหลักวิชาการเพื่อให้สามารถถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์แก่บิดามารดา/ผู้ปกครองของเด็กต่อไป ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวถือเป็นโครงการนำร่องเพื่อปูทางไปสู่การจัดตั้งศูนย์พัฒนาเด็กอย่างถาวรต่อไปในอนาคต
โครงการจัดตั้งหมู่บ้านตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงฯ เป็นโครงการที่มุ่งส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ของประชาชนในชุมชนเป้าหมายบริเวณถนนหมายเลข 48 (เกาะกง - สแรอัมเบิล) ตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
การดำเนินโครงการฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ของไทยเพื่อช่วยในการพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนของประเทศเพื่อนบ้านให้ดีขึ้น อันจะช่วยลดปัญหาต่างๆ ที่เกิดจากความแตกต่างทางด้านเศรษฐกิจและสังคม และนำไปสู่การเสริมสร้างความเข้าใจกันระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศในที่สุด ทั้งนี้ ศูนย์ช่วยเหลือทางวิชาการพัฒนาชุมชนเขตที่ 2 และสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดตราด จะเริ่มดำเนินโครงการฯ ในช่วงเดือนเมษายน - กันยายน 2550
ประเทศไทยได้ให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนแก่กัมพูชาในการพัฒนาถนนหมายเลข 48 และหมายเลข 67 เพื่อสนับสนุนการเชื่อมโยงภาคตะวันออกของไทยกับภาคตะวันตกของกัมพูชา และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยกับภาคเหนือของกัมพูชา โดยนอกจากจะเป็นการอำนวยความสะดวกด้านการคมนาคมขนส่ง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับกัมพูชาแล้ว ยังช่วยส่งเสริมการไปมาหาสู่กันซึ่งนำไปสู่การแลกเปลี่ยนในรูปแบบต่าง ๆ ระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ อาทิ การนำผลผลิตทางการเกษตรออกสู่ท้องตลาด การแลกเปลี่ยนด้านการศึกษา สาธารณสุข วัฒนธรรม ฯลฯ
ดังนั้น การดำเนินโครงการทั้งสองข้างต้น จึงเป็นอีกความพยายามหนึ่งของรัฐบาลที่จะ “สานต่อ” ความช่วยเหลือที่ให้กับกัมพูชา และช่วยสร้างความเข้มแข็งให้แก่ประชาชนกัมพูชาในท้องถิ่น เพื่อให้สามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์อันเกิดจากการพัฒนาถนนหมายเลข 48 และ 67 ได้อย่างเต็มที่ต่อไปในอนาคต
เมื่อปี 2549 กระทรวงการต่างประเทศ โดยกรมเอเชียตะวันออกและกรมการพัฒนาชุมชนได้ร่วมมือกันจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนบนถนนหมายเลข 67 ที่หมู่บ้านโอกีกันดาล ตำบลลุมโตง อำเภออันลองเวง จังหวัดอุดรมีชัย เพื่อถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ด้านการพัฒนาแก่ประชาชนกัมพูชาให้สามารถพัฒนาชุมชนของตนบนพื้นฐานของการพึ่งพาตนเอง โดยใช้ประโยชน์จากภูมิปัญญาชาวบ้านและทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อช่วยยกระดับฐานะความเป็นอยู่และการพัฒนาคุณภาพชีวิต
นอกจากนั้น ยังได้ร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตราดในการพัฒนาสถานีอนามัยอันดวงตึ๊ก อำเภอปทุมสาโก จังหวัดเกาะกง บริเวณถนนหมายเลข 48 เพื่อช่วยพัฒนาการให้บริการด้านสาธารณสุขที่มีคุณภาพแก่ประชาชนในท้องถิ่น และมีเป้าหมายที่จะยกระดับสถานีอนามัยดังกล่าวให้เป็นโรงพยาบาลขนาด 10 เตียง ขณะนี้ อยู่ในระหว่างการดำเนินการ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-