ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 25 มิถุนายน 2550 - 01 กรกฎาคม 2550
ภาคเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ในช่วงวันที่ 28 มิ.ย.- 1 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ชาวสวนลำไยและลิ้นจี่ควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคผลเน่า รวมทั้งควรค้ำยันกิ่งที่รับน้ำหนักมากให้แข็งแรง เพื่อป้องกันความเสียหายเมื่อมีลมแรง ส่วนเกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชไร่และพืชผักในระยะนี้ควรคลุกเมล็ดพันธุ์ด้วยสารป้องกันเชื้อราก่อนปลูก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ในช่วงวันที่ 28 มิ.ย. — 1 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ สำหรับเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวผลผลิตการเกษตรมาแล้วควรลดความชื้นก่อนนำเข้าโรงเก็บ เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา ส่วนชาวไร่ควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคราน้ำค้างในถั่วชนิดต่างๆ และ โรคเหี่ยวเน่าแดงในอ้อย เป็นต้น
ภาคกลาง
มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไปตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 28 มิ.ย. — 1 ก.ค. สำหรับเกษตรกรที่ปลูกองุ่นควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืช ที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคเถาแห้งและโรคผลเน่า โดยตัดแต่งกิ่งให้โปร่ง อากาศถ่ายเทสะดวก ส่วนพื้นที่การเกษตรซึ่งเป็นที่ลุ่มควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง ซึ่งจะทำให้รากพืชขาดอากาศและตายได้
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไปตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ เนื่องจากสภาพอากาศชื้นซึ่งจะทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเจ็บป่วยได้ง่าย ดังนั้นเกษตรกรไม่ควรปล่อยให้อยู่ในที่ชื้นแฉะ ส่วนผู้ที่ปลูกยางพาราควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคเส้นดำและโรคใบยางร่วงลูกยางเน่า โดยกำจัดวัชพืชบริเวณสวนให้โล่งเตียน เพื่อลดความชื้นซึ่งเป็นสาเหตุของโรคดังกล่าว
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย เว้นแต่ในช่วงวันที่ 28 มิ.ย.-1 ก.ค.มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ส่วนมากทางตอนบนของภาค ชาวสวนผลไม้ควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคผลเน่า โรครากเน่าและโรคเน่า รวมทั้งควรทำทางระบายออกจากพื้นที่การเกษตรเพื่อป้องกันน้ำท่วมขังด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 28 มิ.ย.-1 ก.ค. คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น ชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-