ภาคเอกชนไทยมั่นใจการส่งออกของไทยในปี 2550 จะมีอัตราการขยายตัวสูงกว่า 12.5% ตามเป้าหมายที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด หลังจาก 5 เดือน(มค.-พค.) ยอดการส่งออกทำลายสถิติสูงเป็นประวัติการณ์เฉลี่ยโตกว่า 18 % โดยสาเหตุที่การส่งออกยังขยายตัวในอัตราสูง เนื่องจากต่างประเทศให้การยอมรับเรื่องมาตรฐานคุณภาพของสินค้าไทยอีกทั้งประเทศคู่แข่งในสินค้าบางประเภท เช่น ข้าว ประสบปัญหาภัยธรรมชาติจนไม่สามารถส่งออกได้และถึงขั้นต้องนำเข้าแทน
ในส่วนของการส่งออกอุตสาหกรรมอาหารทั้งระบบในปีนี้จะมีมูลค่าประมาณ 6 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 7.5 % และคาดว่าในปี 2551 จะมีมูลค่าการส่งออก 6.5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีนี้ 7.5 % เช่นกัน
สำหรับภาพรวมทางเศรษฐกิจในขณะนี้หลายฝ่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศได้แก่ นักธุรกิจ นักวิเคราะห์ และผลสำรวจของรอยเตอร์มีความเชื่อมั่นว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปีนี้ โดยเฉพาะครึ่งปีหลังจะเติบโตขึ้นอย่างแน่นอนซึ่งมีผลจากปัจจัย ดังนี้
1. เศรษฐกิจไทยมีการส่งออกเป็นปัจจัยขับเคลื่อน ขยายตัวเร็วกว่าที่คาดไว้ซึ่งกระตุ้นให้นักวิเคราะห์ต่างประเทศปรับเพิ่มคาดการณ์ยอดเกินดุลการค้าเต็มปีในการสำรวจรายไตรมาส
2. สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี)ในเดือนเมษายน 2550 ปรับลดลงเล็กน้อยมาอยูที่ 38.1% และยังคงต่ำกว่ากรอบความยั่งยืนทางการคลังที่ตั้งไว้ 50% ค่อนข้างมาก ทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม อยู่ที่ 71,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ใกล้เคียงกับเดือนก่อนหน้า ดังนั้นการขยายตัวของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังยังมีโอกาสขยายตัวได้
3. ค่าเงินบาทอยู่ในกรอบมีเสถียรภาพมีความมั่นคงพอสมควรโดยเฉพาะในระยะ 3-4 เดือนที่ผ่านมา
4. รัฐบาลเร่งงบประมาณขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่อกระตุ้นการบริโภคและการลงทุน
- เบิกจ่ายเงินโบนัสข้าราชการ 6,800 ล้านบาท
- ยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขซึ่งเป็นการนำเงินไปให้ชุมชนใช้เพื่อเพิ่มรายได้ 7,000 ล้านบาท
- เกิดโครงการประมูลขนาดใหญ่ มีการประมูลรถไฟฟ้าสีม่วงและสีแดงในเดือนสิงหาคม อีก 6 เดือนมีการลงทุนรถไฟฟ้ารางคู่ด้านปตท.จะเริ่มต้นลงทุนโครงการปิโตรเคมีระยะที่ 3 ที่มาบตาพุด
- มีการลงทุนของสยามซีเมนต์และดาวเคมิเคิลของสหรัฐที่จะลงทุนประมาณ 1,000-2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ที่มา: http://www.depthai.go.th