สำนักงานเศรฐกิจการเกษตร ยกพลมุ่งหน้าสู่ชลบุรี จัดสัมมนา “โอกาสการตลาดที่ท้าทายการพัฒนามันสำปะหลัง” 27 สิงหาคมนี้ เพื่อระดมความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องในการเสนอแนะแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนามันสำปะหลังต่อไป
นางนารีณัฐ รุณภัย ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเศรษฐกิจการเกษตร ในฐานะรองโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ไทยเป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังมากเป็นอันดับ 1 ของโลก มีส่วนแบ่งการตลาดถึงร้อยละ 85 ของโลก สามารถทำรายได้ให้แก่ประเทศปีละกว่า 40,000 ล้านบาท เป็นแหล่งที่มาของรายได้ที่สำคัญของเกษตรกร โดยที่มันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ทั้งที่เป็นอาหารและมิใช่อาหาร สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าได้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตพลังงานทดแทนน้ำมันเชื้อเพลิง
เนื่องจากกระแสความต้องการใช้สินค้าเกษตรเพื่อผลิตพลังงานทดแทนของโลกเพิ่มมากขึ้น และขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้อุปทานของสินค้าเกษตรเหล่านี้ ได้แก่ ข้าวโพด ข้าวสาลี มันสำปะหลัง อ้อย ถูกดึงเข้าสู่อุตสาหกรรมเอทานอลมากขึ้น อุตสาหกรรมเดิม เช่น แป้ง อาหารสัตว์ จึงต้องมีการแข่งขัน ทั้งทางด้านราคาและการหาวัตถุดิบอื่นเพื่อทดแทน
ดังนั้น เพื่อให้มีมันสำปะหลังเพียงพอกับความต้องการ ทั้งในอุตสาหกรรมเดิม คือ มันเส้น มันอัดเม็ด และแป้งมันสำปะหลัง รวมทั้งในอุตสาหกรรมใหม่คือ เอทานอล จึงจำเป็นต้องเร่งพัฒนาเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กำหนดแผนปฏิบัติการพัฒนามันสำปะหลังออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะเร่งด่วน ระยะสั้น และระยะยาว และเพื่อให้แผนปฏิบัติการดังกล่าวเกิดผลเป็นรูปธรรม ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อวงการอุตสาหกรรมทั้งระบบ
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร จึงได้จัดให้มีการสัมมนา เรื่อง “โอกาสการตลาดที่ท้าทายการพัฒนามันสำปะหลัง” ตั้งแต่เวลา 08.30 - 16.30 น. ณ โรงแรมชลจันทร์ จังหวัดชลบุรี เพื่อระดมความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งจากภาครัฐ ผู้ประกอบการ และเกษตรกร ให้ได้มีโอกาสแสดงความเห็น รวมทั้งเสนอแนะแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนามันสำปะหลัง จึงขอเชิญสื่อมวลชนและผู้สนใจเข้าร่วมสัมมนาตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--
-พห-
นางนารีณัฐ รุณภัย ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเศรษฐกิจการเกษตร ในฐานะรองโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ไทยเป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังมากเป็นอันดับ 1 ของโลก มีส่วนแบ่งการตลาดถึงร้อยละ 85 ของโลก สามารถทำรายได้ให้แก่ประเทศปีละกว่า 40,000 ล้านบาท เป็นแหล่งที่มาของรายได้ที่สำคัญของเกษตรกร โดยที่มันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ทั้งที่เป็นอาหารและมิใช่อาหาร สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าได้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตพลังงานทดแทนน้ำมันเชื้อเพลิง
เนื่องจากกระแสความต้องการใช้สินค้าเกษตรเพื่อผลิตพลังงานทดแทนของโลกเพิ่มมากขึ้น และขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้อุปทานของสินค้าเกษตรเหล่านี้ ได้แก่ ข้าวโพด ข้าวสาลี มันสำปะหลัง อ้อย ถูกดึงเข้าสู่อุตสาหกรรมเอทานอลมากขึ้น อุตสาหกรรมเดิม เช่น แป้ง อาหารสัตว์ จึงต้องมีการแข่งขัน ทั้งทางด้านราคาและการหาวัตถุดิบอื่นเพื่อทดแทน
ดังนั้น เพื่อให้มีมันสำปะหลังเพียงพอกับความต้องการ ทั้งในอุตสาหกรรมเดิม คือ มันเส้น มันอัดเม็ด และแป้งมันสำปะหลัง รวมทั้งในอุตสาหกรรมใหม่คือ เอทานอล จึงจำเป็นต้องเร่งพัฒนาเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กำหนดแผนปฏิบัติการพัฒนามันสำปะหลังออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะเร่งด่วน ระยะสั้น และระยะยาว และเพื่อให้แผนปฏิบัติการดังกล่าวเกิดผลเป็นรูปธรรม ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อวงการอุตสาหกรรมทั้งระบบ
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร จึงได้จัดให้มีการสัมมนา เรื่อง “โอกาสการตลาดที่ท้าทายการพัฒนามันสำปะหลัง” ตั้งแต่เวลา 08.30 - 16.30 น. ณ โรงแรมชลจันทร์ จังหวัดชลบุรี เพื่อระดมความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งจากภาครัฐ ผู้ประกอบการ และเกษตรกร ให้ได้มีโอกาสแสดงความเห็น รวมทั้งเสนอแนะแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนามันสำปะหลัง จึงขอเชิญสื่อมวลชนและผู้สนใจเข้าร่วมสัมมนาตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--
-พห-