“ อลงกรณ์”เผย 4 จุดอันตรายของสนามบินสุวรรณภูมิ เร่งรัดกระทรวงคมนาคมตัดสินใจอนาคตสุวรรณภูมิก่อนสายการบินนานาชาติผละหนีกระทบเป้าหมาย”ฮับแห่งเอเชีย” จี้เอาผิด”ทักษิณ”และอดีตรัฐมนตรีคมนาคมรัฐบาลเก่า ชี้ช่องสอบบริษัทที่ปรึกษาPMCจะพบราบยการหมกเม็ดทั้งหมดของรัฐบาลทักษิณ แนะเมษายนดีเดย์ย้ายเที่ยวบินภายในประเทศและโลว์คอสแอร์ไลน์ไปดอนเมือง ชี้ข้อเสนอของปชป.เรื่องยุทธศาสตร์บูรณาการสุวรรณภูมิ-ดอนเมืองคือทางออกที่ดี
นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แถลงวันนี้(๒๗ ม.ค.)ที่พรรคประชาธิปัตย์ว่า กระทรวงคมนาคมจะต้องเร่งตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของสนามบินสุวรรณภูมิให้เสร็จสิ้นภายในเดือนมีนาคมนี้เป็นอย่างช้ามิฉะนั้นอาจมีผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อสถานะการเป็นศูนย์กลางการบินในเอเซียหรือฮับแห่งเอเซียของประเทศไทยเพราะปัญหาการใช้สนามบินสุวรรณภูมิเริ่มลามไปสู่ปัญหาการขึ้นลงของเที่ยวบินทั้งในประเทศและต่างประเทศโดยเฉพาะกรณีที่มีการซ่อมแซมรันเวย์และแท็กซี่เวย์อันเกิดจากรอยร้าวและการทรุดตัวทำให้บางเที่ยวบินต้องบินวนจนน้ำมันใกล้หมดและต้องไปร่อนลงเติมน้ำมันที่สนามบินอู่ตะเภาที่เป็นสนามบินสำรองตามที่ลงทะเบียนไว้กับองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ(ICAO)อันอาจส่งผลถึงปัญหาความปลอดภัย(Safety Factors)ในการใช้สนามบินสุวรรณภูมิ
“ปัญหารันเวย์และแท็กซี่เวย์ร้าวและทรุดตัวนั้น พรรคประชาธิปัตย์และสื่อมวลชนเคยตรวจพบและเสนอให้รัฐบาลทักษิณและรัฐมนตรีคมนาคมในขณะนั้นพิจารณาแก้ไขก่อนการเปิดใช้สุวรรณภูมิในเดือนกันยายน ๒๕๔๙ แต่กลับไม่แก้ไขและหมกปัญหาจนทุกวันนี้มีปัญหาเกิดขึ้นซึ่งรัฐบาลปัจจุบันจะต้องให้คตส.เอาผิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการบริหารการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ(กทภ.)และรัฐมนตรีคมนาคมทุกคนในรัฐบาลทักษิณ ๑ และทักษิณ ๒ เพราะมีส่วนร่วมในการก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐโดยตรงอย่างชัดแจ้งยังผลให้สุวรรณภูมิกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการคอร์รัปชันและความล้มเหลวทางการบริหาร”
นายอลงกรณ์ กล่าวต่อไปว่า สนามบินสุวรรณภูมิมีจุดอันตราย ๔ จุด นอกจากรันเวย์และแท็กซี่เวย์แล้ว ยังมีจุดอันตรายอีก ๒ จุดคือ ๑. อาคารคลังสินค้าเขตปลอดอากรที่ไม่มีการถมทรายในชั้นรากฐานและการก่อสร้างหลังคาที่ไม่ได้มาตรฐานอาจพังลงมาได้ทุกเวลา และ ๒. คืออาคารผู้โดยสารหลักที่ก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานและอาจเกิดการทรุดตัวของอาคาร ขณะนี้มีสิ่งบอกเหตุคือกระจกบางส่วนด้านริมอาคารเริ่มปริแตกจากการทรุดตัวของตัวอาคารบางส่วน ซึ่งทอท.ควรเร่งตรวจสอบโดยเร็วและขอแนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลในการตรวจสอบการก่อสร้างกับบริษัทที่ปรึกษาการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิหรือบริษัทพีเอ็มซี.(PMC)ก็จะสาวถึงปัญหาที่รัฐบาลทักษิณหมกเม็ดไว้ทั้งหมด
“กระทรวงคมนาคมควรกำหนดดีเดย์ในการเปิดใช้สนามบินดอนเมืองในเดือนเมษายนนี้โดยย้ายเที่ยวบินภายในประเทศแบบpoint to point และสายการบินโลว์คอสแอร์ไลน์ไปทั้งหมดเพื่อลดภาระของสนามบินสุวรรณภูมิได้ปีละ ๙ ล้านคนผู้โดยสารตามข้อเสนอยุทธศาสตร์บูรณการสุวรรณภูมิ-ดอนเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ ๗ มาตรการตามแนวทางที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเสนอไว้ เชื่อว่าจะเป็นทางออกสำหรับการพัฒนาสุวรรณภูมิและดอนเมืองในการรักษาความเป็นฮับการบินแห่งเอเชียไว้ได้ ขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสหายใจของทอท.ในการยกเครื่องแก้ไขปัญหาทั้งหลายในสุวรรณภูมิโดยไม่ต้องปิดการใช้” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวในที่สุด
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 27 ม.ค. 2550--จบ--
นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แถลงวันนี้(๒๗ ม.ค.)ที่พรรคประชาธิปัตย์ว่า กระทรวงคมนาคมจะต้องเร่งตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของสนามบินสุวรรณภูมิให้เสร็จสิ้นภายในเดือนมีนาคมนี้เป็นอย่างช้ามิฉะนั้นอาจมีผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อสถานะการเป็นศูนย์กลางการบินในเอเซียหรือฮับแห่งเอเซียของประเทศไทยเพราะปัญหาการใช้สนามบินสุวรรณภูมิเริ่มลามไปสู่ปัญหาการขึ้นลงของเที่ยวบินทั้งในประเทศและต่างประเทศโดยเฉพาะกรณีที่มีการซ่อมแซมรันเวย์และแท็กซี่เวย์อันเกิดจากรอยร้าวและการทรุดตัวทำให้บางเที่ยวบินต้องบินวนจนน้ำมันใกล้หมดและต้องไปร่อนลงเติมน้ำมันที่สนามบินอู่ตะเภาที่เป็นสนามบินสำรองตามที่ลงทะเบียนไว้กับองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ(ICAO)อันอาจส่งผลถึงปัญหาความปลอดภัย(Safety Factors)ในการใช้สนามบินสุวรรณภูมิ
“ปัญหารันเวย์และแท็กซี่เวย์ร้าวและทรุดตัวนั้น พรรคประชาธิปัตย์และสื่อมวลชนเคยตรวจพบและเสนอให้รัฐบาลทักษิณและรัฐมนตรีคมนาคมในขณะนั้นพิจารณาแก้ไขก่อนการเปิดใช้สุวรรณภูมิในเดือนกันยายน ๒๕๔๙ แต่กลับไม่แก้ไขและหมกปัญหาจนทุกวันนี้มีปัญหาเกิดขึ้นซึ่งรัฐบาลปัจจุบันจะต้องให้คตส.เอาผิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการบริหารการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ(กทภ.)และรัฐมนตรีคมนาคมทุกคนในรัฐบาลทักษิณ ๑ และทักษิณ ๒ เพราะมีส่วนร่วมในการก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐโดยตรงอย่างชัดแจ้งยังผลให้สุวรรณภูมิกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการคอร์รัปชันและความล้มเหลวทางการบริหาร”
นายอลงกรณ์ กล่าวต่อไปว่า สนามบินสุวรรณภูมิมีจุดอันตราย ๔ จุด นอกจากรันเวย์และแท็กซี่เวย์แล้ว ยังมีจุดอันตรายอีก ๒ จุดคือ ๑. อาคารคลังสินค้าเขตปลอดอากรที่ไม่มีการถมทรายในชั้นรากฐานและการก่อสร้างหลังคาที่ไม่ได้มาตรฐานอาจพังลงมาได้ทุกเวลา และ ๒. คืออาคารผู้โดยสารหลักที่ก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานและอาจเกิดการทรุดตัวของอาคาร ขณะนี้มีสิ่งบอกเหตุคือกระจกบางส่วนด้านริมอาคารเริ่มปริแตกจากการทรุดตัวของตัวอาคารบางส่วน ซึ่งทอท.ควรเร่งตรวจสอบโดยเร็วและขอแนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลในการตรวจสอบการก่อสร้างกับบริษัทที่ปรึกษาการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิหรือบริษัทพีเอ็มซี.(PMC)ก็จะสาวถึงปัญหาที่รัฐบาลทักษิณหมกเม็ดไว้ทั้งหมด
“กระทรวงคมนาคมควรกำหนดดีเดย์ในการเปิดใช้สนามบินดอนเมืองในเดือนเมษายนนี้โดยย้ายเที่ยวบินภายในประเทศแบบpoint to point และสายการบินโลว์คอสแอร์ไลน์ไปทั้งหมดเพื่อลดภาระของสนามบินสุวรรณภูมิได้ปีละ ๙ ล้านคนผู้โดยสารตามข้อเสนอยุทธศาสตร์บูรณการสุวรรณภูมิ-ดอนเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ ๗ มาตรการตามแนวทางที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเสนอไว้ เชื่อว่าจะเป็นทางออกสำหรับการพัฒนาสุวรรณภูมิและดอนเมืองในการรักษาความเป็นฮับการบินแห่งเอเชียไว้ได้ ขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสหายใจของทอท.ในการยกเครื่องแก้ไขปัญหาทั้งหลายในสุวรรณภูมิโดยไม่ต้องปิดการใช้” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวในที่สุด
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 27 ม.ค. 2550--จบ--