ในที่สุดการตัดสินคดียุบพรรคก็ผ่านพ้นไป ในส่วนของผมและพรรคประชาธิปัตย์ขอกราบขอบพระคุณพี่น้องประชาชนทุกคนที่เป็นกำลังใจให้เรามาโดยตลอดการต่อสู้คดี สิ่งที่เราจะตอบแทนได้ดีที่สุด คือ การทุ่มเททำงานให้ประชาชน บนวิถีทางและอุดมการณ์ของพรรคที่เรายึดมั่นมากว่า ๖๑ ปี
แน่นอนที่สุด ผลพวงที่ตามมาจากการตัดสินยังคงเป็นปมปัญหาของการเมืองไทยต่อไป ซึ่งผู้เกี่ยวข้องจะต้องเร่งคลี่คลาย ขอให้ทุกฝ่ายยึดแนวทางของสันติวิธี การปฏิบัติตามกฎหมาย และหลักประชาธิปไตย ทุกอย่างก็จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ผมได้เสนอไปแล้วว่า ควรจะมีการอนุญาตให้จัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ได้โดยเร็ว เพื่อให้ผู้สนับสนุนพรรคการเมืองและนักการเมืองทุกฝ่ายมีโอกาสในการแข่งขันตามวิถีทางรัฐสภาในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นปลายปีนี้
ที่ต้องเร่งคลี่คลายปัญหา ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของนักการเมืองแต่เพราะปัญหาของประชาชนที่เกิดขึ้นในขณะนี้ มาจากปัญหาใหญ่ที่เรียกรวมๆว่า “ปัญหาความเชื่อมั่น”
เศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงในขณะนี้ ที่ส่งผลให้ประชาชนเผชิญปัญหาปากท้อง ความฝืดเคือง ก็เป็นผลพวงมาจากทั้งเหตุการณ์ทางการเมือง ความไม่สงบ และมาตรการที่มีผลสั่นคลอนความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจทั้งไทยและต่างประเทศ ตลอดจนความเชื่อมั่นของประชาชนที่จะจับจ่ายใช้สอย
ขณะเดียวกันปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้น ก็ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินโดยรวม ประชาชนโดยเฉพาะใน ๓ จังหวัดภาคใต้และหลายอำเภอของจังหวัดสงขลา ก็อยู่บนพื้นฐานของความกลัวและความโกรธ
เมื่อ ๒ ปัญหามาบรรจบกัน ก็ทำให้เกิดวงจรที่เลวร้าย โดยภาพสะท้อนที่ชัดเจนที่สุดอยู่ที่พื้นที่ชายแดนภาคใต้
ผมจึงได้เดินทางไปที่อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา และจังหวัดปัตตานี เมื่อวันศุกร์ที่ ๑ มิถุนายน ที่ผ่านมา เพื่อเยี่ยมเยียนผู้ได้รับบาดเจ็บ เคารพศพผู้เสียชีวิต และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับภาคธุรกิจทั้งที่ปัตตานีและหาดใหญ่
แม้ในขณะที่อยู่ในพื้นที่ ก็มีปัญหาการชุมนุมปิดถนนที่จังหวัดปัตตานี และตลอดการเดินทางเมื่อเข้าสู่พื้นที่บางอำเภอของจังหวัดสงขลา ก็จะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์เพราะถูกตัด
สิ่งที่ได้พบเห็นที่น่าเป็นห่วงมีมาก เช่น
- มีการขึ้นป้ายของพี่น้องที่ตลาดสะบ้าย้อยที่ถูกระเบิดและมีผู้เสียชีวิตที่เป็นเด็ก ที่บ่งบอก
ถึงความโกรธแค้น และความรู้สึกถูกทอดทิ้งจากภาครัฐ
- มีใบปลิว ทั้งที่เป็นการโจมตีกล่าวหาภาครัฐว่า กระทำการที่ไม่เป็นธรรมต่อพี่น้องชาว
มุสลิม และทั้งที่โจมตีพี่น้องชาวมุสลิม
- การขาดขวัญและกำลังใจของประชาชน และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานซึ่งบางแห่งยังไม่ได้
รับเบี้ยเสี่ยงภัย
- ความไม่สามารถที่จะประกอบอาชีพหรือทำมาหากินได้ตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร
ในชนบท ที่ไม่กล้าเก็บเกี่ยวผลผลิต หรือ กรีดยาง หรือ ชาวหาดใหญ่ ซึ่งนักท่องเที่ยวได้ลดลงไปถึงร้อยละ ๖๐ — ๗๐
ผมได้แสดงความคิดเห็นและเสนอแนะเกี่ยวกับปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ในภาพรวมหลายครั้งแล้ว (ดูบทความใน www.abhisit.org เรื่อง ข้อเสนอเพื่อสนับสนุนการดับไฟใต้: อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๙) จะไม่ขยายความในส่วนนั้นเพิ่มเติมอีก แต่มีแนวคิดที่อยากให้รัฐบาลเร่งทำเพื่อแก้ปัญหาที่เร่งด่วน ดังนี้
๑. ต้องหยุดยั้งปัญหาไม่ให้ขยายวงกว้างเข้าสู่พื้นที่ เช่น หาดใหญ่ให้ได้ มิฉะนั้นสภาพปัญหาทั้งในเชิงความมั่นคง และในเชิงเศรษฐกิจ จะถูกยกระดับขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง หากหลายประเทศยังคงแนะนำให้คนของประเทศนั้นๆระงับการเดินทางมาหาดใหญ่ต่อไป ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะกว้างขวาง รุนแรงมาก
หาดใหญ่ยังเป็นพื้นที่ที่รัฐจะแสดงออกถึงความสามารถในการรักษาความปลอดภัยได้อย่างชัดเจน โดยการเร่งดำเนินการโครงการต่อไปนี้
- ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาและเทศบาลนครหาดใหญ่
ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมจากที่ได้ดำเนินการไปบางส่วน และ บูรณาการระบบข้อมูล จะเห็นได้ว่า การก่อเหตุในครั้งล่าสุดจะหลีกเลี่ยงบริเวณที่ได้มีการติดตั้งกล้องไปแล้ว
- เสริมกำลังพลของตำรวจ และจัดให้มีการตรวจตราตลอดอย่างต่อเนื่อง
- ดำเนินโครงการให้ประชาคมในพื้นที่ เช่น แต่ละถนน ชุมชน ซอยจัดระบบของการ
สอดส่องดูแลกันเอง โดยได้รับการอบรมให้มีความรู้เกี่ยวกับการป้องกันและแจ้งเหตุก่อการร้าย ซึ่งในหาดใหญ่ทำได้ง่ายเพราะไม่มีปัญหามวลชน
- ประชาสัมพันธ์มาตรการทั้งหลายเพื่อให้นักท่องเที่ยวและรัฐบาลต่างชาติเกิดความ
มั่นใจ
๒. ทำเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษให้เป็นเศรษฐกิจเพื่อชาวบ้านอย่างแท้จริง
ปัจจุบันนี้รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือภาคธุรกิจในด้านภาษีและเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเป็นหลัก
ซึ่งเป็นมาตรการที่ควรเร่งรัดเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนต่างๆที่เกิดขึ้น แต่มาตรการเหล่านี้อาจเรียกได้ว่าเป็นมาตรการพิเศษสำหรับเฉพาะพื้นที่ มากกว่าที่จะเห็นภาพที่ชัดเจนว่าเป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษอย่างไร
หากจะให้เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษอย่างแท้จริง ก็ควรที่จะมีโครงการ/มาตรการ ใน
การส่งเสริมสนับสนุนพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประชาชน โดยร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ผมมองว่ารัฐควรเร่งจัดทำแผนและดำเนินการในด้านต่างๆ ดังนี้
- การส่งเสริมการค้าชายแดน เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่ การผ่อน
คลายกฎ ระเบียบต่างๆ นอกจากจะลดปัญหาความขัดแย้ง และผลประโยชน์ ระหว่างเจ้าหน้าที่ กับ ประชาชนแล้ว ยังจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี
- จัดระเบียบและส่งเสริมการประมง ทั้งในส่วนของประมงพื้นบ้านและประมงขนาด
ใหญ่ โดยรัฐเข้าไปร่วมเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเพิ่มพูนโอกาสให้ธุรกิจประมงไทย ช่วยฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่ง และ ส่งเสริมให้อุตสาหกรรมประมงปรับตัว โดยคำนึงถึงการใช้วิธีที่ประหยัดพลังงานและสอดคล้องกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆกัน
- เร่งช่วยเหลือเกษตรกรให้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิต และสร้างตลาดรองรับ
- สร้างฐานส่งออกอาหารฮาลาล โดยเชื่อมโยงกลับไปถึงระดับชุมชน เช่น การให้ท้องถิ่น
ร่วมกันส่งเสริมการเลี้ยงไก่ เลี้ยงแพะ เป็นต้น
- จัดทำแผนพัฒนากำลังคนในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อปรับปรุงสถานศึกษา
ในพื้นที่
- จัดทำแผนท่องเที่ยวจังหวัดสงขลาและ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกเหนือจาก
หาดใหญ่
ที่ได้หยิบปัญหาและมาตรการเหล่านี้มาเป็นกรณีตัวอย่าง ก็เพื่อจะชี้ให้เห็นด้วยว่า การแก้ปัญหาของประชาชนเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน ในภาวะที่เวลาและทรัพยากรของสังคมยังหมกมุ่นอยู่กับปัญหาการเมือง ขณะเดียวกันจะเห็นได้เช่นเดียวกันว่า การแก้ปัญหาทั้งหลายนี้ ต้องอาศัยความมั่นคง การมีเสถียรภาพของสังคมการเมือง การทำงานที่คลุกคลีใกล้ชิดกับท้องถิ่นและประชาชน
ปัญหาในระดับชาติ และพื้นที่อื่นๆก็เช่นกัน ดังนั้นสิ่งสำคัญที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน คือ การยุติความรุนแรง จัดทำกติกาบ้านเมืองให้เป็นประชาธิปไตย สร้างความชัดเจนทางการเมือง เพื่อทุกฝ่ายจะได้ทุ่มเทไปที่เป้าหมายของการแก้ปัญหาให้ประชาชนคนไทยทุกคน โดยการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และนำความสันติสุขกลับคืนมา
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 3 มิ.ย. 2550--จบ--
แน่นอนที่สุด ผลพวงที่ตามมาจากการตัดสินยังคงเป็นปมปัญหาของการเมืองไทยต่อไป ซึ่งผู้เกี่ยวข้องจะต้องเร่งคลี่คลาย ขอให้ทุกฝ่ายยึดแนวทางของสันติวิธี การปฏิบัติตามกฎหมาย และหลักประชาธิปไตย ทุกอย่างก็จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ผมได้เสนอไปแล้วว่า ควรจะมีการอนุญาตให้จัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ได้โดยเร็ว เพื่อให้ผู้สนับสนุนพรรคการเมืองและนักการเมืองทุกฝ่ายมีโอกาสในการแข่งขันตามวิถีทางรัฐสภาในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นปลายปีนี้
ที่ต้องเร่งคลี่คลายปัญหา ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของนักการเมืองแต่เพราะปัญหาของประชาชนที่เกิดขึ้นในขณะนี้ มาจากปัญหาใหญ่ที่เรียกรวมๆว่า “ปัญหาความเชื่อมั่น”
เศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงในขณะนี้ ที่ส่งผลให้ประชาชนเผชิญปัญหาปากท้อง ความฝืดเคือง ก็เป็นผลพวงมาจากทั้งเหตุการณ์ทางการเมือง ความไม่สงบ และมาตรการที่มีผลสั่นคลอนความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจทั้งไทยและต่างประเทศ ตลอดจนความเชื่อมั่นของประชาชนที่จะจับจ่ายใช้สอย
ขณะเดียวกันปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้น ก็ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินโดยรวม ประชาชนโดยเฉพาะใน ๓ จังหวัดภาคใต้และหลายอำเภอของจังหวัดสงขลา ก็อยู่บนพื้นฐานของความกลัวและความโกรธ
เมื่อ ๒ ปัญหามาบรรจบกัน ก็ทำให้เกิดวงจรที่เลวร้าย โดยภาพสะท้อนที่ชัดเจนที่สุดอยู่ที่พื้นที่ชายแดนภาคใต้
ผมจึงได้เดินทางไปที่อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา และจังหวัดปัตตานี เมื่อวันศุกร์ที่ ๑ มิถุนายน ที่ผ่านมา เพื่อเยี่ยมเยียนผู้ได้รับบาดเจ็บ เคารพศพผู้เสียชีวิต และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับภาคธุรกิจทั้งที่ปัตตานีและหาดใหญ่
แม้ในขณะที่อยู่ในพื้นที่ ก็มีปัญหาการชุมนุมปิดถนนที่จังหวัดปัตตานี และตลอดการเดินทางเมื่อเข้าสู่พื้นที่บางอำเภอของจังหวัดสงขลา ก็จะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์เพราะถูกตัด
สิ่งที่ได้พบเห็นที่น่าเป็นห่วงมีมาก เช่น
- มีการขึ้นป้ายของพี่น้องที่ตลาดสะบ้าย้อยที่ถูกระเบิดและมีผู้เสียชีวิตที่เป็นเด็ก ที่บ่งบอก
ถึงความโกรธแค้น และความรู้สึกถูกทอดทิ้งจากภาครัฐ
- มีใบปลิว ทั้งที่เป็นการโจมตีกล่าวหาภาครัฐว่า กระทำการที่ไม่เป็นธรรมต่อพี่น้องชาว
มุสลิม และทั้งที่โจมตีพี่น้องชาวมุสลิม
- การขาดขวัญและกำลังใจของประชาชน และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานซึ่งบางแห่งยังไม่ได้
รับเบี้ยเสี่ยงภัย
- ความไม่สามารถที่จะประกอบอาชีพหรือทำมาหากินได้ตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร
ในชนบท ที่ไม่กล้าเก็บเกี่ยวผลผลิต หรือ กรีดยาง หรือ ชาวหาดใหญ่ ซึ่งนักท่องเที่ยวได้ลดลงไปถึงร้อยละ ๖๐ — ๗๐
ผมได้แสดงความคิดเห็นและเสนอแนะเกี่ยวกับปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ในภาพรวมหลายครั้งแล้ว (ดูบทความใน www.abhisit.org เรื่อง ข้อเสนอเพื่อสนับสนุนการดับไฟใต้: อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๙) จะไม่ขยายความในส่วนนั้นเพิ่มเติมอีก แต่มีแนวคิดที่อยากให้รัฐบาลเร่งทำเพื่อแก้ปัญหาที่เร่งด่วน ดังนี้
๑. ต้องหยุดยั้งปัญหาไม่ให้ขยายวงกว้างเข้าสู่พื้นที่ เช่น หาดใหญ่ให้ได้ มิฉะนั้นสภาพปัญหาทั้งในเชิงความมั่นคง และในเชิงเศรษฐกิจ จะถูกยกระดับขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง หากหลายประเทศยังคงแนะนำให้คนของประเทศนั้นๆระงับการเดินทางมาหาดใหญ่ต่อไป ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะกว้างขวาง รุนแรงมาก
หาดใหญ่ยังเป็นพื้นที่ที่รัฐจะแสดงออกถึงความสามารถในการรักษาความปลอดภัยได้อย่างชัดเจน โดยการเร่งดำเนินการโครงการต่อไปนี้
- ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาและเทศบาลนครหาดใหญ่
ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมจากที่ได้ดำเนินการไปบางส่วน และ บูรณาการระบบข้อมูล จะเห็นได้ว่า การก่อเหตุในครั้งล่าสุดจะหลีกเลี่ยงบริเวณที่ได้มีการติดตั้งกล้องไปแล้ว
- เสริมกำลังพลของตำรวจ และจัดให้มีการตรวจตราตลอดอย่างต่อเนื่อง
- ดำเนินโครงการให้ประชาคมในพื้นที่ เช่น แต่ละถนน ชุมชน ซอยจัดระบบของการ
สอดส่องดูแลกันเอง โดยได้รับการอบรมให้มีความรู้เกี่ยวกับการป้องกันและแจ้งเหตุก่อการร้าย ซึ่งในหาดใหญ่ทำได้ง่ายเพราะไม่มีปัญหามวลชน
- ประชาสัมพันธ์มาตรการทั้งหลายเพื่อให้นักท่องเที่ยวและรัฐบาลต่างชาติเกิดความ
มั่นใจ
๒. ทำเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษให้เป็นเศรษฐกิจเพื่อชาวบ้านอย่างแท้จริง
ปัจจุบันนี้รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือภาคธุรกิจในด้านภาษีและเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเป็นหลัก
ซึ่งเป็นมาตรการที่ควรเร่งรัดเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนต่างๆที่เกิดขึ้น แต่มาตรการเหล่านี้อาจเรียกได้ว่าเป็นมาตรการพิเศษสำหรับเฉพาะพื้นที่ มากกว่าที่จะเห็นภาพที่ชัดเจนว่าเป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษอย่างไร
หากจะให้เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษอย่างแท้จริง ก็ควรที่จะมีโครงการ/มาตรการ ใน
การส่งเสริมสนับสนุนพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประชาชน โดยร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ผมมองว่ารัฐควรเร่งจัดทำแผนและดำเนินการในด้านต่างๆ ดังนี้
- การส่งเสริมการค้าชายแดน เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่ การผ่อน
คลายกฎ ระเบียบต่างๆ นอกจากจะลดปัญหาความขัดแย้ง และผลประโยชน์ ระหว่างเจ้าหน้าที่ กับ ประชาชนแล้ว ยังจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี
- จัดระเบียบและส่งเสริมการประมง ทั้งในส่วนของประมงพื้นบ้านและประมงขนาด
ใหญ่ โดยรัฐเข้าไปร่วมเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเพิ่มพูนโอกาสให้ธุรกิจประมงไทย ช่วยฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่ง และ ส่งเสริมให้อุตสาหกรรมประมงปรับตัว โดยคำนึงถึงการใช้วิธีที่ประหยัดพลังงานและสอดคล้องกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆกัน
- เร่งช่วยเหลือเกษตรกรให้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิต และสร้างตลาดรองรับ
- สร้างฐานส่งออกอาหารฮาลาล โดยเชื่อมโยงกลับไปถึงระดับชุมชน เช่น การให้ท้องถิ่น
ร่วมกันส่งเสริมการเลี้ยงไก่ เลี้ยงแพะ เป็นต้น
- จัดทำแผนพัฒนากำลังคนในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อปรับปรุงสถานศึกษา
ในพื้นที่
- จัดทำแผนท่องเที่ยวจังหวัดสงขลาและ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกเหนือจาก
หาดใหญ่
ที่ได้หยิบปัญหาและมาตรการเหล่านี้มาเป็นกรณีตัวอย่าง ก็เพื่อจะชี้ให้เห็นด้วยว่า การแก้ปัญหาของประชาชนเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน ในภาวะที่เวลาและทรัพยากรของสังคมยังหมกมุ่นอยู่กับปัญหาการเมือง ขณะเดียวกันจะเห็นได้เช่นเดียวกันว่า การแก้ปัญหาทั้งหลายนี้ ต้องอาศัยความมั่นคง การมีเสถียรภาพของสังคมการเมือง การทำงานที่คลุกคลีใกล้ชิดกับท้องถิ่นและประชาชน
ปัญหาในระดับชาติ และพื้นที่อื่นๆก็เช่นกัน ดังนั้นสิ่งสำคัญที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน คือ การยุติความรุนแรง จัดทำกติกาบ้านเมืองให้เป็นประชาธิปไตย สร้างความชัดเจนทางการเมือง เพื่อทุกฝ่ายจะได้ทุ่มเทไปที่เป้าหมายของการแก้ปัญหาให้ประชาชนคนไทยทุกคน โดยการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และนำความสันติสุขกลับคืนมา
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 3 มิ.ย. 2550--จบ--