คำต่อคำรายการตรงไปตรงมากับอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ทางสถานีวิทยุ 101 ช่วงเวลา 08.00 — 08.30 น.
วันศุกร์ที่ 6 เมษายน 2550
ผู้ดำเนินรายการ สวัสดีค่ะ/ครับ คุณอภิสิทธิ์คะ / ครับ
คุณอภิสิทธิ์ สวัสดีครับ
ผู้ดำเนินรายการ ค่ะ คุณอภิสิทธิ์ มาจนถึงวันนี้ มีแต่คนลุ้นวันที่ 30 พฤษภา ประชาธิปัตย์ จะเป็นอย่างไร จะยุบไม่ยุบ กำลังใจยังดีอยู่ไม๊คะ
คุณอภิสิทธิ์ อ๋อ ดีครับ นี่ขณะนี้ผมก็อยู่ที่พรรคประชาธิปัตย์นะครับ เพราะว่าวันนี้เป็นวันเกิดพรรค ครบรอบ 61 ปี แล้วก็มีการทำบุญนะครับ ตามปกติ ก็เรียนสั้น ๆ ว่าการสืบพยานก็เสร็จสิ้นไปเมื่อวานนี้ ไต่สวนพยาน ก็เป็นอันว่าครบถ้วนแล้ว ตอนนี้สิ่งที่ทางคณะตุลาการได้กำหนดก็คือว่าให้ทางคู่กรณียื่นคำแถลงปิดคดี คือท่านไม่อนุญาตให้แถลงด้วยวาจา แต่ว่าให้แถลงด้วยลายลักษณ์อักษรแล้วก็ให้เวลา 20 วัน ครับ ในการยื่นซึ่งทางผมและก็ทางพรรคก็ตั้งใจว่าจะพยายามทำให้เสร็จก่อนสงกรานต์ แล้วก็ท่านก็นัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 30 พฤษภานะครับ ท่านประธานที่ปรึกษาพรรคซึ่งเป็นหัวหน้าทีมผู้ว่าคดีเมื่อวานท่านก็ให้สัมภาษณ์ให้ความเห็นไปชัดเจนท่านมาพูดกับพวกเราก็บอกว่าห่วงอย่างเดียวครับว่าท่านจะได้ค่าทนายหรือเปล่า อย่างอื่นไม่หนักใจ
ผู้ดำเนินรายการ ไม่มีข้อกล่าวหาไหนใน 4 ข้อกล่าวหาที่หนักใจเลยนะครับ คุณอภิสิทธิ์ครับ
คุณอภิสิทธิ์ คือว่าเราคงไม่สามารถจะไปพูดอะไรที่จะถูกมองว่าไม่เหมาะสมนะครับเพราะว่าเป็นเรื่องของดุลพินิจของทางตุลาการ แต่ว่าผมเรียนว่าใน 4 ประเด็นที่เป็นข้อกล่าวหานั้น เรามีความพอใจกับผลของการไต่สวนพยาน เช่นเรื่องของข้อหาที่บอกว่าผมและคณะของพรรคไปปราศรัยใส่ร้าย ดร.ทักษิณ ในเรื่องระบอบทักษิณ อะไรต่าง ๆ ก็ไม่มีการนำพยานคนใดมาไต่สวนในฝ่ายของผู้ร้องเลยว่าสิ่งที่พวกเราพูดนั้น เป็นเท็จ นะครับ ในทางตรงกันข้ามมีแต่ผู้ที่มายืนยังในข้อเท็จจริงที่เราพูดและรวมไปถึงว่าคำปรารภในรัฐธรรมนูญชั่วคราวซึ่งในอยู่ในปัจจุบันนี้ก็มีข้อความที่ตรงกับสิ่งที่ได้ปราศรัยไป ฉะนั้นเราก็ค่อนข้างที่จะพอใจกับผลการไต่สวนในประเด็นนี้นะครับ
ประเด็นที่ 2 เรื่องของจังหวัดตรังว่า เราไปเหมือนกับไปจ้างคนมาลงสมัคร โดยที่ไม่มีคุณสมบัติแล้วก็กลับมาใส่ร้ายนั้น ผลของการไต่สวนที่ผ่านมาเราก็ได้นำพยานมาให้เห็นว่าที่จริงแล้วเรื่องทั้งหมดนี้มันเริ่มมาจากที่ไหนอย่างไร ก็คือเป็นเรื่องของพรรคประชาธิไตยก้าวหน้า แล้วก็มีนายเจ๋ง ดอกจิกนะครับ เขาเป็นผู้ประสานงาน แล้วเขาก็ไปหาผู้สมัครในภาคใต้จังหวัดตรัง ก็บังเอิญรู้จักกับเพื่อนในวงการเดียวกัน ซึ่งบังเอิญเป็นพี่ชายของภรรยาผู้ช่วย ส.ส. ของคุณสาทิตย์ วงศ์หนองเตย นะครับ แล้วก็มันก็ชัดเจนครับ ก็มีการให้ข้อเท็จจริงหมดว่า เงินที่ได้อย่างไร มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพรรคครับ เพราะฉะนั้นอันนี้เราก็ไม่ค่อยมีความกังวลอะไร
ส่วนคุณไทกร ซึ่งเป็นประเด็นที่ 3 นั้น ก็คุณไทกรมาให้การให้ถ้อยคำก็พูดชัดถึงวีซีดี ซึ่งเป็นที่มาของเรื่องนี้ มันมีการวางแผนทำวีซีดีโดยใครอย่างไร และที่สำคัญก็วีซีดีตัดต่อ ได้ตัดต่อไปเลยว่าข้อความตอนที่มีการกล่าวพาดพิงว่า คนที่มาพยายามชี้นำ พูดชักนำให้คุณไทกรให้ไปจ้างเขาให้ไปใส่ร้ายอะไรนั้น ที่จริงแล้วก็คือว่าในข้อความที่ถูกตัดออกไปจากเทปนั้นฝ่ายนั้นยอมรับว่าได้กระทำความผิดอย่างไรได้เงินมาจากไหน เพราะฉะนั้นทั้งหมดนั้นก็ไม่มีปัญหา
และประเด็นสุดท้ายเป็นเรื่องสงขลา ก็มีรายงานของกกต. จังหวัดอะไรต่าง ๆ และก็มีคำพิพากษาของศาลชั้นต้นในคดีที่คุณถาวรฟ้อง กกต. เพราะฉะนั้นโดยเนื้อความผมมีความพอใจกับการไต่สวนพยานแล้วก็เอาข้อเท็จจริงไปพิสูจน์ แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยู่ที่ดุลยพินิจของทางตุลาการ
ม
ผู้ดำเนินรายการ คนบอกว่าวันนี้จะมีการแจกเอกสารที่เป็นข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการยุบพรรค ให้สาธารณชนได้รับทราบใช่ไหมคะ
คุณอภิสิทธิ์ ครับ เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนทางเราได้แถลงต่อศาลนะครับขออนุญาตที่จะเผยแพร่คำให้การของผม คำให้การของท่านเลขาธิการพรรค นะครับ ซึ่งทางตุลาการได้อนุญาตแล้วนะครับ เพราะฉะนั้นวันนี้เราก็มีการทำออกมาเป็นรูปเล่ม จะมี 3 เล่มครับ เป็นคำให้การของผมเล่มนึง คำให้การของท่านเลขา 2 เล่ม เหตุผลที่คำให้การของเลขาฯ 2 เล่มเพราะว่าเลขาฯ ไปพยานทั้งในคดีของประชาธิปัตย์ และคดีไทยรักไทยด้วย ก็เลยแยกเล่มครับ แถมของคดีไทยรักไทยนะครับแล้วก็ 3 เล่ม 100 บาทครับ (หัวเราะ) คิดราคาต้นทุนครับ
ผู้ดำเนินรายการ ไม่แจก เอามาขาย คิดราคาต้นทุน ก็ได้ที่พรรคประชาธิปัตย์ใช่ไม๊คะ จะมีจำหน่ายที่พรรคประชาธิปัตย์วันนี้ใช่ไม๊คะ
คุณอภิสิทธิ์ ครับ ก็วันนี้เลยเหมือนเป็นสัปดาห์หนังสือย่อย ๆ พรรคประชาธิปัตย์ด้วยหรือเปล่าไม่ทราบนะครับ เพราะว่าก็มีหนังสือของผมเรื่อง “เขียนรัฐธรรมนูญอย่างไร ไม่ให้ถูกฉีก” แล้วก็มีหนังสือของคุณถาวร เสนเนียม เรื่อง “คดีประวัติศาสาตร์ กกต. ทำไม กกต. ติดคุก” นะครับ แล้วก็มีอีกมี “เมนู คอร์รัปชั่น” นะครับ
ผู้ดำเนินรายการ วันนี้จะมีการเสวนาหรือเปล่าครับคุณอภิสิทธิ์ครับ
คุณอภิสิทธิ์ ก็ในช่วงระหว่างพิธีทางศาสนา ซึ่งพอมีพิธีพราหมณ์สักการะพระแม่ธรณี ก่อนที่จะเข้าสู่พิธีสงฆ์นั้น ก็จะมีท่านประธานที่ปรึกษาได้พูดคุยกับสมาชิกเรื่องของคดีนะครับ และท่านอดีตหัวหน้า บัญญัติ ก็คงมาพูดถึงเรื่องของสภาพการเมืองปัจจุบัน แล้วก็ผมก็คงจะพูดกับสมาชิกในเรื่องของปีที่ 62 ของพรรค ว่าจากนี้ไปเราจะทำอะไรกันบ้าง
ผู้ดำเนินรายการ ค่ะ อ่านข่าวแว๊บ ๆ ค่ะคุณอภิสิทธิ์ เห็นบอกว่าคุณชวนไปญี่ปุ่นแล้วก็ไปพูดเชียร์คุณอภิสิทธิ์เต็มที่เลยบอกว่าน่าจะเป็นนายกฯ คนต่อไป
คุณอภิสิทธิ์ อ๋อ อันนี้ผมไม่ทราบครับ ผมทราบแต่ว่าท่านไปร่วมประชุมหนังสือพิมพ์ของญี่ปุ่น โยมิอูริ ชิมบุน จัดเป็นเวทีของอดีตผู้นำนะครับ ก็จะเชิญอดีตนายกรัฐมนตรี อดีตประธานาธิบดีของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคไปพูดแล้วก็คงจะไปพูดถึงเรื่องของพัฒนาการของประชาธิไตยในภูมิภาคเป็นหลักครับ
ผู้ดำเนินรายการ อ๋อ คุณอภิสิทธิ์อย่างไรก็พร้อมนะคะ ถ้าเป็นไปตามที่คุณชวน เชียร์
คุณอภิสิทธิ์ (หัวเราะ) เป็นหน้าที่ของพรรคเวลานี้สิ่งที่ผมเป็นห่วงที่สุดก็คือเรื่องของสภาพของบ้านเมือง และที่ผมจะได้พูดกับสมาชิกวันนี้ก็คือว่าให้มองเห็นว่าที่จริงแล้วภาระกิจที่หนักอย่างยิ่งเลยของทุกพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคการเมืองที่มีความรับผิดชอบต้องการที่จะแก้ปัญหาบ้านเมืองมันมีเรื่องอะไรที่เราจะต้องทำอันนี้น่าห่วงมาก เพราะว่าที่ผมเองไปเคยพูดถึงคำสั่งคปค.หลายครั้งเนี่ย เพราะต้องการจะให้เข้าใจว่าพรรคการเมืองยังประชาธิปัตย์ และนักการเมืองอย่างผมไม่ได้คิดแต่เพียงว่ามันเป็นเวลาที่จะไปหาเสียงและจะไปเลือกตั้ง เวลานี้ต้องมองไปเวลาว่าปีหน้ารัฐบาลชุดปัจจุบันท่านหมดวาระของท่านไปแล้วสภาพของบ้านเมืองจริง ๆ จะเป็นอย่างไรนะครับ เราเห็นแล้วว่า 6 เดือนที่เหลือ ปัญหาใหญ่ ๆ อย่างเช่น ปัญหา 3 จังหวัดก็ดี ปัญหาเศรษฐกิจก็ดี ไม่หายไปไหนยังอยู่กับเราแน่นอนนะครับ และวันนี้การทำความเข้าใจกับประชาชนนะครับ เป็นหัวใจสำคัญมากนะครับ เช่น นโยบายสมานฉันท์มันแปลว่าอะไรนะครับ เพราะว่าตอนนี้เข้าใจกันผิดบ้าง ถูกบ้าง ปฏิบัติกันถูกบ้าง ผิดบ้างนะครับก็แป็นปัญหา นี่ก็ยังไม่นับว่ามันมีปัญหาอีกหลายปัญหาซึ่งพอเราเจอวิกฤตมันก็เหมือนเราพยายามดับไฟไปเรื่อย ใช่ไหมครับ ไฟลุกตรงนั้นก็วิ่งไปดับ เราไม่ได้สำรวจเลยว่าบ้านของเราในช่วงหลายปีที่ผ่านมามันทรุดโทรมแค่ไหน และบ้านของคนอื่นเขาเป็นอย่างไรแล้ว เพราะฉะนั้นประเด็นเหล่านี้คือสิ่งที่ผมคิดว่าอยากเห็นพรรคการเมืองกับประชาชนได้ร่วมกันคิดร่วมกันทำ เรื่องเลือกตั้งไม่เป็นไรหรอกครับมันสิ้นปีจะหาเสียงกัน 2-3 เดือนไม่เป็นไรผมไม่ติดใจอยู่แล้วนะฮะมันพอ 2 เดือนก็หาเสียงได้ 3 อาทิตย์ 4 อาทิตย์ก็หาเสียงได้ขอให้มันเป็นธรรมนะฮะก็ไม่เป็นปัญหา แต่ว่ามันพิสูจน์แล้วว่าบ้านเมืองนี้คนที่จะเข้าไปบริหารต้องเป็นมืออาชีพ เตรียมตัว และการเตรียมตัวไม่ใช่ว่าเก่งอยู่คนเดียว คิดอยู่คนเดียว มันต้องมีการเข้าไปพบปะพูดคุยกับเจ้าของประเทศ และถึงจะได้คำตอบที่มันถูกต้องสำหรับอนาคตข้างหน้า
ผู้ดำเนินรายการ เออ คุณอภิสิทธิ์ครับเรื่องคดียุบพรรคเนี่ย เกี่ยวกับบทลงโทษกรรมการบริหารพรรคเนี่ยอยู่ในสำนวนด้วยหรือเปล่าศาลจะวินิจฉัยเรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า
คุณอภิสิทธิ์ อยู่ครับ คือตอนแรกเนี่ยเรื่องคดีมันไปถึงศาลรัฐธรรมนูญเดิมก่อน และต่อมาก็มีการโอนคดีมาในช่วงรัฐประหารนะครับ ต่อมาพอคำสั่งของคปค.ฉบับที่ 27 ออกมาเนี่ย ทางอัยการสูงสุดเขาก็ทำคำร้องไปที่ศาลเพิ่มเติมว่านอกจากจะชี้ให้มีการยุบพรรคการเมืองก็ขอให้ได้นำประกาศข้อที่ 27 เนี่ย มาใช้เพื่อลงโทษกรรมการบริหารด้วย เพราะฉะนั้นตุลาการจะต้องวินิจฉัยในเรื่องนี้ด้วย
ผู้ดำเนินรายการ ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายก็ได้มีการต่อสู้ตรงนี้ด้วยใช่ไหมครับ หมายถึงเรื่องโทษกรรมการบริหารพรรคเนี่ยฮะ
คุณอภิสิทธิ์ เราก็ยังไม่ได้เจาะจงไปในเรื่องคำสั่งที่ 27 เราก็ต่อสู้ไปในเรื่องของข้อเท็จจริงว่าไม่ได้มีการกระทำความผิดนะครับ และก็มีข้อกฎหมายบางส่วนนะครับ ซึ่งมันกว้างกว่าตัวคำสั่งฉบับที่ 27
ผู้ดำเนินรายการ ครับ มาถึงการชุมนุมของฝ่ายต่าง ๆ ทั้งก่อนหน้านี้และก็กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป เรื่องการโจมตีคมช.กับ พล.อ.เปรม คุณอภิสิทธิ์ดูแล้วเป็นห่วงไหมครับว่าจะนำไปสู่เงื่อนไขความรุนแรงอีกครั้งหนึ่ง
คุณอภิสิทธิ์ ผมคิดว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเนี่ย เมื่อมีการตัดสินใจไม่ใช่พรก.ผมก็มองว่าบรรยากาศก็คลายลง และการชุมนุมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรนะครับ สัปดาห์ที่แล้วก็ไปชุมนุมที่กทม.นะครับ ซึ่งผมคิดว่าถ้ามันอยู่ในแง่ของการชุมนุม คือหมายความว่าในแง่ของการที่คนเข้ามาแล้วก็ไม่มีการปะทะกัน ผมคิดว่าไม่มีอะไรที่น่ากังวล ส่วนเนื้อหาสาระของการที่จะพูดกันเนี่ยก็ต้องถูกกำกับโดยกฎหมาย แล้วก็นอกจากกฎหมายแล้วก็อยากให้คนที่ไปชมุนุม หรือว่าคนที่ไปขึ้นปราศรัยเนี่ยให้ใช้จิตสำนึกของตัวเอง ว่าอะไรควร อะไรไม่ควรนะครับ กรณีของตำแหน่งองคมนตรี หรือประธานองคมนตรีไม่ใช่สิ่งซึ่งจะมาดำเนินงานกันทางการเมืองนะครับ เพราะฉะนั้นอันนี้เนี่ยผมอยากให้ทุกฝ่ายอยู่ในกรอบ ส่วนการต่อต้านทางคมช. รัฐบาล ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะแสดงความคิดเห็นมีสิทธิเสรีภาพที่จะทำอย่างเต็มที่ เห็นว่าทำอะไรถูกทำอะไรไม่ถูก มีความไม่ชอบมาพากลหรือไม่อย่างไรก็เสนอข้อมูลกันไป และก็รับผิดชอบกันไปตามสิ่งที่ตัวเองพูด อันนี้ผมคิดว่าเป็นแนวทางที่น่าจะเหมาะสมที่สุด
ผู้ดำเนินรายการ ครับ เมื่อทันทีที่คมช.อนุญาตให้ทางพรรคการเมืองทำกิจกรรมได้เนี่ย สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์จะทำตอนนั้นคืออะไรบ้าง
คุณอภิสิทธิ์ ครับ ผมยังมองไม่ค่อยเห็นว่าคมช.จะมีอำนาจในการมาอนุญาตอะไร อย่างไร นะครับ คำสั่งคปค.เนี่ยเป็นกฎหมายนะครับ ในกฎหมายนั้นเขียนว่าห้ามพรรคการเมืองเนี่ยประชุม หรือดำเนินกิจการใด ๆ ทางการเมืองเนี่ยยกจนกว่า หรือยกเว้นคณะรัฐมนตรีจะมีมติเป็นอย่างอื่นนะครับ เมื่อเป็นกฎหมายเขียนไว้อย่างนี้เนี่ย ผมก็ยังแปลกใจอยู่ว่าคมช.จะมีอำนาจอนุญาตให้ทำอะไรได้นะครับ สิ่งที่กระทำได้คือคณะรัฐมนตรีต้องประชุมแล้วมีมติเป็นอย่างอื่น คำว่าเป็นอย่างอื่นก็อาจจะบอกว่ายกเลิกแล้ว หรืออาจจะบอกว่าเปลี่ยนแปลงเป็นว่าห้ามทำอย่างนั้นอย่างนี้นะครับ เพราะฉะนั้นจริง ๆ แล้วผมได้เรียกร้องมาตลอดว่า และก็ขอให้กกต.ทำเรื่องไปถึงครม.และครม.ควรจะมีมติในเรื่องนี้ แต่ถ้าถามว่าขออนุญาตคมช.ผมยังมองไม่เห็นว่าคมช.จะมีอำนาจในทางกฎหมายทำอะไรได้ ส่วนถามว่าเราอยากทำอะไร ตรงนั้นเตรียมไว้หมดแล้ว และเป็นสิ่งทีผมพูดเมื่อสักครู่นี้ว่าเราอยากมุ่งไปที่ปัญหาของบ้านเมืองว่าเรื่องเหล่านี้ถึงเวลาที่จะต้องมาพูดคุยทำความเข้าใจกัน และก็พรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องไปแลกเปลี่ยนกับประชาชนว่าแนวทางข้างหน้าในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ จะเป็นอย่างไร นี่คือเรื่องสำคัญที่สุดที่อยากจะทำ นะครับ ไม่ใช่เรื่องลึกลับ ปราศรัยหาเสียง ไม่ใช่เป็นเรื่องว่าจะมาประชุมเพื่อที่จะช่วงชิงกันว่าแย้งอดีตส.ส.เข้ามาในพรรคไม่ใช่ เรื่องที่อยากทำมากที่สุดตอนนี้คือมาเปิดเวทีประชาธิปไตยบนพื้นฐานของปัญหาบ้านเมืองที่จะต้องมาแก้ไขในปีหน้า
ผู้ดำเนินรายการ ครับ รัฐบาลของปีหน้าใครจะเป็นแกนนำก็แล้วแต่คงเหนื่อยมากนะครับ เพราะปัญหาหลายอย่างมันต้องกอบกู้กันอีกเยอะใช่ไหมฮะ
คุณอภิสิทธิ์ ผมมองอย่างนั้นนะครับ ด้วยเหตุผลนี้ผมจึงมองว่ามันไม่ใช่เรื่องของ คือคนที่คิดจะไปบริหารบ้านเมืองเนี่ย มันไม่ใช่เรื่องของการไปหาเสียงนะครับ ในเวลาขณะนี้ มันเป็นเรื่องของการว่าพร้อมแค่ไหนในการที่จะไปทั้งแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ทั้งหยุดยั้งความหดถอยในหลาย ๆ เรื่องของบ้านเมืองของเรา ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง
ผู้ดำเนินรายการ ครับ เอาละครับขอบคุณมากครับคุณอภิสิทธิ์ครับ
คุณอภิสิทธิ์ ครับ ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
******************************************
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 6 เม.ย. 2550--จบ--
ทางสถานีวิทยุ 101 ช่วงเวลา 08.00 — 08.30 น.
วันศุกร์ที่ 6 เมษายน 2550
ผู้ดำเนินรายการ สวัสดีค่ะ/ครับ คุณอภิสิทธิ์คะ / ครับ
คุณอภิสิทธิ์ สวัสดีครับ
ผู้ดำเนินรายการ ค่ะ คุณอภิสิทธิ์ มาจนถึงวันนี้ มีแต่คนลุ้นวันที่ 30 พฤษภา ประชาธิปัตย์ จะเป็นอย่างไร จะยุบไม่ยุบ กำลังใจยังดีอยู่ไม๊คะ
คุณอภิสิทธิ์ อ๋อ ดีครับ นี่ขณะนี้ผมก็อยู่ที่พรรคประชาธิปัตย์นะครับ เพราะว่าวันนี้เป็นวันเกิดพรรค ครบรอบ 61 ปี แล้วก็มีการทำบุญนะครับ ตามปกติ ก็เรียนสั้น ๆ ว่าการสืบพยานก็เสร็จสิ้นไปเมื่อวานนี้ ไต่สวนพยาน ก็เป็นอันว่าครบถ้วนแล้ว ตอนนี้สิ่งที่ทางคณะตุลาการได้กำหนดก็คือว่าให้ทางคู่กรณียื่นคำแถลงปิดคดี คือท่านไม่อนุญาตให้แถลงด้วยวาจา แต่ว่าให้แถลงด้วยลายลักษณ์อักษรแล้วก็ให้เวลา 20 วัน ครับ ในการยื่นซึ่งทางผมและก็ทางพรรคก็ตั้งใจว่าจะพยายามทำให้เสร็จก่อนสงกรานต์ แล้วก็ท่านก็นัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 30 พฤษภานะครับ ท่านประธานที่ปรึกษาพรรคซึ่งเป็นหัวหน้าทีมผู้ว่าคดีเมื่อวานท่านก็ให้สัมภาษณ์ให้ความเห็นไปชัดเจนท่านมาพูดกับพวกเราก็บอกว่าห่วงอย่างเดียวครับว่าท่านจะได้ค่าทนายหรือเปล่า อย่างอื่นไม่หนักใจ
ผู้ดำเนินรายการ ไม่มีข้อกล่าวหาไหนใน 4 ข้อกล่าวหาที่หนักใจเลยนะครับ คุณอภิสิทธิ์ครับ
คุณอภิสิทธิ์ คือว่าเราคงไม่สามารถจะไปพูดอะไรที่จะถูกมองว่าไม่เหมาะสมนะครับเพราะว่าเป็นเรื่องของดุลพินิจของทางตุลาการ แต่ว่าผมเรียนว่าใน 4 ประเด็นที่เป็นข้อกล่าวหานั้น เรามีความพอใจกับผลของการไต่สวนพยาน เช่นเรื่องของข้อหาที่บอกว่าผมและคณะของพรรคไปปราศรัยใส่ร้าย ดร.ทักษิณ ในเรื่องระบอบทักษิณ อะไรต่าง ๆ ก็ไม่มีการนำพยานคนใดมาไต่สวนในฝ่ายของผู้ร้องเลยว่าสิ่งที่พวกเราพูดนั้น เป็นเท็จ นะครับ ในทางตรงกันข้ามมีแต่ผู้ที่มายืนยังในข้อเท็จจริงที่เราพูดและรวมไปถึงว่าคำปรารภในรัฐธรรมนูญชั่วคราวซึ่งในอยู่ในปัจจุบันนี้ก็มีข้อความที่ตรงกับสิ่งที่ได้ปราศรัยไป ฉะนั้นเราก็ค่อนข้างที่จะพอใจกับผลการไต่สวนในประเด็นนี้นะครับ
ประเด็นที่ 2 เรื่องของจังหวัดตรังว่า เราไปเหมือนกับไปจ้างคนมาลงสมัคร โดยที่ไม่มีคุณสมบัติแล้วก็กลับมาใส่ร้ายนั้น ผลของการไต่สวนที่ผ่านมาเราก็ได้นำพยานมาให้เห็นว่าที่จริงแล้วเรื่องทั้งหมดนี้มันเริ่มมาจากที่ไหนอย่างไร ก็คือเป็นเรื่องของพรรคประชาธิไตยก้าวหน้า แล้วก็มีนายเจ๋ง ดอกจิกนะครับ เขาเป็นผู้ประสานงาน แล้วเขาก็ไปหาผู้สมัครในภาคใต้จังหวัดตรัง ก็บังเอิญรู้จักกับเพื่อนในวงการเดียวกัน ซึ่งบังเอิญเป็นพี่ชายของภรรยาผู้ช่วย ส.ส. ของคุณสาทิตย์ วงศ์หนองเตย นะครับ แล้วก็มันก็ชัดเจนครับ ก็มีการให้ข้อเท็จจริงหมดว่า เงินที่ได้อย่างไร มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพรรคครับ เพราะฉะนั้นอันนี้เราก็ไม่ค่อยมีความกังวลอะไร
ส่วนคุณไทกร ซึ่งเป็นประเด็นที่ 3 นั้น ก็คุณไทกรมาให้การให้ถ้อยคำก็พูดชัดถึงวีซีดี ซึ่งเป็นที่มาของเรื่องนี้ มันมีการวางแผนทำวีซีดีโดยใครอย่างไร และที่สำคัญก็วีซีดีตัดต่อ ได้ตัดต่อไปเลยว่าข้อความตอนที่มีการกล่าวพาดพิงว่า คนที่มาพยายามชี้นำ พูดชักนำให้คุณไทกรให้ไปจ้างเขาให้ไปใส่ร้ายอะไรนั้น ที่จริงแล้วก็คือว่าในข้อความที่ถูกตัดออกไปจากเทปนั้นฝ่ายนั้นยอมรับว่าได้กระทำความผิดอย่างไรได้เงินมาจากไหน เพราะฉะนั้นทั้งหมดนั้นก็ไม่มีปัญหา
และประเด็นสุดท้ายเป็นเรื่องสงขลา ก็มีรายงานของกกต. จังหวัดอะไรต่าง ๆ และก็มีคำพิพากษาของศาลชั้นต้นในคดีที่คุณถาวรฟ้อง กกต. เพราะฉะนั้นโดยเนื้อความผมมีความพอใจกับการไต่สวนพยานแล้วก็เอาข้อเท็จจริงไปพิสูจน์ แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยู่ที่ดุลยพินิจของทางตุลาการ
ม
ผู้ดำเนินรายการ คนบอกว่าวันนี้จะมีการแจกเอกสารที่เป็นข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการยุบพรรค ให้สาธารณชนได้รับทราบใช่ไหมคะ
คุณอภิสิทธิ์ ครับ เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนทางเราได้แถลงต่อศาลนะครับขออนุญาตที่จะเผยแพร่คำให้การของผม คำให้การของท่านเลขาธิการพรรค นะครับ ซึ่งทางตุลาการได้อนุญาตแล้วนะครับ เพราะฉะนั้นวันนี้เราก็มีการทำออกมาเป็นรูปเล่ม จะมี 3 เล่มครับ เป็นคำให้การของผมเล่มนึง คำให้การของท่านเลขา 2 เล่ม เหตุผลที่คำให้การของเลขาฯ 2 เล่มเพราะว่าเลขาฯ ไปพยานทั้งในคดีของประชาธิปัตย์ และคดีไทยรักไทยด้วย ก็เลยแยกเล่มครับ แถมของคดีไทยรักไทยนะครับแล้วก็ 3 เล่ม 100 บาทครับ (หัวเราะ) คิดราคาต้นทุนครับ
ผู้ดำเนินรายการ ไม่แจก เอามาขาย คิดราคาต้นทุน ก็ได้ที่พรรคประชาธิปัตย์ใช่ไม๊คะ จะมีจำหน่ายที่พรรคประชาธิปัตย์วันนี้ใช่ไม๊คะ
คุณอภิสิทธิ์ ครับ ก็วันนี้เลยเหมือนเป็นสัปดาห์หนังสือย่อย ๆ พรรคประชาธิปัตย์ด้วยหรือเปล่าไม่ทราบนะครับ เพราะว่าก็มีหนังสือของผมเรื่อง “เขียนรัฐธรรมนูญอย่างไร ไม่ให้ถูกฉีก” แล้วก็มีหนังสือของคุณถาวร เสนเนียม เรื่อง “คดีประวัติศาสาตร์ กกต. ทำไม กกต. ติดคุก” นะครับ แล้วก็มีอีกมี “เมนู คอร์รัปชั่น” นะครับ
ผู้ดำเนินรายการ วันนี้จะมีการเสวนาหรือเปล่าครับคุณอภิสิทธิ์ครับ
คุณอภิสิทธิ์ ก็ในช่วงระหว่างพิธีทางศาสนา ซึ่งพอมีพิธีพราหมณ์สักการะพระแม่ธรณี ก่อนที่จะเข้าสู่พิธีสงฆ์นั้น ก็จะมีท่านประธานที่ปรึกษาได้พูดคุยกับสมาชิกเรื่องของคดีนะครับ และท่านอดีตหัวหน้า บัญญัติ ก็คงมาพูดถึงเรื่องของสภาพการเมืองปัจจุบัน แล้วก็ผมก็คงจะพูดกับสมาชิกในเรื่องของปีที่ 62 ของพรรค ว่าจากนี้ไปเราจะทำอะไรกันบ้าง
ผู้ดำเนินรายการ ค่ะ อ่านข่าวแว๊บ ๆ ค่ะคุณอภิสิทธิ์ เห็นบอกว่าคุณชวนไปญี่ปุ่นแล้วก็ไปพูดเชียร์คุณอภิสิทธิ์เต็มที่เลยบอกว่าน่าจะเป็นนายกฯ คนต่อไป
คุณอภิสิทธิ์ อ๋อ อันนี้ผมไม่ทราบครับ ผมทราบแต่ว่าท่านไปร่วมประชุมหนังสือพิมพ์ของญี่ปุ่น โยมิอูริ ชิมบุน จัดเป็นเวทีของอดีตผู้นำนะครับ ก็จะเชิญอดีตนายกรัฐมนตรี อดีตประธานาธิบดีของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคไปพูดแล้วก็คงจะไปพูดถึงเรื่องของพัฒนาการของประชาธิไตยในภูมิภาคเป็นหลักครับ
ผู้ดำเนินรายการ อ๋อ คุณอภิสิทธิ์อย่างไรก็พร้อมนะคะ ถ้าเป็นไปตามที่คุณชวน เชียร์
คุณอภิสิทธิ์ (หัวเราะ) เป็นหน้าที่ของพรรคเวลานี้สิ่งที่ผมเป็นห่วงที่สุดก็คือเรื่องของสภาพของบ้านเมือง และที่ผมจะได้พูดกับสมาชิกวันนี้ก็คือว่าให้มองเห็นว่าที่จริงแล้วภาระกิจที่หนักอย่างยิ่งเลยของทุกพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคการเมืองที่มีความรับผิดชอบต้องการที่จะแก้ปัญหาบ้านเมืองมันมีเรื่องอะไรที่เราจะต้องทำอันนี้น่าห่วงมาก เพราะว่าที่ผมเองไปเคยพูดถึงคำสั่งคปค.หลายครั้งเนี่ย เพราะต้องการจะให้เข้าใจว่าพรรคการเมืองยังประชาธิปัตย์ และนักการเมืองอย่างผมไม่ได้คิดแต่เพียงว่ามันเป็นเวลาที่จะไปหาเสียงและจะไปเลือกตั้ง เวลานี้ต้องมองไปเวลาว่าปีหน้ารัฐบาลชุดปัจจุบันท่านหมดวาระของท่านไปแล้วสภาพของบ้านเมืองจริง ๆ จะเป็นอย่างไรนะครับ เราเห็นแล้วว่า 6 เดือนที่เหลือ ปัญหาใหญ่ ๆ อย่างเช่น ปัญหา 3 จังหวัดก็ดี ปัญหาเศรษฐกิจก็ดี ไม่หายไปไหนยังอยู่กับเราแน่นอนนะครับ และวันนี้การทำความเข้าใจกับประชาชนนะครับ เป็นหัวใจสำคัญมากนะครับ เช่น นโยบายสมานฉันท์มันแปลว่าอะไรนะครับ เพราะว่าตอนนี้เข้าใจกันผิดบ้าง ถูกบ้าง ปฏิบัติกันถูกบ้าง ผิดบ้างนะครับก็แป็นปัญหา นี่ก็ยังไม่นับว่ามันมีปัญหาอีกหลายปัญหาซึ่งพอเราเจอวิกฤตมันก็เหมือนเราพยายามดับไฟไปเรื่อย ใช่ไหมครับ ไฟลุกตรงนั้นก็วิ่งไปดับ เราไม่ได้สำรวจเลยว่าบ้านของเราในช่วงหลายปีที่ผ่านมามันทรุดโทรมแค่ไหน และบ้านของคนอื่นเขาเป็นอย่างไรแล้ว เพราะฉะนั้นประเด็นเหล่านี้คือสิ่งที่ผมคิดว่าอยากเห็นพรรคการเมืองกับประชาชนได้ร่วมกันคิดร่วมกันทำ เรื่องเลือกตั้งไม่เป็นไรหรอกครับมันสิ้นปีจะหาเสียงกัน 2-3 เดือนไม่เป็นไรผมไม่ติดใจอยู่แล้วนะฮะมันพอ 2 เดือนก็หาเสียงได้ 3 อาทิตย์ 4 อาทิตย์ก็หาเสียงได้ขอให้มันเป็นธรรมนะฮะก็ไม่เป็นปัญหา แต่ว่ามันพิสูจน์แล้วว่าบ้านเมืองนี้คนที่จะเข้าไปบริหารต้องเป็นมืออาชีพ เตรียมตัว และการเตรียมตัวไม่ใช่ว่าเก่งอยู่คนเดียว คิดอยู่คนเดียว มันต้องมีการเข้าไปพบปะพูดคุยกับเจ้าของประเทศ และถึงจะได้คำตอบที่มันถูกต้องสำหรับอนาคตข้างหน้า
ผู้ดำเนินรายการ เออ คุณอภิสิทธิ์ครับเรื่องคดียุบพรรคเนี่ย เกี่ยวกับบทลงโทษกรรมการบริหารพรรคเนี่ยอยู่ในสำนวนด้วยหรือเปล่าศาลจะวินิจฉัยเรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า
คุณอภิสิทธิ์ อยู่ครับ คือตอนแรกเนี่ยเรื่องคดีมันไปถึงศาลรัฐธรรมนูญเดิมก่อน และต่อมาก็มีการโอนคดีมาในช่วงรัฐประหารนะครับ ต่อมาพอคำสั่งของคปค.ฉบับที่ 27 ออกมาเนี่ย ทางอัยการสูงสุดเขาก็ทำคำร้องไปที่ศาลเพิ่มเติมว่านอกจากจะชี้ให้มีการยุบพรรคการเมืองก็ขอให้ได้นำประกาศข้อที่ 27 เนี่ย มาใช้เพื่อลงโทษกรรมการบริหารด้วย เพราะฉะนั้นตุลาการจะต้องวินิจฉัยในเรื่องนี้ด้วย
ผู้ดำเนินรายการ ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายก็ได้มีการต่อสู้ตรงนี้ด้วยใช่ไหมครับ หมายถึงเรื่องโทษกรรมการบริหารพรรคเนี่ยฮะ
คุณอภิสิทธิ์ เราก็ยังไม่ได้เจาะจงไปในเรื่องคำสั่งที่ 27 เราก็ต่อสู้ไปในเรื่องของข้อเท็จจริงว่าไม่ได้มีการกระทำความผิดนะครับ และก็มีข้อกฎหมายบางส่วนนะครับ ซึ่งมันกว้างกว่าตัวคำสั่งฉบับที่ 27
ผู้ดำเนินรายการ ครับ มาถึงการชุมนุมของฝ่ายต่าง ๆ ทั้งก่อนหน้านี้และก็กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป เรื่องการโจมตีคมช.กับ พล.อ.เปรม คุณอภิสิทธิ์ดูแล้วเป็นห่วงไหมครับว่าจะนำไปสู่เงื่อนไขความรุนแรงอีกครั้งหนึ่ง
คุณอภิสิทธิ์ ผมคิดว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเนี่ย เมื่อมีการตัดสินใจไม่ใช่พรก.ผมก็มองว่าบรรยากาศก็คลายลง และการชุมนุมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรนะครับ สัปดาห์ที่แล้วก็ไปชุมนุมที่กทม.นะครับ ซึ่งผมคิดว่าถ้ามันอยู่ในแง่ของการชุมนุม คือหมายความว่าในแง่ของการที่คนเข้ามาแล้วก็ไม่มีการปะทะกัน ผมคิดว่าไม่มีอะไรที่น่ากังวล ส่วนเนื้อหาสาระของการที่จะพูดกันเนี่ยก็ต้องถูกกำกับโดยกฎหมาย แล้วก็นอกจากกฎหมายแล้วก็อยากให้คนที่ไปชมุนุม หรือว่าคนที่ไปขึ้นปราศรัยเนี่ยให้ใช้จิตสำนึกของตัวเอง ว่าอะไรควร อะไรไม่ควรนะครับ กรณีของตำแหน่งองคมนตรี หรือประธานองคมนตรีไม่ใช่สิ่งซึ่งจะมาดำเนินงานกันทางการเมืองนะครับ เพราะฉะนั้นอันนี้เนี่ยผมอยากให้ทุกฝ่ายอยู่ในกรอบ ส่วนการต่อต้านทางคมช. รัฐบาล ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะแสดงความคิดเห็นมีสิทธิเสรีภาพที่จะทำอย่างเต็มที่ เห็นว่าทำอะไรถูกทำอะไรไม่ถูก มีความไม่ชอบมาพากลหรือไม่อย่างไรก็เสนอข้อมูลกันไป และก็รับผิดชอบกันไปตามสิ่งที่ตัวเองพูด อันนี้ผมคิดว่าเป็นแนวทางที่น่าจะเหมาะสมที่สุด
ผู้ดำเนินรายการ ครับ เมื่อทันทีที่คมช.อนุญาตให้ทางพรรคการเมืองทำกิจกรรมได้เนี่ย สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์จะทำตอนนั้นคืออะไรบ้าง
คุณอภิสิทธิ์ ครับ ผมยังมองไม่ค่อยเห็นว่าคมช.จะมีอำนาจในการมาอนุญาตอะไร อย่างไร นะครับ คำสั่งคปค.เนี่ยเป็นกฎหมายนะครับ ในกฎหมายนั้นเขียนว่าห้ามพรรคการเมืองเนี่ยประชุม หรือดำเนินกิจการใด ๆ ทางการเมืองเนี่ยยกจนกว่า หรือยกเว้นคณะรัฐมนตรีจะมีมติเป็นอย่างอื่นนะครับ เมื่อเป็นกฎหมายเขียนไว้อย่างนี้เนี่ย ผมก็ยังแปลกใจอยู่ว่าคมช.จะมีอำนาจอนุญาตให้ทำอะไรได้นะครับ สิ่งที่กระทำได้คือคณะรัฐมนตรีต้องประชุมแล้วมีมติเป็นอย่างอื่น คำว่าเป็นอย่างอื่นก็อาจจะบอกว่ายกเลิกแล้ว หรืออาจจะบอกว่าเปลี่ยนแปลงเป็นว่าห้ามทำอย่างนั้นอย่างนี้นะครับ เพราะฉะนั้นจริง ๆ แล้วผมได้เรียกร้องมาตลอดว่า และก็ขอให้กกต.ทำเรื่องไปถึงครม.และครม.ควรจะมีมติในเรื่องนี้ แต่ถ้าถามว่าขออนุญาตคมช.ผมยังมองไม่เห็นว่าคมช.จะมีอำนาจในทางกฎหมายทำอะไรได้ ส่วนถามว่าเราอยากทำอะไร ตรงนั้นเตรียมไว้หมดแล้ว และเป็นสิ่งทีผมพูดเมื่อสักครู่นี้ว่าเราอยากมุ่งไปที่ปัญหาของบ้านเมืองว่าเรื่องเหล่านี้ถึงเวลาที่จะต้องมาพูดคุยทำความเข้าใจกัน และก็พรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องไปแลกเปลี่ยนกับประชาชนว่าแนวทางข้างหน้าในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ จะเป็นอย่างไร นี่คือเรื่องสำคัญที่สุดที่อยากจะทำ นะครับ ไม่ใช่เรื่องลึกลับ ปราศรัยหาเสียง ไม่ใช่เป็นเรื่องว่าจะมาประชุมเพื่อที่จะช่วงชิงกันว่าแย้งอดีตส.ส.เข้ามาในพรรคไม่ใช่ เรื่องที่อยากทำมากที่สุดตอนนี้คือมาเปิดเวทีประชาธิปไตยบนพื้นฐานของปัญหาบ้านเมืองที่จะต้องมาแก้ไขในปีหน้า
ผู้ดำเนินรายการ ครับ รัฐบาลของปีหน้าใครจะเป็นแกนนำก็แล้วแต่คงเหนื่อยมากนะครับ เพราะปัญหาหลายอย่างมันต้องกอบกู้กันอีกเยอะใช่ไหมฮะ
คุณอภิสิทธิ์ ผมมองอย่างนั้นนะครับ ด้วยเหตุผลนี้ผมจึงมองว่ามันไม่ใช่เรื่องของ คือคนที่คิดจะไปบริหารบ้านเมืองเนี่ย มันไม่ใช่เรื่องของการไปหาเสียงนะครับ ในเวลาขณะนี้ มันเป็นเรื่องของการว่าพร้อมแค่ไหนในการที่จะไปทั้งแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ทั้งหยุดยั้งความหดถอยในหลาย ๆ เรื่องของบ้านเมืองของเรา ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง
ผู้ดำเนินรายการ ครับ เอาละครับขอบคุณมากครับคุณอภิสิทธิ์ครับ
คุณอภิสิทธิ์ ครับ ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
******************************************
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 6 เม.ย. 2550--จบ--