วันนี้ (1 ม.ค. 50)นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยชาวจังหวัดตรังกว่า 1,000 คน ร่วมกันทำบุญตักบาตรเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ที่บริเวณสนามกีฬาเทศบาลนครตรัง หลังจากนั้นในช่วงบ่ายได้ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ลอบวางระเบิดหลายจุดในกทม.หลังพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีออกมาระบุว่าเป็นฝีมือของกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ทางการเมืองว่า กลุ่มอำนาจเก่าย่อมมีอยู่เหมือนกับกลุ่มใต้ดิน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของคนที่เคยมีอำนาจ ซึ่งต้องไม่ลืมว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีอำนาจอยู่ 5 ปี ซึ่งได้สร้างอาณาจักร และสร้างคนขึ้นมาด้วยกระบวนการที่พูดง่าย ๆ คือใช้ทั้งเงินและอำนาจเป็นเครื่องมือต่อรอง
ฉะนั้น คนที่จงรักภักดีและผูกพันกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีอยู่มากทั้งนักการเมืองและข้าราชการประจำ และคนเหล่านี้ยังอยู่ในอำนาจ ซึ่งรัฐบาลและคมช. ไม่ได้ไปเปลี่ยนแปลงอะไร โดยเปลี่ยนเฉพาะไม่กี่คน ดังนั้น สิ่งที่สะสมมา 5 ปี จะล้มด้วยประกาศคณะปฏิรูปในคืนวันที่ 19 ก.ย.ครั้งเดียวนั้น คงเป็นไปไม่ได้ ตนจึงบอกว่าต้องอธิบายความจริงให้ประชาชนเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดบ้านเมืองวิกฤติขึ้นมา
นายชวน กล่าวย้ำว่าหากไม่อธิบาย คนก็ไม่เข้าใจ คนก็ยังผูกพันอยู่ เพราะฉะนั้นอำนาจเก่าเหล่านี้ ยังมีอิทธิพลอยู่มาก ดูรัฐบาลชุดนี้ก็ได้ ว่าเป็นคนของกลุ่มอำนาจเก่าอยู่หลายคน คนเหล่านี้ไม่ได้ทุกข์ร้อนกับระบอบทักษิณ
"ฉะนั้น กลุ่มอำนาจเก่าจึงมีฐานที่เข้มแข็งอยู่ สามารถเผาโรงเรียนได้เรื่อยๆ โดยเจ้าหน้าที่บางคนก็คือคนของอำนาจเก่า คนเหล่านี้ก็ไม่พยายามทำให้เรื่องจริงปรากฏ ก็ต้องปกป้องไว้ก่อน เพราะตัวก็ผูกพันอยู่กับอำนาจเก่า ดังนั้นคำตอบก็คือไฟฟ้าลัดวงจร เพิ่งมายอมรับว่ามีการวางเพลิง อันนี้คือคลื่นใต้น้ำที่มาจากฐานการเมือง เงินไม่เข้าใครออกใคร คนที่เคยได้อยู่เป็นประจำก็ผูกพันเยอะ อันนี้เป็นความจริงในสังคมชนบท สังคมเมือง หรือแม้แต่ส่วนกลางกล่าวว่า นอกจากนี้สื่อมวลชนที่มาจากฐานอำนาจเก่าก็ยังอยู่ วิทยุโทรทัศน์ที่มีการเปลี่ยนแปลงก็ยังมีอำนาจอยู่ "
ต่อข้อถามว่า ถ้าเป็นอย่างนี้สังคมไทยจะเข้าสู่วิกฤติการเมืองหรือไม่นายชวน กล่าวว่า ตนคิดว่าบ้านเมืองเสียศูนย์ไปมากในช่วง 5 ปีและบัดนี้ ก็ยังไม่ได้ปรับเข้าที่ ดังนั้น ต้องรอรัฐบาลชุดพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ว่าจะทำอย่างไรในช่วง 1 ปี แต่สิ่งที่ตนได้เสนอคืออยากให้ประชาชนได้รู้ความจริง หากประชาชนรู้ความจริงการจะไปยุยงส่งเสริม หรือคลื่นใต้น้ำจะไปหลอกลวงอย่างไร จะทำได้ยาก แต่ถ้าไม่รู้ความจริงจะสามารถหลอกได้ และสามารถเอาผลประโยชน์ไปแลกเปลี่ยนไม่ได้ ในที่สุดเราจะล้มล้างความชั่วร้ายอันก่อให้เกิดวิกฤติไม่ได้ และศูนย์ของบ้านเมืองก็ยังสูญเสียไป ซึ่งตรงนี้ตนอยากให้ผู้มีอำนาจหน้าที่ในปัจจุบันได้ตระหนักความจริงในเรื่องเหล่านี้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 1 ม.ค. 2550--จบ--
ฉะนั้น คนที่จงรักภักดีและผูกพันกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีอยู่มากทั้งนักการเมืองและข้าราชการประจำ และคนเหล่านี้ยังอยู่ในอำนาจ ซึ่งรัฐบาลและคมช. ไม่ได้ไปเปลี่ยนแปลงอะไร โดยเปลี่ยนเฉพาะไม่กี่คน ดังนั้น สิ่งที่สะสมมา 5 ปี จะล้มด้วยประกาศคณะปฏิรูปในคืนวันที่ 19 ก.ย.ครั้งเดียวนั้น คงเป็นไปไม่ได้ ตนจึงบอกว่าต้องอธิบายความจริงให้ประชาชนเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดบ้านเมืองวิกฤติขึ้นมา
นายชวน กล่าวย้ำว่าหากไม่อธิบาย คนก็ไม่เข้าใจ คนก็ยังผูกพันอยู่ เพราะฉะนั้นอำนาจเก่าเหล่านี้ ยังมีอิทธิพลอยู่มาก ดูรัฐบาลชุดนี้ก็ได้ ว่าเป็นคนของกลุ่มอำนาจเก่าอยู่หลายคน คนเหล่านี้ไม่ได้ทุกข์ร้อนกับระบอบทักษิณ
"ฉะนั้น กลุ่มอำนาจเก่าจึงมีฐานที่เข้มแข็งอยู่ สามารถเผาโรงเรียนได้เรื่อยๆ โดยเจ้าหน้าที่บางคนก็คือคนของอำนาจเก่า คนเหล่านี้ก็ไม่พยายามทำให้เรื่องจริงปรากฏ ก็ต้องปกป้องไว้ก่อน เพราะตัวก็ผูกพันอยู่กับอำนาจเก่า ดังนั้นคำตอบก็คือไฟฟ้าลัดวงจร เพิ่งมายอมรับว่ามีการวางเพลิง อันนี้คือคลื่นใต้น้ำที่มาจากฐานการเมือง เงินไม่เข้าใครออกใคร คนที่เคยได้อยู่เป็นประจำก็ผูกพันเยอะ อันนี้เป็นความจริงในสังคมชนบท สังคมเมือง หรือแม้แต่ส่วนกลางกล่าวว่า นอกจากนี้สื่อมวลชนที่มาจากฐานอำนาจเก่าก็ยังอยู่ วิทยุโทรทัศน์ที่มีการเปลี่ยนแปลงก็ยังมีอำนาจอยู่ "
ต่อข้อถามว่า ถ้าเป็นอย่างนี้สังคมไทยจะเข้าสู่วิกฤติการเมืองหรือไม่นายชวน กล่าวว่า ตนคิดว่าบ้านเมืองเสียศูนย์ไปมากในช่วง 5 ปีและบัดนี้ ก็ยังไม่ได้ปรับเข้าที่ ดังนั้น ต้องรอรัฐบาลชุดพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ว่าจะทำอย่างไรในช่วง 1 ปี แต่สิ่งที่ตนได้เสนอคืออยากให้ประชาชนได้รู้ความจริง หากประชาชนรู้ความจริงการจะไปยุยงส่งเสริม หรือคลื่นใต้น้ำจะไปหลอกลวงอย่างไร จะทำได้ยาก แต่ถ้าไม่รู้ความจริงจะสามารถหลอกได้ และสามารถเอาผลประโยชน์ไปแลกเปลี่ยนไม่ได้ ในที่สุดเราจะล้มล้างความชั่วร้ายอันก่อให้เกิดวิกฤติไม่ได้ และศูนย์ของบ้านเมืองก็ยังสูญเสียไป ซึ่งตรงนี้ตนอยากให้ผู้มีอำนาจหน้าที่ในปัจจุบันได้ตระหนักความจริงในเรื่องเหล่านี้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 1 ม.ค. 2550--จบ--