วันนี้(21 ม.ค.50)นายสาธิต ปิตุเตชะ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการดักฟังโทรศัพท์ ว่า เป็นการทำลายสิทธิขั้นพื้นฐาน ของประชาชน ซึ่งกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ 2540 ซึ่งการดักฟังโทรศัพท์สามารถทำได้ก็ต่อเมื่อเกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ หรือเพื่อการสอบสวนในกระบวนการยุติธรรม
แต่สำหรับประเทศไทยในสมัยรัฐบาลทักษิณ มีข้อสงสัยอย่างแพร่หลายว่ามีการนำวิธีนี้มาใช้ในช่วงเวลาที่รัฐบาลต้องการต่อรอง หรือดิสเครดิสฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล โดยนำข้อมูลที่ดักฟังมาเป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมือง ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้ในสมัยรัฐบาลทักษิณถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่มาถึงรัฐบาลชุดปัจจุบัน ระบบโทรคมนาคมได้ถูกโอนไปเป็นของต่างชาติ ซึ่งทำหลายฝ่ายมีความเป็นห่วงกันว่าจะเป็นภัยต่อความมั่นคงในการจะนำความลับของประเทศไปเปิดเผยกับอีกประเทศหนึ่ง ทั้งด้านการเมืองและด้านธุรกิจ
พรรคประชาธิปัตย์ จึงของเรียกร้อง ให้รัฐบาลชุดปัจจุบันหามาตรการป้องกันแก้ไขตรวจสอบเพื่อไม่ให้การใช้วิธีการดักฟังโทรศัพท์ ไปใช้ทำลายระบบการเมือง เศรษฐกิจ ตลอดทั้งการแข่งขันของระบบเอกชน รัฐบาลควรมีมาตรการที่เด็ดขาดในการดำเนินการลงโทษกับผู้ดักฟังโทรศัพท์ ตลอดทั้งออกกฎหมายให้ชัดเจนในการไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้น เนื่องจากเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนและประเทศชาติ
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 21 ม.ค. 2550--จบ--
แต่สำหรับประเทศไทยในสมัยรัฐบาลทักษิณ มีข้อสงสัยอย่างแพร่หลายว่ามีการนำวิธีนี้มาใช้ในช่วงเวลาที่รัฐบาลต้องการต่อรอง หรือดิสเครดิสฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล โดยนำข้อมูลที่ดักฟังมาเป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมือง ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้ในสมัยรัฐบาลทักษิณถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่มาถึงรัฐบาลชุดปัจจุบัน ระบบโทรคมนาคมได้ถูกโอนไปเป็นของต่างชาติ ซึ่งทำหลายฝ่ายมีความเป็นห่วงกันว่าจะเป็นภัยต่อความมั่นคงในการจะนำความลับของประเทศไปเปิดเผยกับอีกประเทศหนึ่ง ทั้งด้านการเมืองและด้านธุรกิจ
พรรคประชาธิปัตย์ จึงของเรียกร้อง ให้รัฐบาลชุดปัจจุบันหามาตรการป้องกันแก้ไขตรวจสอบเพื่อไม่ให้การใช้วิธีการดักฟังโทรศัพท์ ไปใช้ทำลายระบบการเมือง เศรษฐกิจ ตลอดทั้งการแข่งขันของระบบเอกชน รัฐบาลควรมีมาตรการที่เด็ดขาดในการดำเนินการลงโทษกับผู้ดักฟังโทรศัพท์ ตลอดทั้งออกกฎหมายให้ชัดเจนในการไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้น เนื่องจากเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนและประเทศชาติ
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 21 ม.ค. 2550--จบ--