ขึ้นในช่วงนี้ เนื่องจากเป็นช่วงที่ตลาดมีความต้องการนำไปผลิตเป็นสินค้าสำเร็จรูปเพื่อจำหน่ายในช่วงเทศกาลสิ้นปี แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียว
กันของปีก่อนปรับตัวลดลงร้อยละ 2.31 โดยสินค้าที่มีการลดลงมาก คือ หลอดภาพเครื่องรับโทรทัศน์ (CRT) ลดลงมากถึงร้อยละ 55.13 ซึ่งเป็นการ
ชะลอการผลิตมาตั้งแต่ต้นปี โดยมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยทั้งจากการเก็บสินค้าคงคลังไว้มากตั้งแต่ปีที่แล้วจึงทำให้มีการชะลอการผลิตในปีนี้ และ
กรณีการเข้ามาทุ่มตลาดหลอดภาพ CRT ของมาเลเซียทำให้การจำหน่ายในประเทศลดลงมาก รวมถึงอีกสาเหตุหนึ่งน่าจะมาจากการเปลี่ยนแปลงความ
ต้องการของตลาดที่นิยมจอ LCD/ Plasma มากขึ้น รวมถึงหลายค่ายได้มีการแข่งขันกันลดราคาเครื่องรับโทรทัศน์จอ LCD/Plasma ทำให้ราคาลดลง
มาค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว จึงเป็นแรงกระตุ้นให้ผู้บริโภคหันมาซื้อเครื่องรับโทรทัศน์ประเภทนี้มากขึ้น ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ต่อไปผู้ผลิตหลอด
ภาพ CRT ไทยคงจะต้องกลับมาพิจารณาแล้วว่าจะดำเนินการอย่างไรหรือจะต้องมีการปรับเปลี่ยนการผลิตให้สามารถอยู่รอดได้ต่อไป
ส่วนสินค้าที่ฉุดให้ดัชนีดีดกลับขึ้นมา คือ Other IC และ Monolithic IC เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.99 และ 5.28 ตามลำดับ เนื่องจาก
ตลาดโลกมีความต้องการโทรศัพท์เคลื่อนที่และคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ 25 และ 17 ตามลำดับ รวมถึง
มีการนำ IC ไปใช้ในสินค้าประเภท Consumer Product มากขึ้น จึงส่งผลให้มีคำสั่งซื้อเข้ามามากขึ้น (รายละเอียดแสดงในตารางที่ 8 )
ตารางที่ 8 แสดงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทย ไตรมาส 3 ปี 2548
Production Index การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2548 (ร้อยละ) การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2547(ร้อยละ)
ดัชนีผลผลิตอิเล็กทรอนิกส์ 121.79 11.96 -2.31
- หลอดภาพเครื่องรับโทรทัศน์ (CRT) 57.17 -10.6 -55.13
- หลอดภาพคอมพิวเตอร์ 44.36 26.99 -19.21
- Semiconductor device Transisters 113.29 -0.22 -9.35
- Monolithic IC 148.25 15.45 5.28
- Other IC 137.36 16.59 15.99
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม
3.2 การตลาด
ภาวะตลาดของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในไตรมาส 3 ปี 2548 มีการปรับตัวดีขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยจากรายงานดัชนี
การส่งสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมพบว่าเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนภาวะตลาดของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ขยายตัวเพิ่มขึ้น
ร้อยละ 13.30 แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีการปรับตัวลดลงร้อยละ 1.99 โดยในส่วนของหลอดภาพเครื่องรับโทรทัศน์มีการจำหน่าย
เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.50 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ซึ่งน่าจะเป็นการนำสินค้าคงคลังออกมาจำหน่าย แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนยังลดลง
ค่อนข้างมากถึงร้อยละ 48.49 ส่วนสินค้ารายการอื่นๆ สอดคล้องกับภาวการณ์ผลิตข้างต้น (รายละเอียดแสดงในตารางที่ 9 )
ตารางที่ 9 แสดงดัชนีการส่งสินค้าอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ของประเทศไทย ไตรมาสที่ 3 ปี 2548
Shipment การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2548 การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2547
Index (ร้อยละ) (ร้อยละ)
ดัชนีการส่งสินค้าอิเล็กทรอทรอนิกส์ 116.66 13.3 -1.99
- หลอดภาพเครื่องรับโทรทัศน์ (CRT) 65.96 5.5 -48.49
- หลอดภาพคอมพิวเตอร์ 34.85 24.01 -21.34
- Semiconductor device Transisters 111.69 -4.13 -8.35
- Monolithic IC 150.49 16.63 1.72
- Other IC 121.01 16.97 18.24
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม
เมื่อพิจารณามูลค่าการจำหน่าย Semiconductor ของตลาดโลกในไตรมาส 3 ปี 2548 จากการรายงานของ
Semiconductor Industry Association (SIA) พบว่ามีการเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยในไตรมาสที่ 3 ปี 2548 มีมูลค่าการจำหน่าย
ประมาณ 56.15 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.6 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนพบว่ามี
การขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 11.1 ซึ่งเป็นผลจากความต้องการสินค้าในกลุ่ม Personal Computer , Cell Phone ที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่าง
ต่อเนื่องและยังมีการนำ Semiconductor ไปใช้ในสินค้าอุปโภคบริโภค(Consumer Product) มากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการใช้ชิ้นส่วน
อิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะในภูมิภาค Asia Pacific ที่เป็นฐานการผลิตที่สำคัญของโลกทำให้มีอัตราการขยายตัวมากทั้งเมื่อเทียบ
กับไตรมาสก่อนและช่วงเดียวกันของปีก่อน
ตารางที่ 10 Worldwide Semiconductor Sales ไตรมาส 3 ปี 2548
หน่วย : พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
Q3/2548 Q2/2548 Q3/2547 CPQ CPY
(ร้อยละ) (ร้อยละ)
Worldwide Semiconductor Sales 56.15 54.18 50.54 3.6 11.1
- US 9.82 9.59 9.47 2.4 3.7
- EU 9.42 9.63 9.54 -2.18 -1.26
- Japan 10.87 10.88 10.97 -0.09 -0.91
- Asia Pacific 26.04 24.08 20.56 8.14 26.65
ที่มา : Semiconductor Industry Association (SIA)
ตลาดส่งออก
จากสถิติการส่งออกซึ่งรวบรวมโดยสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ พบว่าสินค้า อิเล็กทรอนิกส์ในไตรมาส 3 ปี 2548 มีมูลค่า
381,702.46 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.35 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ซึ่งสินค้าในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะวงจร
รวมและไมโครแอสแซมบลี (Integraed Circuit) เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 26.57 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ซึ่งสอดคล้องกับภาวะการผลิต และ
ภาวะตลาดโลกที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยเป็นภาวะปกติที่ไตรมาสนี้จะเป็นช่วงขาขึ้นของการส่งออกของอุตสาหกรรม
อิเล็กทรอนิกส์ อย่างไรก็ตามมีเฉพาะวงจรพิมพ์ (PCB) เท่านั้นที่มีการปรับตัวลดลงมาค่อนข้างมากถึงร้อยละ 25.70
สำหรับการส่งออกเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.67 โดยสินค้าสำคัญที่ผลักดันให้มีการขยายตัว
คือ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และวงจรรวมและไมโครแอสแซมบลี (Integraed Circuit) ที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 35.93 และ
29.23 ตามลำดับ อย่างไรก็ตามวงจรพิมพ์ (PCB) มีการปรับตัวลดลงมากถึงร้อยละ 37.41 เช่นเดียวกับที่ปรับลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
ซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะมีการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่นๆ จึงมีการผลิตลดลงจากปีก่อน รองลงมา คือไดโอด ทรานซิสเตอร์และอุปกรณ์กึ่งตัวนำที่ปรับ
ลดลงถึงร้อยละ 30.11 (รายละเอียดแสดงในตารางที่ 11)
สัดส่วนของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่มีมูลค่าการส่งออกมาก ได้แก่ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ รองลงมาคือ วงจรรวมและ
ไมโครแอสแซมบลี (Integraed Circuit) วงจรพิมพ์ ไดโอด ทรานซิสเตอร์และ อุปกรณ์กึ่ง ตามลำดับ
ตารางที่ 11 แสดงมูลค่าส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่มีมูลค่าสูงสุด 5 อันดับแรกของไทยไตรมาส 3 ปี
รายการสินค้า มูลค่าการส่งออก การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2/2548 การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับ
ไตรมาส 3/2548 (ร้อยละ) ไตรมาสที่ 3/2547 (ร้อยละ)
(ล้านบาท)
1. เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ 127065.43 21.31 35.93
2. วงจรรวมและไมโครแอสแซมบลี้ 62,267.48 26.57 29.23
(Integraed Circuit)
3. วงจรพิมพ์ 11,470.40 -25.7 -37.41
4. ไดโอด ทรานซิสเตอร์และอุปกรณ์ กึ่งตัวนำ 8,179.73 1.71 -30.11
5. เครื่องส่ง-เครื่องรับวิทยุ โทรเลข วิทยุโทรศัพท์ เครื่องเรดาห์ 8,050.52 7.23 95.3
รวมอิเล็กทรอนิกส์ 381702.46 11.35 12.67
ที่มา: สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
3.3 การนำเข้า
จากรายงานการนำเข้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในไตรมาส 3 ปี 2548 พบว่ามีมูลค่ารวม 297,679.58 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น
เพียงร้อยละ 4.45 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ซึ่งสินค้าในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย โดยสินค้าสำคัญที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น
คือ Mobile Phone และเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.54 และ 2.50 ตามลำดับ (รายละเอียดแสดงใน
ตารางที่ 12)
สำหรับการนำเข้าเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.79 โดยสินค้าที่มีการนำเข้ามาก คือ Mobile Phone
ขยายตัวถึงร้อยละ 24.85 ซึ่งเห็นได้ว่าตลาดในประเทศมีความต้องการ Mobile Phone เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนทำให้ปัจจุบันกลายเป็นสินค้าที่มี
บทบาทมากขึ้นต่อการนำเข้าของไทย รองลงมา คือ วงจรพิมพ์ (PCB) ขยายตัวถึงร้อยละ 24.04 แสดงว่าประเทศไทยน่าจะมีการลดการผลิตแผ่น
วงจรพิมพ์ลง และเปลี่ยนมาเป็นการนำเข้าแทนสำหรับที่นำมาใช้ประกอบเป็นสินค้าสำเร็จรูป
สัดส่วนของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่มีมูลค่าการนำเข้ามาก ได้แก่ วงจรรวมและไมโครแอสแซมบลี (Integraed Circuit) รองลง
มา คือ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ Mobile Phone วงจรพิมพ์ ไดโอด ทรานซิสเตอร์และ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ตามลำดับ
ตารางที่ 12 แสดงมูลค่านำเข้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่มีมูลค่าสูงสุด 5 อันดับแรกของไทยไตรมาส 3 ปี 2548
รายการสินค้า มูลค่าการนำเข้า การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบ การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบ
ไตรมาส 3/2548 กับไตรมาสที่ 2/2548 กับไตรมาสที่3/2547
(ล้านบาท) (ร้อยละ) (ร้อยละ)
1. วงจรรวมและไมโครแอสแซมบลี้ 82,432.09 2.41 3.23
(Integraed Circuit)
2. เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ 54,510.00 2.5 23.5
3. Mobile Phone 15,001.54 4.54 24.85
4. วงจรพิมพ์ 8,168.85 -5 24.04
5. ไดโอด ทรานซิสเตอร์และอุปกรณ์กึ่งตัวนำ 8,519.59 1.45 -7.87
รวมอิเล็กทรอนิกส์ 297679.58 4.45 11.79
ที่มา: สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
แนวโน้มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในไตรมาส 4 ปี 2548
แนวโน้มของอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าในไตรมาส 4 ปี 2548 คาดว่าตลาดในประเทศจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3
เพราะเป็นช่วงเทศกาลสิ้นปีที่ผู้บริโภคจะมีการจับจ่ายใช้สอยกันมาก และหลายบริษัทคงจะมีการแข่งขันกันส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นยอดขาย และเป็น
การเร่งทำยอดจำหน่ายให้ถึงเป้าที่กำหนดไว้ในช่วงสิ้นปี การส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าในไตรมาส 4 ปี 2548 คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากไตร
มาส 3 ได้อีกเนื่องจากตลาดส่งออกส่วนใหญ่ยังมีการขยายตัวและมีการย้ายฐานเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิดมาให้ไทยผลิตแทน
ส่วนอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์คาดว่าไตรมาสที่ 4 จะทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ซึ่งเป็นภาวะปกติของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่จะ
ชะลอตัวลงในช่วงปลายปี เนื่องจากไตรมาสที่ผ่านมาได้เพิ่มการผลิตเพื่อป้อนตลาดในช่วงปลายปีแล้ว อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี
ก่อนอาจจะชะลอตัวลงเล็กน้อย เพราะแม้ว่าสินค้าคงคลังในตลาดโลกขณะนี้ลดลงอยู่ในระดับสมดุลแล้วก็ตาม แต่ตลาดสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นตลาดหลัก
ของไทยได้รับความเสียหายจากพายุเฮอริเคน 2 ลูกที่อาจจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาต่อการจับจ่ายใช้สอยในช่วง
ปลายปีนี้
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-
กันของปีก่อนปรับตัวลดลงร้อยละ 2.31 โดยสินค้าที่มีการลดลงมาก คือ หลอดภาพเครื่องรับโทรทัศน์ (CRT) ลดลงมากถึงร้อยละ 55.13 ซึ่งเป็นการ
ชะลอการผลิตมาตั้งแต่ต้นปี โดยมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยทั้งจากการเก็บสินค้าคงคลังไว้มากตั้งแต่ปีที่แล้วจึงทำให้มีการชะลอการผลิตในปีนี้ และ
กรณีการเข้ามาทุ่มตลาดหลอดภาพ CRT ของมาเลเซียทำให้การจำหน่ายในประเทศลดลงมาก รวมถึงอีกสาเหตุหนึ่งน่าจะมาจากการเปลี่ยนแปลงความ
ต้องการของตลาดที่นิยมจอ LCD/ Plasma มากขึ้น รวมถึงหลายค่ายได้มีการแข่งขันกันลดราคาเครื่องรับโทรทัศน์จอ LCD/Plasma ทำให้ราคาลดลง
มาค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว จึงเป็นแรงกระตุ้นให้ผู้บริโภคหันมาซื้อเครื่องรับโทรทัศน์ประเภทนี้มากขึ้น ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ต่อไปผู้ผลิตหลอด
ภาพ CRT ไทยคงจะต้องกลับมาพิจารณาแล้วว่าจะดำเนินการอย่างไรหรือจะต้องมีการปรับเปลี่ยนการผลิตให้สามารถอยู่รอดได้ต่อไป
ส่วนสินค้าที่ฉุดให้ดัชนีดีดกลับขึ้นมา คือ Other IC และ Monolithic IC เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.99 และ 5.28 ตามลำดับ เนื่องจาก
ตลาดโลกมีความต้องการโทรศัพท์เคลื่อนที่และคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ 25 และ 17 ตามลำดับ รวมถึง
มีการนำ IC ไปใช้ในสินค้าประเภท Consumer Product มากขึ้น จึงส่งผลให้มีคำสั่งซื้อเข้ามามากขึ้น (รายละเอียดแสดงในตารางที่ 8 )
ตารางที่ 8 แสดงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทย ไตรมาส 3 ปี 2548
Production Index การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2548 (ร้อยละ) การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2547(ร้อยละ)
ดัชนีผลผลิตอิเล็กทรอนิกส์ 121.79 11.96 -2.31
- หลอดภาพเครื่องรับโทรทัศน์ (CRT) 57.17 -10.6 -55.13
- หลอดภาพคอมพิวเตอร์ 44.36 26.99 -19.21
- Semiconductor device Transisters 113.29 -0.22 -9.35
- Monolithic IC 148.25 15.45 5.28
- Other IC 137.36 16.59 15.99
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม
3.2 การตลาด
ภาวะตลาดของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในไตรมาส 3 ปี 2548 มีการปรับตัวดีขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยจากรายงานดัชนี
การส่งสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมพบว่าเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนภาวะตลาดของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ขยายตัวเพิ่มขึ้น
ร้อยละ 13.30 แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีการปรับตัวลดลงร้อยละ 1.99 โดยในส่วนของหลอดภาพเครื่องรับโทรทัศน์มีการจำหน่าย
เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.50 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ซึ่งน่าจะเป็นการนำสินค้าคงคลังออกมาจำหน่าย แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนยังลดลง
ค่อนข้างมากถึงร้อยละ 48.49 ส่วนสินค้ารายการอื่นๆ สอดคล้องกับภาวการณ์ผลิตข้างต้น (รายละเอียดแสดงในตารางที่ 9 )
ตารางที่ 9 แสดงดัชนีการส่งสินค้าอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ของประเทศไทย ไตรมาสที่ 3 ปี 2548
Shipment การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2548 การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2547
Index (ร้อยละ) (ร้อยละ)
ดัชนีการส่งสินค้าอิเล็กทรอทรอนิกส์ 116.66 13.3 -1.99
- หลอดภาพเครื่องรับโทรทัศน์ (CRT) 65.96 5.5 -48.49
- หลอดภาพคอมพิวเตอร์ 34.85 24.01 -21.34
- Semiconductor device Transisters 111.69 -4.13 -8.35
- Monolithic IC 150.49 16.63 1.72
- Other IC 121.01 16.97 18.24
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม
เมื่อพิจารณามูลค่าการจำหน่าย Semiconductor ของตลาดโลกในไตรมาส 3 ปี 2548 จากการรายงานของ
Semiconductor Industry Association (SIA) พบว่ามีการเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยในไตรมาสที่ 3 ปี 2548 มีมูลค่าการจำหน่าย
ประมาณ 56.15 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.6 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนพบว่ามี
การขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 11.1 ซึ่งเป็นผลจากความต้องการสินค้าในกลุ่ม Personal Computer , Cell Phone ที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่าง
ต่อเนื่องและยังมีการนำ Semiconductor ไปใช้ในสินค้าอุปโภคบริโภค(Consumer Product) มากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการใช้ชิ้นส่วน
อิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะในภูมิภาค Asia Pacific ที่เป็นฐานการผลิตที่สำคัญของโลกทำให้มีอัตราการขยายตัวมากทั้งเมื่อเทียบ
กับไตรมาสก่อนและช่วงเดียวกันของปีก่อน
ตารางที่ 10 Worldwide Semiconductor Sales ไตรมาส 3 ปี 2548
หน่วย : พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
Q3/2548 Q2/2548 Q3/2547 CPQ CPY
(ร้อยละ) (ร้อยละ)
Worldwide Semiconductor Sales 56.15 54.18 50.54 3.6 11.1
- US 9.82 9.59 9.47 2.4 3.7
- EU 9.42 9.63 9.54 -2.18 -1.26
- Japan 10.87 10.88 10.97 -0.09 -0.91
- Asia Pacific 26.04 24.08 20.56 8.14 26.65
ที่มา : Semiconductor Industry Association (SIA)
ตลาดส่งออก
จากสถิติการส่งออกซึ่งรวบรวมโดยสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ พบว่าสินค้า อิเล็กทรอนิกส์ในไตรมาส 3 ปี 2548 มีมูลค่า
381,702.46 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.35 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ซึ่งสินค้าในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะวงจร
รวมและไมโครแอสแซมบลี (Integraed Circuit) เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 26.57 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ซึ่งสอดคล้องกับภาวะการผลิต และ
ภาวะตลาดโลกที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยเป็นภาวะปกติที่ไตรมาสนี้จะเป็นช่วงขาขึ้นของการส่งออกของอุตสาหกรรม
อิเล็กทรอนิกส์ อย่างไรก็ตามมีเฉพาะวงจรพิมพ์ (PCB) เท่านั้นที่มีการปรับตัวลดลงมาค่อนข้างมากถึงร้อยละ 25.70
สำหรับการส่งออกเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.67 โดยสินค้าสำคัญที่ผลักดันให้มีการขยายตัว
คือ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และวงจรรวมและไมโครแอสแซมบลี (Integraed Circuit) ที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 35.93 และ
29.23 ตามลำดับ อย่างไรก็ตามวงจรพิมพ์ (PCB) มีการปรับตัวลดลงมากถึงร้อยละ 37.41 เช่นเดียวกับที่ปรับลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
ซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะมีการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่นๆ จึงมีการผลิตลดลงจากปีก่อน รองลงมา คือไดโอด ทรานซิสเตอร์และอุปกรณ์กึ่งตัวนำที่ปรับ
ลดลงถึงร้อยละ 30.11 (รายละเอียดแสดงในตารางที่ 11)
สัดส่วนของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่มีมูลค่าการส่งออกมาก ได้แก่ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ รองลงมาคือ วงจรรวมและ
ไมโครแอสแซมบลี (Integraed Circuit) วงจรพิมพ์ ไดโอด ทรานซิสเตอร์และ อุปกรณ์กึ่ง ตามลำดับ
ตารางที่ 11 แสดงมูลค่าส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่มีมูลค่าสูงสุด 5 อันดับแรกของไทยไตรมาส 3 ปี
รายการสินค้า มูลค่าการส่งออก การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2/2548 การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับ
ไตรมาส 3/2548 (ร้อยละ) ไตรมาสที่ 3/2547 (ร้อยละ)
(ล้านบาท)
1. เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ 127065.43 21.31 35.93
2. วงจรรวมและไมโครแอสแซมบลี้ 62,267.48 26.57 29.23
(Integraed Circuit)
3. วงจรพิมพ์ 11,470.40 -25.7 -37.41
4. ไดโอด ทรานซิสเตอร์และอุปกรณ์ กึ่งตัวนำ 8,179.73 1.71 -30.11
5. เครื่องส่ง-เครื่องรับวิทยุ โทรเลข วิทยุโทรศัพท์ เครื่องเรดาห์ 8,050.52 7.23 95.3
รวมอิเล็กทรอนิกส์ 381702.46 11.35 12.67
ที่มา: สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
3.3 การนำเข้า
จากรายงานการนำเข้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในไตรมาส 3 ปี 2548 พบว่ามีมูลค่ารวม 297,679.58 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น
เพียงร้อยละ 4.45 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ซึ่งสินค้าในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย โดยสินค้าสำคัญที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น
คือ Mobile Phone และเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.54 และ 2.50 ตามลำดับ (รายละเอียดแสดงใน
ตารางที่ 12)
สำหรับการนำเข้าเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.79 โดยสินค้าที่มีการนำเข้ามาก คือ Mobile Phone
ขยายตัวถึงร้อยละ 24.85 ซึ่งเห็นได้ว่าตลาดในประเทศมีความต้องการ Mobile Phone เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนทำให้ปัจจุบันกลายเป็นสินค้าที่มี
บทบาทมากขึ้นต่อการนำเข้าของไทย รองลงมา คือ วงจรพิมพ์ (PCB) ขยายตัวถึงร้อยละ 24.04 แสดงว่าประเทศไทยน่าจะมีการลดการผลิตแผ่น
วงจรพิมพ์ลง และเปลี่ยนมาเป็นการนำเข้าแทนสำหรับที่นำมาใช้ประกอบเป็นสินค้าสำเร็จรูป
สัดส่วนของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่มีมูลค่าการนำเข้ามาก ได้แก่ วงจรรวมและไมโครแอสแซมบลี (Integraed Circuit) รองลง
มา คือ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ Mobile Phone วงจรพิมพ์ ไดโอด ทรานซิสเตอร์และ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ตามลำดับ
ตารางที่ 12 แสดงมูลค่านำเข้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่มีมูลค่าสูงสุด 5 อันดับแรกของไทยไตรมาส 3 ปี 2548
รายการสินค้า มูลค่าการนำเข้า การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบ การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบ
ไตรมาส 3/2548 กับไตรมาสที่ 2/2548 กับไตรมาสที่3/2547
(ล้านบาท) (ร้อยละ) (ร้อยละ)
1. วงจรรวมและไมโครแอสแซมบลี้ 82,432.09 2.41 3.23
(Integraed Circuit)
2. เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ 54,510.00 2.5 23.5
3. Mobile Phone 15,001.54 4.54 24.85
4. วงจรพิมพ์ 8,168.85 -5 24.04
5. ไดโอด ทรานซิสเตอร์และอุปกรณ์กึ่งตัวนำ 8,519.59 1.45 -7.87
รวมอิเล็กทรอนิกส์ 297679.58 4.45 11.79
ที่มา: สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
แนวโน้มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในไตรมาส 4 ปี 2548
แนวโน้มของอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าในไตรมาส 4 ปี 2548 คาดว่าตลาดในประเทศจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3
เพราะเป็นช่วงเทศกาลสิ้นปีที่ผู้บริโภคจะมีการจับจ่ายใช้สอยกันมาก และหลายบริษัทคงจะมีการแข่งขันกันส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นยอดขาย และเป็น
การเร่งทำยอดจำหน่ายให้ถึงเป้าที่กำหนดไว้ในช่วงสิ้นปี การส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าในไตรมาส 4 ปี 2548 คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากไตร
มาส 3 ได้อีกเนื่องจากตลาดส่งออกส่วนใหญ่ยังมีการขยายตัวและมีการย้ายฐานเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิดมาให้ไทยผลิตแทน
ส่วนอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์คาดว่าไตรมาสที่ 4 จะทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ซึ่งเป็นภาวะปกติของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่จะ
ชะลอตัวลงในช่วงปลายปี เนื่องจากไตรมาสที่ผ่านมาได้เพิ่มการผลิตเพื่อป้อนตลาดในช่วงปลายปีแล้ว อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี
ก่อนอาจจะชะลอตัวลงเล็กน้อย เพราะแม้ว่าสินค้าคงคลังในตลาดโลกขณะนี้ลดลงอยู่ในระดับสมดุลแล้วก็ตาม แต่ตลาดสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นตลาดหลัก
ของไทยได้รับความเสียหายจากพายุเฮอริเคน 2 ลูกที่อาจจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาต่อการจับจ่ายใช้สอยในช่วง
ปลายปีนี้
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-