ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. เงินบาทแข็งค่าที่สุดในรอบ 10 ปี เนื่องจากเงินดอลลาร์ สรอ. อ่อนค่าลง นางอัจนา ไวความดี รองผู้ว่าการด้าน
เสถียรภาพการเงิน ธปท. เปิดเผยถึงค่าเงินบาทที่แข็งค่าที่สุดในรอบ 10 ปี เมื่อวานนี้ (3 ก.ค.) ที่ระดับ 34.30 บาท ต่อดอลลาร์ สรอ.
ว่า เป็นการแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องในช่วง 2 วันที่ผ่านมา เนื่องจากเงินดอลลาร์ สรอ. มีแนวโน้มอ่อนค่าลงต่อเนื่อง ส่งผลให้เงินในภูมิภาค
แข็งค่าขึ้นทุกสกุล โดยดัชนีเครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจของ สรอ. ออกมาไม่ดีทำให้เกิดแรงเทขายเงินดอลลาร์ สรอ. ค่าของเงินบาทและ
เงินสกุลอื่นในภูมิภาคจึงแข็งค่าขึ้น ดังนั้น การแข็งค่าของเงินบาทในช่วงนี้จึงเป็นไปตามตลาดภูมิภาค ไม่ได้แข็งค่าขึ้นเกินไปหรืออ่อนค่า
มากกว่าในภูมิภาค ทั้งนี้ ธปท. ได้ติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด แต่ไม่ได้เข้าไปแทรกแซงเพราะยังไม่มีความจำเป็น แต่มีความเป็นไปได้ว่า
การที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นมากอาจเกิดจากผู้ส่งออกเทขายเงินดอลลาร์ สรอ. ที่มีอยู่ออกมา เพราะเห็นว่าเงินบาทเริ่มแข็งค่าอาจทำให้ขาดทุน
ส่วนการที่เงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามาในตลาดหุ้นไทยจำนวนมากตั้งแต่ต้นปีก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่า
เงินทุนจากต่างประเทศที่เข้ามาไม่ต้องกันสำรองร้อยละ 30 หรือการทำประกันความเสี่ยง 100% เพราะมีเกณฑ์ยกเว้นก็ตามแต่เชื่อว่าจะ
ไม่สร้างปัญหาให้กับการดูแลอัตราแลกเปลี่ยนและค่าเงินบาท (โลกวันนี้, มติชน)
2. ยอดหนี้ต่างประเทศภาคเอกชนที่ไม่ใช่ ธ.พาณิชย์ ณ สิ้นไตรมาสแรกปีนี้มีจำนวน 3.8 หมื่นล้านดอลลาร์ สรอ. ธปท.เปิดเผย
ผลการสำรวจหนี้ต่างประเทศภาคเอกชนที่ไม่ใช่ ธ.พาณิชย์ ณ สิ้นไตรมาสแรกปีนี้ว่า มีจำนวนคงค้าง (ไม่รวมสินเชื่อการค้า) ทั้งสิ้น
3.8 หมื่นล้านดอลลาร์ สรอ. สูงสุดนับจากปี 43 เป็นต้นมา เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 700 ล้านดอลลาร์ สรอ. หรือร้อยละ 2.4
ซึ่งพบว่าหนี้ต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นเป็นผลของอัตราแลกเปลี่ยน 392 ล้านดอลลาร์ สรอ. เนื่องจากเงินบาทแข็งค่าขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า
ร้อยละ 3 นอกจากนี้ ยังเป็นเพราะหนี้เพิ่มสุทธิจากการทำธุรกรรม 149 ล้านดอลลาร์ สรอ. และหนี้ที่เพิ่มขึ้นจากเงินกู้ที่ไม่นำเงินเข้า
130 ล้านดอลลาร์ สรอ. สำหรับประเภทของหนี้ต่างประเทศพบว่าเกือบร้อยละ 90 เป็นหนี้เงินกู้ ที่เหลือเป็นหนี้จากการออกตราสารหนี้
โดยในส่วนของหนี้เงินกู้เป็นสกุลเงินตราต่างประเทศ 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ สรอ. หรือร้อยละ 55 ของยอดหนี้คงค้างทั้งหมด หนี้สกุล
เงินบาท 1 หมื่นล้านดอลลาร์ สรอ. หรือร้อยละ 32 ขณะที่ในส่วนของหนี้จากการออกตราสารหนี้ที่เป็นสกุลเงินตราต่างประเทศ
3 พันล้านดอลลาร์ สรอ. หรือร้อยละ 10 ของยอดหนี้คงค้างทั้งหมด และการออกตราสารหนี้สกุลเงินบาท 1 พันล้านดอลลาร์ สรอ.
หรือร้อยละ 3 ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาโครงสร้างหนี้ต่างประเทศพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนคือ หนี้สกุลเงินบาทมีสัดส่วนสูงขึ้นอย่าง
ต่อเนื่อง จากสัดส่วนร้อยละ 8 ในปี 43 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 35 ขณะที่เงินกู้เงินตราต่างประเทศลดลง นอกจากนี้ ยังพบว่าหนี้ต่างประเทศ
ส่วนใหญ่ยังอยู่ในรูปสกุลเงินดอลลาร์ สรอ. ถึงร้อยละ 42 รองลงมาเป็นหนี้เงินบาทร้อยละ 35.3 และหนี้สกุลเงินเยนร้อยละ 17.2
โดย สรอ. เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่สุดที่ไทยกู้เงินถึงร้อยละ 21.5 สิงคโปร์ร้อยละ 18.9 ญี่ปุ่นร้อยละ 14.2 และฮ่องกงร้อยละ 12.1 ทั้งนี้
โครงสร้างประเทศเจ้าหนี้ได้เปลี่ยนแปลงในระยะ 6 ปีที่ผ่านมาคือ เจ้าหนี้รายใหญ่ของไทยเปลี่ยนจากญี่ปุ่นเป็น สรอ. นอกจากนี้ รายงาน
ดังกล่าวได้ตั้งข้อสังเกตว่า หลังจากที่ ธปท. ออกมาตรการกันสำรองร้อยละ 30 สำหรับเงินทุนนำเข้าจากต่างประเทศ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่
เดือน ธ.ค.49 ได้ส่งผลต่อธุรกรรมการไหลเข้า-ออกของเงินกู้ต่างประเทศในไตรมาสแรกปีนี้ โดยธุรกรรมนำเข้าเงินกู้ลดลงจากไตรมาส 4
ปี 49 ถึงร้อยละ 60 ขณะที่ธุรกรรมการคืนเงินกู้ต่างประเทศผ่านสถาบันการเงินลดลงร้อยละ 55 ซึ่งธุรกิจที่มีการก่อหนี้ระยะสั้นได้ใช้วิธีต่อ
\อายุเงินกู้เดิมแทนการชำระหนี้คืนแล้วกู้ใหม่ในช่วงสั้น ๆ (มติชน)
3. ธปท. เตรียมเปิดเผยข้อมูลการดำเนินธุรกรรมแบบรายวันในตลาดการเงินของ ธปท. รายงานจาก ธปท. แจ้งว่า ธปท.
จะเปิดเผยข้อมูลการดำเนินธุรกรรมแบบรายวันในตลาดการเงินของ ธปท. เพิ่มเติมในเว็บไซต์ www.bot.or.th ตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค.นี้
เป็นต้นไป เพื่อเพิ่มความโปร่งใสของการดำเนินนโยบายการเงิน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมกลไกการส่งผ่านและเพิ่มประสิทธิภาพของนโยบายการเงิน
รวมทั้งเอื้อต่อการพัฒนาตลาดเงิน สำหรับข้อมูลที่จะเปิดเผยประกอบด้วยการทำธุรกรรมซื้อคืนพันธบัตรแบบทวิภาคี และการทำธุรกรรมซื้อขาย
หลักทรัพย์รัฐบาล นอกจากนี้ ในระยะต่อไป ธปท. มีแผนที่จะเปิดเผยข้อมูลการดำเนินธุรกรรมอื่น ๆ ของ ธปท. พร้อมทั้งข้อมูลตลาดเงินที่
จะเอื้อต่อการบริหารจัดการสภาพคล่องของสถาบันการเงินและผู้ลงทุนทั่วไปตามความเหมาะสม ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลการดำเนินธุรกรรม
ในตลาดเงินภายใต้กรอบการดำเนินนโยบายการเงินแบบการกำหนดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่กำหนดให้อัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตร
ระยะ 1 วัน เป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ธปท. ได้ดำเนินธุรกรรมต่าง ๆ ในตลาดการเงิน และเพื่อดูแลสภาพคล่องให้เหมาะสมสอดคล้อง
กับระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (ผู้จัดการรายวัน, โลกวันนี้)
4. ผลการดำเนินงานที่ลดลงและปัญหาเอ็นพีแอลของ ธ.พาณิชย์ในระยะนี้เป็นเพียงชั่วคราวคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว
บ.ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ผลสำเร็จที่ตามมาจากการมุ่งแก้ไขบทเรียนจากวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี 40 คือผลการดำเนินงานและศักยภาพ
ในการทำกำไรของ ธ.พาณิชย์ไทยที่ฟื้นตัวขึ้นชัดเจนจากช่วงวิกฤต แม้ว่าในไตรมาสแรกปีนี้ความสามารถในการทำกำไรของ ธ.พาณิชย์ไทย
ได้ปรับตัวลดลงและเอ็นพีแอลกลับเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ตลอดจนข่าวความจำเป็นในการเพิ่มทุนของ ธ.พาณิชย์บางแห่งได้ตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพ
ของการแก้ไขปัญหาของสถาบันการเงินในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม บ.ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมีความเห็นว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในไตรมาสแรกปีนี้
น่าจะมีสาเหตุและองค์ประกอบที่แตกต่างจากช่วงวิกฤตปี 40 เนื่องจากการชะลอตัวของผลการดำเนินงานของระบบ ธ.พาณิชย์ไทยในรอบนี้มี
สาเหตุหลักจากการชะลอตัวของวัฏจักรเศรษฐกิจตามปกติ ขณะเดียวกันเชื่อว่า ธ.พาณิชย์ไทยมีความเชี่ยวชาญมากขึ้นในการรับมือกับการเพิ่มขึ้น
ของเอ็นพีแอลในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ดังนั้น การชะลอตัวของผลการดำเนินงานและปัญหาเอ็นพีแอลของ ธ.พาณิชย์ไทยในระยะนี้จึงน่าจะ
เป็นปัญหาเพียงชั่วคราวและคงจะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว (โพสต์ทูเดย์, กรุงเทพธุรกิจ)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. อัตราว่างงานของ Euro zone ในเดือน พ.ค.50 อยู่ที่ร้อยละ 7.0 ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ปี 39 ในขณะที่ดัชนีราคา
ผู้ผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 ต่อปี รายงานจากบรัสเซลส์ เมื่อ 3 ก.ค.50 Eurostat ซึ่งเป็น สนง.สถิติกลางของยุโรปรายงานอัตราว่างงาน
ใน 13 ประเทศที่ใช้เงินยูโรเป็นเงินสกุลหลักลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 7.0 ในเดือน พ.ค.50 จากระดับ 7.1 ในเดือน เม.ย.50 อยู่ในระดับ
ต่ำสุดนับตั้งแต่มีการเก็บตัวเลขดังกล่าวในปี 39 โดยลดลงจากร้อยละ 7.9 ในเดือน พ.ค.49 นับเป็นสัญญาณที่ดีว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภค
อาจขยายตัวดีขึ้น แต่ก็ได้สร้างความกังวลให้แก่ ธ.กลางยุโรปหรือ ECB ว่าอาจทำให้ค่าจ้างสูงขึ้นในอีกไม่นานหลังจากนี้ซึ่งอาจก่อให้เกิด
แรงกดดันเงินเฟ้อและเป็นที่คาดกันว่า ECB อาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือน ก.ย.50 นี้ ทั้งนี้ เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีอัตรา
ว่างงานต่ำสุดใน Euro zone คือร้อยละ 3.2 ในขณะที่ฝรั่งเศสซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของ Euro zone มีอัตราว่างงานสูงสุด
คือร้อยละ 8.7 โดยลดลงจากร้อยละ 9.6 ในเดือน พ.ค.49 แต่อย่างไรก็ดี แม้ว่าอัตราว่างงานของ Euro zone จะอยู่ในระดับต่ำสุด
เป็นประวัติการณ์ แต่ก็ยังสูงกว่า สรอ.และญี่ปุ่นซึ่งอัตราว่างงานในเดือนเดียวกันอยู่ที่ร้อยละ 4.5 และ 3.8 ตามลำดับ นอกจากนี้ Eurostat
ยังรายงานดัชนีราคาผู้ผลิตของ Euro zone ในเดือน พ.ค.50 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 ต่อเดือนและร้อยละ 2.3 ต่อปีตามลำดับ ชะลอตัวลง
เล็กน้อยจากเดือนก่อนซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 ต่อเดือนและร้อยละ 2.4 ต่อปีตามลำดับ (รอยเตอร์)
2. คาดว่าดัชนีภาคบริการของ สรอ.ในเดือน มิ.ย.50 จะชะลอตัวอยู่ที่ระดับ 58.0 รายงานจากนิวยอร์ก เมื่อ 3 ก.ค.50
ผลสำรวจนักวิเคราะห์โดยรอยเตอร์ เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของ สรอ.ในเดือน มิ.ย.50 น่าจะชะลอตัวอยู่ที่ระดับ 58.0 จากระดับ 59.7
ในเดือน พ.ค.50 โดยมีช่วงการคาดคะเนอยู่ระหว่าง 56.0 ถึง 62.3 ทั้งนี้ สาเหตุที่ดัชนีภาคบริการในเดือน มิ.ย.ชะลอตัวลง เนื่องจาก
การฟื้นตัวของกิจกรรมทางธุรกิจไม่สามารถชดเชยการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ลดลงได้ทั้งหมด นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า
ภาคบริการอาจหยุดชะงักชั่วคราวในช่วงต้นฤดูร้อน ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมการผลิตยังคงกระเตื้องตามความต้องการสินค้าคงคลังและตลาด
ต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น อนึ่ง Institute for Supply Management (ISM) จะประกาศตัวดัชนีภาคบริการในวันพฤหัสบดีที่ 5 ก.ค.50
เวลา 10.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น (รอยเตอร์)
3. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของอังกฤษในเดือน มิ.ย.50 ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือนที่ระดับ 95 รายงานจากลอนดอน
เมื่อ 4 ก.ค.50 Mortgage lender Nationwide เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของอังกฤษในเดือน มิ.ย.50 (ซึ่งเป็นการ
สำรวจความคาดหวังของประชาชนระหว่างวันที่ 21 พ.ค. — 17 มิ.ย.50 ) ว่า ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือนที่ระดับ 95 หลังจาก
ที่เคยอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีครึ่งที่ระดับ 99 ในเดือน พ.ค.50 ทั้งนี้ จากตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
เกี่ยวกับสถานการณ์ในปัจจุบันเลวร้ายลง ขณะที่หัวหน้านักวิเคราะห์ของ Nationwide กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงในขณะนี้น่าจะ
เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง เนื่องจากผู้บริโภคตระหนักว่า อัตราดอกเบี้ยส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจในแนวกว้าง
รวมถึงรายได้ในครัวเรือนด้วย อนึ่ง ตั้งแต่เดือน ส.ค.49 ธ.กลางอังกฤษปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายมาแล้วรวมร้อยละ 1 และคาดการณ์
ว่าอาจปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งมาอยู่ที่ร้อยละ 5.75 ในการประชุมในวันพฤหัสบดีที่ 5 ก.ค.ที่จะถึงนี้ (รอยเตอร์)
4. PMI ของสิงคโปร์ในเดือน มิ.ย.50 เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 5 เดือน รายงานจากสิงคโปร์เมื่อ 3 ก.ค.50 The Singapore
Institute of Purchasing & Materials Management เปิดเผยผลการสำรวจ Purchasing Managers’ Index (PMI) ซึ่งเป็น
ดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพของภาคการผลิตสิงคโปร์ในเดือน มิ.ย.50 ว่า เพิ่มขึ้นที่ระดับ 52.3 จุด จากระดับ 50.0 จุดในเดือนก่อนหน้า และ
เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค.50 โดยดัชนีอยู่เหนือระดับ 50 สะท้อนการขยายตัวของภาคการผลิตสิงคโปร์ เป็นผลจากดัชนีที่เป็นส่วน
ประกอบขยายตัวอย่างมาก ได้แก่ New orders ขยายตัวที่ 53.3 จาก 51.1 จุด New export orders ขยายตัวที่ 55.9 จาก 50.8 จุด
Stocks of finished goods ขยายตัวที่ 52.8 จาก 50.5 จุด และ Imports index ขยายตัวที่ 51.9 จาก 50.3 จุด โดยเฉพาะ
ดัชนีในภาคอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งมีสัดส่วนถึง 1 ใน 3 ของผลผลิตภาคอุตสาหกรรม โดย Electronics sector index อยู่ที่
ระดับ 53.1 จุด เพิ่มขึ้น 2.6 จุดจากระดับ 51.1 จุดในเดือนก่อนหน้า และ Electronics new export/orders index ขยายตัว
ที่ระดับ 55.5 จาก 52.9 จุด นอกจากนี้ ผลผลิตโรงงานในเดือน พ.ค.50 ได้ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งเหนือความคาดหมายร้อยละ 4.0
โดยมีสาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของยอดการผลิตและจำหน่ายสินค้าเครื่องขุดเจาะน้ำมันและผลิตภัณฑ์ยา ซึ่งบรรดานักวิเคราะห์ต่างคาดการณ์
ว่าการส่งออกของสิงคโปร์ในช่วงครึ่งหลังปี 50 จะฟื้นตัวขึ้นจากภาวะชะลอตัวในช่วงครึ่งแรกของปี (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 4 ก.ค. 50 3 ก.ค. 50 29 ธ.ค. 49 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 34.353 36.044 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 34.1762/34.5111 35.8601/36.2308 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 3.68656 5.12813 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 813.52/46.93 679.84/9.22 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,550/10,650 10,650/10,750 10,750/10,650 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 68.21 68.13 56.48 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 29.99*/25.34** 29.99*/25.34** 26.49/23.34 ปตท.
* ปรับเลดเมื่อ 2 มิ.ย. 50 , ** ปรับเพิ่มเมื่อ 26 เม.ย. 50
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
1. เงินบาทแข็งค่าที่สุดในรอบ 10 ปี เนื่องจากเงินดอลลาร์ สรอ. อ่อนค่าลง นางอัจนา ไวความดี รองผู้ว่าการด้าน
เสถียรภาพการเงิน ธปท. เปิดเผยถึงค่าเงินบาทที่แข็งค่าที่สุดในรอบ 10 ปี เมื่อวานนี้ (3 ก.ค.) ที่ระดับ 34.30 บาท ต่อดอลลาร์ สรอ.
ว่า เป็นการแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องในช่วง 2 วันที่ผ่านมา เนื่องจากเงินดอลลาร์ สรอ. มีแนวโน้มอ่อนค่าลงต่อเนื่อง ส่งผลให้เงินในภูมิภาค
แข็งค่าขึ้นทุกสกุล โดยดัชนีเครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจของ สรอ. ออกมาไม่ดีทำให้เกิดแรงเทขายเงินดอลลาร์ สรอ. ค่าของเงินบาทและ
เงินสกุลอื่นในภูมิภาคจึงแข็งค่าขึ้น ดังนั้น การแข็งค่าของเงินบาทในช่วงนี้จึงเป็นไปตามตลาดภูมิภาค ไม่ได้แข็งค่าขึ้นเกินไปหรืออ่อนค่า
มากกว่าในภูมิภาค ทั้งนี้ ธปท. ได้ติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด แต่ไม่ได้เข้าไปแทรกแซงเพราะยังไม่มีความจำเป็น แต่มีความเป็นไปได้ว่า
การที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นมากอาจเกิดจากผู้ส่งออกเทขายเงินดอลลาร์ สรอ. ที่มีอยู่ออกมา เพราะเห็นว่าเงินบาทเริ่มแข็งค่าอาจทำให้ขาดทุน
ส่วนการที่เงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามาในตลาดหุ้นไทยจำนวนมากตั้งแต่ต้นปีก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่า
เงินทุนจากต่างประเทศที่เข้ามาไม่ต้องกันสำรองร้อยละ 30 หรือการทำประกันความเสี่ยง 100% เพราะมีเกณฑ์ยกเว้นก็ตามแต่เชื่อว่าจะ
ไม่สร้างปัญหาให้กับการดูแลอัตราแลกเปลี่ยนและค่าเงินบาท (โลกวันนี้, มติชน)
2. ยอดหนี้ต่างประเทศภาคเอกชนที่ไม่ใช่ ธ.พาณิชย์ ณ สิ้นไตรมาสแรกปีนี้มีจำนวน 3.8 หมื่นล้านดอลลาร์ สรอ. ธปท.เปิดเผย
ผลการสำรวจหนี้ต่างประเทศภาคเอกชนที่ไม่ใช่ ธ.พาณิชย์ ณ สิ้นไตรมาสแรกปีนี้ว่า มีจำนวนคงค้าง (ไม่รวมสินเชื่อการค้า) ทั้งสิ้น
3.8 หมื่นล้านดอลลาร์ สรอ. สูงสุดนับจากปี 43 เป็นต้นมา เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 700 ล้านดอลลาร์ สรอ. หรือร้อยละ 2.4
ซึ่งพบว่าหนี้ต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นเป็นผลของอัตราแลกเปลี่ยน 392 ล้านดอลลาร์ สรอ. เนื่องจากเงินบาทแข็งค่าขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า
ร้อยละ 3 นอกจากนี้ ยังเป็นเพราะหนี้เพิ่มสุทธิจากการทำธุรกรรม 149 ล้านดอลลาร์ สรอ. และหนี้ที่เพิ่มขึ้นจากเงินกู้ที่ไม่นำเงินเข้า
130 ล้านดอลลาร์ สรอ. สำหรับประเภทของหนี้ต่างประเทศพบว่าเกือบร้อยละ 90 เป็นหนี้เงินกู้ ที่เหลือเป็นหนี้จากการออกตราสารหนี้
โดยในส่วนของหนี้เงินกู้เป็นสกุลเงินตราต่างประเทศ 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ สรอ. หรือร้อยละ 55 ของยอดหนี้คงค้างทั้งหมด หนี้สกุล
เงินบาท 1 หมื่นล้านดอลลาร์ สรอ. หรือร้อยละ 32 ขณะที่ในส่วนของหนี้จากการออกตราสารหนี้ที่เป็นสกุลเงินตราต่างประเทศ
3 พันล้านดอลลาร์ สรอ. หรือร้อยละ 10 ของยอดหนี้คงค้างทั้งหมด และการออกตราสารหนี้สกุลเงินบาท 1 พันล้านดอลลาร์ สรอ.
หรือร้อยละ 3 ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาโครงสร้างหนี้ต่างประเทศพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนคือ หนี้สกุลเงินบาทมีสัดส่วนสูงขึ้นอย่าง
ต่อเนื่อง จากสัดส่วนร้อยละ 8 ในปี 43 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 35 ขณะที่เงินกู้เงินตราต่างประเทศลดลง นอกจากนี้ ยังพบว่าหนี้ต่างประเทศ
ส่วนใหญ่ยังอยู่ในรูปสกุลเงินดอลลาร์ สรอ. ถึงร้อยละ 42 รองลงมาเป็นหนี้เงินบาทร้อยละ 35.3 และหนี้สกุลเงินเยนร้อยละ 17.2
โดย สรอ. เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่สุดที่ไทยกู้เงินถึงร้อยละ 21.5 สิงคโปร์ร้อยละ 18.9 ญี่ปุ่นร้อยละ 14.2 และฮ่องกงร้อยละ 12.1 ทั้งนี้
โครงสร้างประเทศเจ้าหนี้ได้เปลี่ยนแปลงในระยะ 6 ปีที่ผ่านมาคือ เจ้าหนี้รายใหญ่ของไทยเปลี่ยนจากญี่ปุ่นเป็น สรอ. นอกจากนี้ รายงาน
ดังกล่าวได้ตั้งข้อสังเกตว่า หลังจากที่ ธปท. ออกมาตรการกันสำรองร้อยละ 30 สำหรับเงินทุนนำเข้าจากต่างประเทศ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่
เดือน ธ.ค.49 ได้ส่งผลต่อธุรกรรมการไหลเข้า-ออกของเงินกู้ต่างประเทศในไตรมาสแรกปีนี้ โดยธุรกรรมนำเข้าเงินกู้ลดลงจากไตรมาส 4
ปี 49 ถึงร้อยละ 60 ขณะที่ธุรกรรมการคืนเงินกู้ต่างประเทศผ่านสถาบันการเงินลดลงร้อยละ 55 ซึ่งธุรกิจที่มีการก่อหนี้ระยะสั้นได้ใช้วิธีต่อ
\อายุเงินกู้เดิมแทนการชำระหนี้คืนแล้วกู้ใหม่ในช่วงสั้น ๆ (มติชน)
3. ธปท. เตรียมเปิดเผยข้อมูลการดำเนินธุรกรรมแบบรายวันในตลาดการเงินของ ธปท. รายงานจาก ธปท. แจ้งว่า ธปท.
จะเปิดเผยข้อมูลการดำเนินธุรกรรมแบบรายวันในตลาดการเงินของ ธปท. เพิ่มเติมในเว็บไซต์ www.bot.or.th ตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค.นี้
เป็นต้นไป เพื่อเพิ่มความโปร่งใสของการดำเนินนโยบายการเงิน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมกลไกการส่งผ่านและเพิ่มประสิทธิภาพของนโยบายการเงิน
รวมทั้งเอื้อต่อการพัฒนาตลาดเงิน สำหรับข้อมูลที่จะเปิดเผยประกอบด้วยการทำธุรกรรมซื้อคืนพันธบัตรแบบทวิภาคี และการทำธุรกรรมซื้อขาย
หลักทรัพย์รัฐบาล นอกจากนี้ ในระยะต่อไป ธปท. มีแผนที่จะเปิดเผยข้อมูลการดำเนินธุรกรรมอื่น ๆ ของ ธปท. พร้อมทั้งข้อมูลตลาดเงินที่
จะเอื้อต่อการบริหารจัดการสภาพคล่องของสถาบันการเงินและผู้ลงทุนทั่วไปตามความเหมาะสม ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลการดำเนินธุรกรรม
ในตลาดเงินภายใต้กรอบการดำเนินนโยบายการเงินแบบการกำหนดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่กำหนดให้อัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตร
ระยะ 1 วัน เป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ธปท. ได้ดำเนินธุรกรรมต่าง ๆ ในตลาดการเงิน และเพื่อดูแลสภาพคล่องให้เหมาะสมสอดคล้อง
กับระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (ผู้จัดการรายวัน, โลกวันนี้)
4. ผลการดำเนินงานที่ลดลงและปัญหาเอ็นพีแอลของ ธ.พาณิชย์ในระยะนี้เป็นเพียงชั่วคราวคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว
บ.ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ผลสำเร็จที่ตามมาจากการมุ่งแก้ไขบทเรียนจากวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี 40 คือผลการดำเนินงานและศักยภาพ
ในการทำกำไรของ ธ.พาณิชย์ไทยที่ฟื้นตัวขึ้นชัดเจนจากช่วงวิกฤต แม้ว่าในไตรมาสแรกปีนี้ความสามารถในการทำกำไรของ ธ.พาณิชย์ไทย
ได้ปรับตัวลดลงและเอ็นพีแอลกลับเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ตลอดจนข่าวความจำเป็นในการเพิ่มทุนของ ธ.พาณิชย์บางแห่งได้ตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพ
ของการแก้ไขปัญหาของสถาบันการเงินในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม บ.ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมีความเห็นว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในไตรมาสแรกปีนี้
น่าจะมีสาเหตุและองค์ประกอบที่แตกต่างจากช่วงวิกฤตปี 40 เนื่องจากการชะลอตัวของผลการดำเนินงานของระบบ ธ.พาณิชย์ไทยในรอบนี้มี
สาเหตุหลักจากการชะลอตัวของวัฏจักรเศรษฐกิจตามปกติ ขณะเดียวกันเชื่อว่า ธ.พาณิชย์ไทยมีความเชี่ยวชาญมากขึ้นในการรับมือกับการเพิ่มขึ้น
ของเอ็นพีแอลในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ดังนั้น การชะลอตัวของผลการดำเนินงานและปัญหาเอ็นพีแอลของ ธ.พาณิชย์ไทยในระยะนี้จึงน่าจะ
เป็นปัญหาเพียงชั่วคราวและคงจะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว (โพสต์ทูเดย์, กรุงเทพธุรกิจ)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. อัตราว่างงานของ Euro zone ในเดือน พ.ค.50 อยู่ที่ร้อยละ 7.0 ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ปี 39 ในขณะที่ดัชนีราคา
ผู้ผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 ต่อปี รายงานจากบรัสเซลส์ เมื่อ 3 ก.ค.50 Eurostat ซึ่งเป็น สนง.สถิติกลางของยุโรปรายงานอัตราว่างงาน
ใน 13 ประเทศที่ใช้เงินยูโรเป็นเงินสกุลหลักลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 7.0 ในเดือน พ.ค.50 จากระดับ 7.1 ในเดือน เม.ย.50 อยู่ในระดับ
ต่ำสุดนับตั้งแต่มีการเก็บตัวเลขดังกล่าวในปี 39 โดยลดลงจากร้อยละ 7.9 ในเดือน พ.ค.49 นับเป็นสัญญาณที่ดีว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภค
อาจขยายตัวดีขึ้น แต่ก็ได้สร้างความกังวลให้แก่ ธ.กลางยุโรปหรือ ECB ว่าอาจทำให้ค่าจ้างสูงขึ้นในอีกไม่นานหลังจากนี้ซึ่งอาจก่อให้เกิด
แรงกดดันเงินเฟ้อและเป็นที่คาดกันว่า ECB อาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือน ก.ย.50 นี้ ทั้งนี้ เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีอัตรา
ว่างงานต่ำสุดใน Euro zone คือร้อยละ 3.2 ในขณะที่ฝรั่งเศสซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของ Euro zone มีอัตราว่างงานสูงสุด
คือร้อยละ 8.7 โดยลดลงจากร้อยละ 9.6 ในเดือน พ.ค.49 แต่อย่างไรก็ดี แม้ว่าอัตราว่างงานของ Euro zone จะอยู่ในระดับต่ำสุด
เป็นประวัติการณ์ แต่ก็ยังสูงกว่า สรอ.และญี่ปุ่นซึ่งอัตราว่างงานในเดือนเดียวกันอยู่ที่ร้อยละ 4.5 และ 3.8 ตามลำดับ นอกจากนี้ Eurostat
ยังรายงานดัชนีราคาผู้ผลิตของ Euro zone ในเดือน พ.ค.50 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 ต่อเดือนและร้อยละ 2.3 ต่อปีตามลำดับ ชะลอตัวลง
เล็กน้อยจากเดือนก่อนซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 ต่อเดือนและร้อยละ 2.4 ต่อปีตามลำดับ (รอยเตอร์)
2. คาดว่าดัชนีภาคบริการของ สรอ.ในเดือน มิ.ย.50 จะชะลอตัวอยู่ที่ระดับ 58.0 รายงานจากนิวยอร์ก เมื่อ 3 ก.ค.50
ผลสำรวจนักวิเคราะห์โดยรอยเตอร์ เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของ สรอ.ในเดือน มิ.ย.50 น่าจะชะลอตัวอยู่ที่ระดับ 58.0 จากระดับ 59.7
ในเดือน พ.ค.50 โดยมีช่วงการคาดคะเนอยู่ระหว่าง 56.0 ถึง 62.3 ทั้งนี้ สาเหตุที่ดัชนีภาคบริการในเดือน มิ.ย.ชะลอตัวลง เนื่องจาก
การฟื้นตัวของกิจกรรมทางธุรกิจไม่สามารถชดเชยการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ลดลงได้ทั้งหมด นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า
ภาคบริการอาจหยุดชะงักชั่วคราวในช่วงต้นฤดูร้อน ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมการผลิตยังคงกระเตื้องตามความต้องการสินค้าคงคลังและตลาด
ต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น อนึ่ง Institute for Supply Management (ISM) จะประกาศตัวดัชนีภาคบริการในวันพฤหัสบดีที่ 5 ก.ค.50
เวลา 10.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น (รอยเตอร์)
3. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของอังกฤษในเดือน มิ.ย.50 ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือนที่ระดับ 95 รายงานจากลอนดอน
เมื่อ 4 ก.ค.50 Mortgage lender Nationwide เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของอังกฤษในเดือน มิ.ย.50 (ซึ่งเป็นการ
สำรวจความคาดหวังของประชาชนระหว่างวันที่ 21 พ.ค. — 17 มิ.ย.50 ) ว่า ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือนที่ระดับ 95 หลังจาก
ที่เคยอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีครึ่งที่ระดับ 99 ในเดือน พ.ค.50 ทั้งนี้ จากตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
เกี่ยวกับสถานการณ์ในปัจจุบันเลวร้ายลง ขณะที่หัวหน้านักวิเคราะห์ของ Nationwide กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงในขณะนี้น่าจะ
เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง เนื่องจากผู้บริโภคตระหนักว่า อัตราดอกเบี้ยส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจในแนวกว้าง
รวมถึงรายได้ในครัวเรือนด้วย อนึ่ง ตั้งแต่เดือน ส.ค.49 ธ.กลางอังกฤษปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายมาแล้วรวมร้อยละ 1 และคาดการณ์
ว่าอาจปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งมาอยู่ที่ร้อยละ 5.75 ในการประชุมในวันพฤหัสบดีที่ 5 ก.ค.ที่จะถึงนี้ (รอยเตอร์)
4. PMI ของสิงคโปร์ในเดือน มิ.ย.50 เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 5 เดือน รายงานจากสิงคโปร์เมื่อ 3 ก.ค.50 The Singapore
Institute of Purchasing & Materials Management เปิดเผยผลการสำรวจ Purchasing Managers’ Index (PMI) ซึ่งเป็น
ดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพของภาคการผลิตสิงคโปร์ในเดือน มิ.ย.50 ว่า เพิ่มขึ้นที่ระดับ 52.3 จุด จากระดับ 50.0 จุดในเดือนก่อนหน้า และ
เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค.50 โดยดัชนีอยู่เหนือระดับ 50 สะท้อนการขยายตัวของภาคการผลิตสิงคโปร์ เป็นผลจากดัชนีที่เป็นส่วน
ประกอบขยายตัวอย่างมาก ได้แก่ New orders ขยายตัวที่ 53.3 จาก 51.1 จุด New export orders ขยายตัวที่ 55.9 จาก 50.8 จุด
Stocks of finished goods ขยายตัวที่ 52.8 จาก 50.5 จุด และ Imports index ขยายตัวที่ 51.9 จาก 50.3 จุด โดยเฉพาะ
ดัชนีในภาคอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งมีสัดส่วนถึง 1 ใน 3 ของผลผลิตภาคอุตสาหกรรม โดย Electronics sector index อยู่ที่
ระดับ 53.1 จุด เพิ่มขึ้น 2.6 จุดจากระดับ 51.1 จุดในเดือนก่อนหน้า และ Electronics new export/orders index ขยายตัว
ที่ระดับ 55.5 จาก 52.9 จุด นอกจากนี้ ผลผลิตโรงงานในเดือน พ.ค.50 ได้ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งเหนือความคาดหมายร้อยละ 4.0
โดยมีสาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของยอดการผลิตและจำหน่ายสินค้าเครื่องขุดเจาะน้ำมันและผลิตภัณฑ์ยา ซึ่งบรรดานักวิเคราะห์ต่างคาดการณ์
ว่าการส่งออกของสิงคโปร์ในช่วงครึ่งหลังปี 50 จะฟื้นตัวขึ้นจากภาวะชะลอตัวในช่วงครึ่งแรกของปี (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 4 ก.ค. 50 3 ก.ค. 50 29 ธ.ค. 49 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 34.353 36.044 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 34.1762/34.5111 35.8601/36.2308 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 3.68656 5.12813 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 813.52/46.93 679.84/9.22 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,550/10,650 10,650/10,750 10,750/10,650 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 68.21 68.13 56.48 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 29.99*/25.34** 29.99*/25.34** 26.49/23.34 ปตท.
* ปรับเลดเมื่อ 2 มิ.ย. 50 , ** ปรับเพิ่มเมื่อ 26 เม.ย. 50
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--