วันนี้ (12 มิ.ย. 50)นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคและอดีตส.ส.ของพรรคได้ร่วมกันประเมินสถานการณ์ทางการเมืองไทยในขณะนี้ว่า มีความน่าเป็นห่วงที่จะเกิดเหตุความรุนแรง แต่ยังมั่นใจว่าจะมีการเลือกตั้งขึ้นตามกำหนดเดิมในปลายปีนี้
"เชื่อว่ายังมีเลือกตั้ง แต่ก่อนจะไปถึง อาจเกิดสถานการณ์ที่ไม่พึงปรารถนา เราประเมินว่าสถานการณ์มันไม่น่าไว้วางใจ" โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
สมาชิกที่มาร่วมประชุมวันนี้แสดงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ที่ยังมีความแตกแยกในทุกพื้นที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องทำงานอย่างหนักในการควบคุมดูแลไม่ให้เกิดความไม่สงบ โดยเฉพาะการควบคุมกลุ่มผู้ชุมนุมให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมาก็มีมาตรการป้องกันได้ในระดับหนึ่ง เช่น ปลดอาวุธเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไปดูแล
นายองอาจ กล่าวถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อาจจะเดินทางกลับประเทศไทยก่อนที่คดีต่างๆ จะเข้าสู่กระบวนการของศาลว่า หากอดีตนายกรัฐมนตรีคิดถึงประโยชน์ส่วนรวม ก็คงพิจารณาได้ว่าสิ่งไหนที่ไม่เป็นประโยชน์แล้วควรจะละเว้น แต่การเดินทางกลับประเทศไม่มีใครสามารถไปกำหนดได้ เพราะเป็นเรื่องของสิทธิส่วนบุคคล
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้สะท้อนปัญหาในเรื่องเศรษฐกิจของประชาชนระดับล่างที่มีความรุนแรงถึงขั้นฝืดเคือง โดยมีตัวแทนบางพื้นที่แจ้งว่ามีโรงงานผลิตอาหารส่งออกต้องปิดกิจการไปเกือบครึ่ง รวมถึงปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งทั้ง 2 เรื่องนี้ พรรคจะสรุปข้อมูลแล้วเสนอแนวทางแก้ไขให้แก่รัฐบาล
"ที่ประชุมได้ให้ตัวแทนไปรวบรวมข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ...แกนนำของพรรคจะลงพื้นที่(ภาคใต้) ไปรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนเพิ่มเติม ซึ่งทั้ง 2 เรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่เราจะสรุปข้อมูลให้เสร็จภายใน 1-2 สัปดาห์เพื่อเสนอให้รัฐบาล" นายองอาจ กล่าว
ทั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าจะต้องทำงานในบางพื้นที่มากขึ้น โดยเฉพาะในภาคอีสานเพื่อให้ประชาชนยอมรับในตัวของหัวหน้าพรรคว่ามีความเป็นผู้นำ ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้รับการยอมรับดีขึ้นตามลำดับ ส่วนนโยบายที่จะใช้ในการหาเสียงคิดว่าเมื่อถึงเวลาก็จะต้องมีการปรับเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์
"เราคงไม่คิดว่าถ้าไม่มีการเลือกตั้งแล้วต้องทำอย่างไร คิดแต่ว่าถ้ามีเลือกตั้งแล้วจะกำหนดนโยบายอย่างไร คราวนี้เราคงไม่ทำเก้ออีก" โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
--อินโฟเควสท์
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 12 มิ.ย. 2550--จบ--
"เชื่อว่ายังมีเลือกตั้ง แต่ก่อนจะไปถึง อาจเกิดสถานการณ์ที่ไม่พึงปรารถนา เราประเมินว่าสถานการณ์มันไม่น่าไว้วางใจ" โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
สมาชิกที่มาร่วมประชุมวันนี้แสดงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ที่ยังมีความแตกแยกในทุกพื้นที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องทำงานอย่างหนักในการควบคุมดูแลไม่ให้เกิดความไม่สงบ โดยเฉพาะการควบคุมกลุ่มผู้ชุมนุมให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมาก็มีมาตรการป้องกันได้ในระดับหนึ่ง เช่น ปลดอาวุธเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไปดูแล
นายองอาจ กล่าวถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อาจจะเดินทางกลับประเทศไทยก่อนที่คดีต่างๆ จะเข้าสู่กระบวนการของศาลว่า หากอดีตนายกรัฐมนตรีคิดถึงประโยชน์ส่วนรวม ก็คงพิจารณาได้ว่าสิ่งไหนที่ไม่เป็นประโยชน์แล้วควรจะละเว้น แต่การเดินทางกลับประเทศไม่มีใครสามารถไปกำหนดได้ เพราะเป็นเรื่องของสิทธิส่วนบุคคล
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้สะท้อนปัญหาในเรื่องเศรษฐกิจของประชาชนระดับล่างที่มีความรุนแรงถึงขั้นฝืดเคือง โดยมีตัวแทนบางพื้นที่แจ้งว่ามีโรงงานผลิตอาหารส่งออกต้องปิดกิจการไปเกือบครึ่ง รวมถึงปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งทั้ง 2 เรื่องนี้ พรรคจะสรุปข้อมูลแล้วเสนอแนวทางแก้ไขให้แก่รัฐบาล
"ที่ประชุมได้ให้ตัวแทนไปรวบรวมข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ...แกนนำของพรรคจะลงพื้นที่(ภาคใต้) ไปรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนเพิ่มเติม ซึ่งทั้ง 2 เรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่เราจะสรุปข้อมูลให้เสร็จภายใน 1-2 สัปดาห์เพื่อเสนอให้รัฐบาล" นายองอาจ กล่าว
ทั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าจะต้องทำงานในบางพื้นที่มากขึ้น โดยเฉพาะในภาคอีสานเพื่อให้ประชาชนยอมรับในตัวของหัวหน้าพรรคว่ามีความเป็นผู้นำ ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้รับการยอมรับดีขึ้นตามลำดับ ส่วนนโยบายที่จะใช้ในการหาเสียงคิดว่าเมื่อถึงเวลาก็จะต้องมีการปรับเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์
"เราคงไม่คิดว่าถ้าไม่มีการเลือกตั้งแล้วต้องทำอย่างไร คิดแต่ว่าถ้ามีเลือกตั้งแล้วจะกำหนดนโยบายอย่างไร คราวนี้เราคงไม่ทำเก้ออีก" โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
--อินโฟเควสท์
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 12 มิ.ย. 2550--จบ--