พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งแต่ระหว่างวันที่ 2 - 8 ธ.ค. พ.ศ. 2548

ข่าวทั่วไป Friday December 2, 2005 15:09 —กรมอุตุนิยมวิทยา

          พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร  
วัน ศุกร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 144/2548
คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า
ตั้งแต่วันที่ 2-8 ธ.ค. 2548
ในช่วงวันที่ 2-4 ธ.ค. หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกชุกกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ สำหรับความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ ในช่วงวันที่ 5-8 ธ.ค. ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนระลอกใหม่จะแผ่เสริมลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง ลักษณะ เช่นนี้จะทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองในระยะแรกกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2-5 องศาเซลเซียส ส่งผลทำให้มีอากาศหนาวในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-10 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกจะมีอากาศเย็น สำหรับภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางแห่ง คลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นด้วย
ข้อควรระวัง
ในระยะนี้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ซึ่งอาจทำให้ เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่เสี่ยงภัย เกษตรกรควรเตรียมพร้อมระวังความเสียหายจากสภาวะ ดังกล่าว ส่วนในช่วงวันที่ 5-8 ธ.ค. ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออากาศจะหนาวเย็นลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพ ของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรงด้วย ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นโดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ ในระยะ 7 วันข้างหน้า มีดังนี้
เหนือ
ลักษณอากาศ
# ในช่วงวันที่ 2-4 ธ.ค. มีหมอกหลายพื้นที่ในตอนเช้าและอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศา บริเวณยอดดอย มีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-10 องศา ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 5-8 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา ทำให้มีอากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ในช่วงวันที่ 2-4 ธ.ค. มีหมอกหลายพื้นที่ในตอนเช้าและอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศา บริเวณยอดดอย มีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-10 องศา ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 5-8 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา ทำให้มีอากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. เกษตรควรให้ความอบอุ่นแก่ตนเองอย่างเพียงพอ ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรควบคุมอุณหภูมิในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์ปรับตัวไม่ทันทำให้เจ็บป่วยได้ นอกจากนี้ควรหมั่นสังเกตหากพบสัตว์ที่ป่วยควรรีบแยกออกจากกลุ่ม และรักษา เพื่อไม่ให้เชื้อโรคแพร่ไปยังสัตว์ตัวอื่นๆ
ตะวันออกเฉียงเหนือ
ลักษณะอากาศ
# ในช่วงวันที่ 2-4 ธ.ค. มีหมอกในตอนเช้าและอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศา บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-13 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 5-8 ธ.ค. อุณหภูมิ จะลดลง 2-5 องศา ทำให้มีอากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศา ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศา และมีลมแรง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ในช่วงวันที่ 2-4 ธ.ค. มีหมอกในตอนเช้าและอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศา บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-13 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 5-8 ธ.ค. อุณหภูมิ จะลดลง 2-5 องศา ทำให้มีอากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศา ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศา และมีลมแรง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. เกษตรกรควรรักษาสุภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยโดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจและโรคผิวหนัง เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้งและมีลมแรงดังนั้นจึงควรระวังการเกิดอัคคีภัยและไฟป่า สำหรับสัตว์เลี้ยงควรกำบัง ลมหนาว และเพิ่มความอบอุ่นภายในโรงเรือนด้วย
กลาง
ลักษณะอากาศ
# ในช่วงวันที่ 2-5 ธ.ค. มีหมอกในตอนเช้าและอากาศเย็นทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศา และมีฝน เล็กน้อยบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี และราชบุรี ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 6-8 ธ.ค อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา ทำให้มีอากาศเย็นเกือบทั่วไปและมีลมแรง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ในช่วงวันที่ 2-5 ธ.ค. มีหมอกในตอนเช้าและอากาศเย็นทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศา และมีฝน เล็กน้อยบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี และราชบุรี ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. เกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดกับผลผลิตที่ตากไว้กลางแจ้ง ส่วนในช่วงวันที่ 6-8 ธ.ค อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา ทำให้มีอากาศเย็นเกือบทั่วไปและมีลมแรง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงเกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อไม่ให้เจ็บป่วย ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรเพิ่มอุณหภูมิน้ำและลดปริมาณอาหารเนื่องจากอุณหภูมิลดลงทำให้สัตว์น้ำกินอาหารได้น้อยลง อาหารที่เหลือ จะทำให้น้ำเน่าเสีย ส่งผลให้ปลาอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
ตะวันออก
ลักษณะอากาศ
# ในช่วงวันที่ 2-5 ธ.ค. มีหมอกในตอนเช้าและอากาศเย็นทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 23 องศา และมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่ง ๆ 10 —30 % ของพื้นที่ ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่งบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 6 — 8 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา ทำให้มีอากาศเย็นส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ในช่วงวันที่ 2-5 ธ.ค. มีหมอกในตอนเช้าและอากาศเย็นทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 23 องศา และมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่ง ๆ 10 —30 % ของพื้นที่ ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่งบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. เกษตรควรระวังความเสียหายของผลผลิตที่ตากไว้ กลางแจ้ง ส่วนในช่วงวันที่ 6 — 8 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา ทำให้มีอากาศเย็นส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. เกษตรกรควรคลุมบริเวณโคนต้นพืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ฟางข้าว หญ้าแห้ง หรือใบไม้ เพื่อสงวนความชื้นดิน นอกจากนี้ควรระวังการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรชนิดต่างๆ
ใต้
ลักษณะอากาศ
# ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป 60-80 % ของพื้นที่เกือบตลอดช่วง โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป ในช่วงวันที่ 2-4 ธ.ค. และ 7-8 ธ.ค. ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป 50-70 % ของพื้นที่เกือบตลอดช่วง โดยจะมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากในช่วงวันที่ 2-4 ธ.ค. และ 7-8 ธ.ค. ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป 60-80 % ของพื้นที่เกือบตลอดช่วง โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป ในช่วงวันที่ 2-4 ธ.ค. และ 7-8 ธ.ค. ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป 50-70 % ของพื้นที่เกือบตลอดช่วง โดยจะมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากในช่วงวันที่ 2-4 ธ.ค. และ 7-8 ธ.ค. ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. สำหรับบริเวณที่มีฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง เกษตรกรควรเตรียมพร้อมป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว โดยทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก และวางแผนอพยพสัตว์เลี้ยงไปไว้ในที่สูงน้ำท่วมไม่ถึง นอกจากนี้ควรระวังการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา อนึ่ง ในช่วงวันที่ 5-8 ธ.ค. คลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นโดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ