คำต่อคำรายการตรงไปตรงมากับอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ทางสถานีวิทยุ 101 ช่วงเวลา 08.00 — 08.30 น.
วันศุกร์ที่ 20 กรกฎาคม 2550
ผู้ดำเนินรายการ สวัสดีค่ะคุณอภิสิทธิ์คะ สวัสดีครับ คุณอภิสิทธิ์ ครับ
คุณอภิสิทธิ์ สวัสดีครับ
ผู้ดำเนินรายการ ค่ะ หลังเลิกประกาศ คปค. ฉบับที่ 15 นี้ สถานการณ์ทางการเมืองเป็นอย่างไรบ้างคะ คุณอภิสิทธิ์
คุณอภิสิทธิ์ ผมคิดว่าเราก็คงจะเห็นความชัดเจนของกลุ่มการเมืองต่าง ๆ ที่จะจัดตั้งพรรค ได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีนะครับ เพราะว่าเราอยากจะเห็นการเสนอตัวเข้ามาแข่งขันตามวิถีทางของระบบรัฐสภา ผมก็คาดว่าภายใน 1 เดือนข้างหน้านี้ คงจะได้เห็นความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งถ้าหากว่าทุกฝ่ายได้เริ่มเดินหน้าในการที่จะพูดถึงอนาคตของประเทศไม่ว่าจะเป็นนโยบาย ไม่ว่าจะเป็นแนวทางของการพัฒนาและให้ประชาชนได้รับทราบ ก็จะทำให้บ้านเมืองกลับเข้าสู่บรรยากาศที่ทุกคนอยากจะมองอนาคตของประเทศ อยากจะมองไปข้างหน้า และถ้าหากว่าเราสามารถที่จะยืนยันตารางเวลาของการเลือกตั้งภายในสิ้นปีนี้ได้นั้น ผมคิดว่าพอขึ้นต้นปีหน้า บรรยากาศหลายอย่างก็น่าจะดีขึ้น คลี่คลายลง และก็ปัญหาต่าง ๆ ที่ค้างคากันมา ก็จะได้มีการแก้ไขกันได้อย่างเต็มที่ และผมก็คาดหวังว่าการผ่อนคลายเงื่อนไขในเรื่องของการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ หรือการจัดตั้งพรรคการเมืองต่าง ๆ ถ้าเดินไปได้อย่างรวดเร็ว ทุกอย่างก็น่าจะดีขึ้น
ผู้ดำเนินรายการ ครับ เนื่องจากปัญหาทางการเมืองแล้ว ก็ดูเหมือนว่าโจทย์ทางด้านเศรษฐกิจนี่จะเป็นเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่งที่ท้าทายรัฐบาลชุดใหม่ด้วยนะครับ เพราะฉะนั้นการแข่งขันเรื่องนโยบายเศรษฐกิจ กับการประชันทีมเศรษฐกิจคงจะเป็นโจทย์สำคัญของพรรคการเมืองในการเลือกตั้งครั้งนี้หรือเปล่าครับคุณอภิสิทธิ์ครับ
คุณอภิสิทธิ์ เรื่องเศรษฐกิจเป็นปัญหาที่จะอยู่ในใจคนค่อนข้างมากนะครับ แล้วก็เราก็ได้เคยเตือนผู้เกี่ยวข้องมาโดยตลอด แม้กระทั่งในรายการนี้เราก็เคยพูดกันนะครับว่า เศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมานั้นมีปัญหามากเพราะว่าอาจจะเป็นเหตุผลทางการเมือง อาจจะเป็นเหตุผลในทางนโยบายทำให้เครื่องจักรที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลายตัวมันไม่เดิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนโดยทั่วไป กลไกของรัฐบาลเองก็มาเร่งรัด เพราะว่าช่วงแรกในงบประมาณมันล่าช้า ก็เพิ่งมาเร่งรัดเอาในช่วงหลังแต่ก็ยังไม่เพียงพอ และที่ผ่านมาก็เตือนกันมาตลอดนะครับว่าเราพึ่งการส่งออกอย่างเดียว แต่ว่าการส่งออกที่เราบอกขยายตัว ขยายตัวนั้น หลายเดือนมาแล้วก็ได้พูดกันว่า ถ้าค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งขึ้น ดุลบัญชีเดินสะพัดก็เกินดุล ผู้ส่งออกเองขณะที่ทุกคนบอกส่งออกดี ตัวผู้ส่งออกบอกขาดทุน เริ่มจากการขาดทุนกำไรก่อน แล้วก็มาขาดทุนจริง อันนี้ก็ได้เตือนมาโดยตลอดแล้วก็คงจำได้ว่า วันที่รัฐบาลโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ตัดสินใจเอามาตรการ 30 เปอร์เซนต์มาใช้นั้น เมื่อปลายปีที่แล้วเราก็เคยเสนอว่าจริง ๆ นั่นไม่น่าจะเป็นทางออก เราก็เสนอให้มีการลดอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อนข้างที่จะแรงเพื่อไปชี้นำตลาด จากนั้นมาจริงอยู่รัฐบาลได้มีการลดอัตราดอกเบี้ยอยู่บ้างแต่ว่าจริง ๆ แล้วมักจะเป็นการลดตามความคาดการณ์ของตลาด จึงไม่ค่อยมีผลในการส่งสัญญาณในการชี้นำเท่าที่ควร ส่วนการแทรกแซงนั้นผมก็เชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทยก็คงทำอยู่ระดับหนึ่ง แต่คงไม่ใช่เรื่องที่สามารถจะมาเปิดเผยได้ทั้งหมด
เพราะฉะนั้นเมื่อสัก 2 วันที่ผ่านมานี้เราก็ได้มีการพูดคุยกันในพรรค แล้วก็นำเสนอไป 4 ข้อนะครับ ข้อแรกก็คือยังยืนยันว่านโยบายมหภาคโดยเฉพาะการเงินการคลัง ยังสามารถที่จะช่วยบรรเทาปัญหากับค่าเงินบาทแข็งได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการลดดอกเบี้ย วันนั้นที่พูดก็คาดหวังว่าจะลดสัก 50 สตางค์นะครับ แต่ก็ลดจริงไปแค่ 25 แล้วก็จริง ๆ แล้วรัฐบาลสามารถที่จะประกาศแผนให้ตลาดทราบเลยว่าการจะใช้หนี้ต่างประเทศคืนเร็วก็ดี การจะลงทุนขนาดใหญ่ซึ่งจะต้องมีการนำเข้าทุน เพราะฉะนั้นก็จะต้องมีเรื่องของเงินตราต่างประเทศด้วยนั้น จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ประมาณเท่าไหร่ ก็จะเป็นตัวช่วยให้ตลาดมองเห็นว่า แรงกดดันในการที่จะทำให้เงินบาทอ่อนลง ก็มีอยู่ด้วยนะครับ
ในเรื่องดอกเบี้ยนั้น มีข้อสังเกตอีกข้อหนึ่งก็คือว่า ในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลก็ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อัตราดอกเบี้ยเงินฝากก็ลดลงค่อนข้างเยอะ แต่อัตราดอกเบี้ยกู้นั้นลดลงค่อนข้างน้อย อีกจุดหนึ่งซึ่งเราต้องการที่จะให้รัฐบาลเข้าไปโดยเฉพาะธนาคารแห่งประเทศไทย ก็คือว่าต้องเข้าไปจูงใจชี้นำให้ทางสถาบันการเงินต่าง ๆ ได้ลดช่องว่างดอกเบี้ยตรงนี้ด้วยนะครับ อันนี้ก็เป็นประเด็นแรก
ประเด็นที่สอง ก็คือว่าตอนนี้มีข้อเสนอของภาคเอกชน ซึ่งเขาประชุมกันแล้วก็ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของกฎระเบียบต่าง ๆ ที่ไม่ค่อยเอื้ออำนวยให้เอาเงินออกไปบ้าง หรือว่าสามารถเก็บเงินตราต่างประเทศบ้าง ถูกบังคับให้ต้องมาซื้อเงินบาทนะครับ สิ่งที่ผมอยากจะเรียนก็คือว่าจริง ๆ เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องนโยบายใหญ่เลยนะครับ ผมยังคิดว่าจริง ๆ ธนาคารแห่งประเทศไทยหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องน่าจะตัดสินใจได้เลย ผมก็แปลกใจเพราะว่าเรื่องนี้นั้น พูดกันมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว แต่กลับใช้เวลาอยู่นานทีเดียว และจนถึงวันนี้ก็ยังไม่เรียบร้อยนะครับ จะต้องไปผ่านอีกหลายขั้นตอน ผมคิดว่า ผมอยากเห็นการทำงานที่มันรวดเร็วกว่านี้ เพราะว่ามันจะเป็นการส่งสัญญาณว่า รัฐบาลมองเห็นเรื่องนี้ว่าเป็นปัญหาอย่างจริงจังแล้ว และก็ต้องการที่จะเข้าไปแก้ไขโดยเร็วนะครับ
ประเด็นที่สาม ก็คือว่า วันนี้เราก็จะเห็นเรื่องปัญหาโรงงานปิด ต้องยอมรับนะครับว่า ถ้าค่าเงินอยู่ในระดับอย่างนี้ ยังมีผู้ประกอบการที่มีปัญหาจำนวนมาก มันเป็นเรื่องง่ายที่ทุกคนจะบอกว่า ให้ปรับตัวนะครับ แต่ว่าคนทำจริงจะรู้ว่า บางกรณีมันก็ปรับยาก บางกรณีมันปรับได้ แต่ว่าลำพังเขาฝ่ายเดียวคงไม่สามารถที่จะทำได้ สิ่งที่เราเสนอรัฐบาลก็คือว่า สถานการณ์วันนี้อย่าปล่อยให้มันเป็นเรื่องของแต่ละหน่วยงาน ต่างคนต่างทำ น่าจะมีศูนย์การรวมศูนย์ จุดที่จะทำให้ผู้ประกอบการซึ่งเดือดร้อนจากเรื่องนี้ สามารถเข้าไป จะเรียกว่าร้องทุกข์ ร้องเรียน ขอคำปรึกษา และหน่วยงานของรัฐบาลดูว่าจะสนับสนุนช่วยเหลือเขาได้อย่างไรบ้าง คำว่าช่วยเหลือในที่นี้คงไม่ได้หมายความว่า ถ้าไปไม่ไหวจริง ๆ แข่งขันไม่ได้จริง ๆ ก็อุ้มกันไปเรื่อย ๆ คงไม่ใช่อย่างนั้น แต่ว่าที่เราบอกว่าอยากให้เขาปรับตัวนั้น มันก็มีหลายเรื่องซึ่งรัฐบาลอาจจะยื่นมือไปช่วยเพื่อให้เขาปรับตัวได้ง่ายขึ้น อันนี้ก็เป็นจุดที่เราเสนอไป
และก็สุดท้าย ก็คือว่า เรื่องทั้งหมดมันก็สะท้อนให้เห็นปัญหาพื้นฐานอีกบางเรื่องซึ่งรัฐบาลก็น่าจะทบทวนนะครับ เรื่องแรกก็คือว่า การทำงานระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทย กับกระทรวงการคลัง กับรัฐบาลนั้น จะมีวิธีการอย่างไร ในกรณีที่เกิดความไม่สมดุลในเรื่องของเศรษฐกิจในภาพรวมมหภาค ที่จะทำให้การประสานงานมันดีกว่านี้ คือที่ผ่านมานั้น ต่างฝ่ายต่างก็เหมือนกับเกร็งนะครับ ทางรัฐบาลก็ลังเล บอกว่าเดี๋ยวจะไปกระทบความเป็นอิสระของธนาคารแห่งประเทศไทยหรือไม่ คือคงจะต้องแบ่งกันให้ชัด ในหลายประเทศนั้น คำว่าความอิสระของธนาคารกลางเขาก็จะกำหนดเอาไว้ชัดว่า มันอิสระในเรื่องไหนอย่างไรบ้าง และมีสถานการณ์แบบไหนบ้างที่ทางรัฐบาลหรือกระทรวงการคลังจะต้องสามารถยื่นมือเข้าไป ไม่ใช่เข้าไปแทรกแซงอะไรแต่ว่า ไปประสานงานให้นโยบายมันเดินไปในทิศทางเดียวกัน
เช่นเดียวกันปัญหาพื้นฐานอีกเรื่องหนึ่งซึ่งก็มีการหยิบยกขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ว่ายังไม่เคยไปแก้ไขกันอย่างจริงจัง ก็คือว่า เงินบาทที่แข็งขึ้นมามาก ก็คือ กับเงินเหรียญสหรัฐฯ เงินดอลล่าร์ ถ้าเทียบกับเงินสกุลอื่น ๆ ก็ไม่เท่าไหร่ ปัญหาของเราก็คือว่า ขณะที่เราค้าขายกับทั่วโลกเลย ไม่ใช่เฉพาะสหรัฐ ฯ เราค้าขายกับญี่ปุ่น เราค้าขายกับจีน เราค้าขายกับตะวันออกกลาง อาเซียน แต่ว่าเงินที่ใช้ในการซื้อขายเราก็ยังผูกติดอยู่กับเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ค่อนข้างมาก ก็เลยทำให้เงินสำรอง ทุนสำรองของเราก็ยังอยู่ในสกุลของเงินเหรียญสหรัฐฯ ค่อนข้างมากนะครับ ประเด็นก็คือว่า คงจะต้องมีการทบทวนตรงนี้ว่าเราสามารถที่จะทำให้มันเกิดความหลากหลาย กระจายในเรื่องนี้ให้มากขึ้นได้อย่างไร
ผู้ดำเนินรายการ คุณอภิสิทธิ์พรุ่งนี้พรรคประชาธิปัตย์มีงานใหญ่นะครับ มีอะไรอยากจะฝากเกี่ยวกับงานใหญ่พรุ่งนี้ไม๊ครับ คุณอภิสิทธิ์ครับ
คุณอภิสิทธิ์ ที่จริงงานของเราเริ่มวันนี้นะครับ คือวันนี้เป็นการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ซึ่งปกติจะประชุมในเดือนเมษายน แต่ปีนี้เนื่องจากว่า มีคำสั่ง คปค. อยู่ก็ทำให้เราเพิ่งจะประชุมได้นะครับ นอกเหนือจากการทำการประชุมเพื่อรับรองเรื่องต่าง ๆ ให้เป็นไปตามข้อบังคับ ตามกฎหมายแล้ว เราจะมีการระดมความคิดเห็นต่อวาระประชาชน ซึ่งจะมีสมาชิกพรรค สาขาพรรค จากทั่วประเทศมาทำงานกันวันครึ่ง ก่อนที่พรุ่งนี้ในช่วง 11 โมง ผมก็จะกล่าวสรุปเรื่องทั้งหมด และก็มีการถ่ายทอดทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9
ส่วนตอนเย็นเป็นงานระดมทุน ก็จะมีการจัดงานที่ไบเทค บางนา นอกเหนือจากการระดมทุน คือมีการเลี้ยงอาหารกันแล้ว ผมก็จะมีการกล่าวปาฐกถาในช่วงประมาณ คิดว่าประมาณทุ่มกว่า ๆ นะครับ แล้วก็คงจะมีการถ่ายทอดทาง ASTV นะครับ ก็จะใช้โอกาสตรงนี้ระดมพลังของประชาชนจริง ๆ นะครับ ให้เห็นภาพของทิศทางของประเทศไทย ที่ทางเราเห็นว่าควรจะเป็นและเชื่อว่าประชาชนก็สนับสนุนในการที่เราได้ทำสมัชชาประชาชน แล้วก็ได้ไปออกไปพบปะพูดคุยกับประชาชนจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา
สิ่งที่อยากจะฝากก็คือว่า อยากให้ทุกคนเข้ามาร่วมกันนะครับไม่ว่าท่านจะเป็นสมาชิกหรือไม่ใช่สมาชิกพรรค ขอให้มาร่วมกันในการกำหนดทิศทางอนาคตของบ้านเมืองเพราะว่านั้นเป็นสิ่งที่บ้านเมืองเราต้องการมากที่สุดในขณะนี้
ผู้ดำเนินรายการ ค่ะ เห็นวันนี้ลงโฆษณาว่าจะมีถ่ายทอดสดพรุ่งนี้ ช่อง 9 ใช่ไม๊คะ ชั่วโมงนึง จะตั้งประเด็นว่า วันนี้ประชาชนมีความทุกข์ อภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์พร้อมแก้ไขอย่างไร ใน 1 ชั่วโมงนี้จะมีแนวทางแก้ไขให้ประชาชนได้ฟังหรืออย่างไรบ้างคะ คุณอภิสิทธิ์
คุณอภิสิทธิ์ ครับ ก็รอดูพรุ่งนี้ดีไม๊ครับ
ผู้ดำเนินรายการ หรือมีตัวอย่างว่าจะแก้ปัญหาอะไรอย่างไรบ้าง
คุณอภิสิทธิ์ ก็จะเป็นการสรุปว่าเรื่องหลัก ๆ ของวาระประชาชน 3 — 4 หัวข้อ ที่เรามองว่าเป็นจุดหลักที่จะขับเคลื่อนประเทศไปได้นั้น มันจะเป็นอย่างไรบ้าง เพราะฉะนั้นก็จะมีเรื่อง เศรษฐกิจ เรื่องปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และก็มีเรื่องของการศึกษา และการพัฒนาคน ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดที่เราพูดมาตลอด และก็จะมีเรื่องของประชาธิปไตยด้วยครับ
ผู้ดำเนินรายการ ครับ ต้องติดตามกันนะครับ ขอบคุณมากครับ คุณอภิสิทธิ์ครับ สวัสดีค่ะ
*************************************************
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 25 ก.ค. 2550--จบ--
ทางสถานีวิทยุ 101 ช่วงเวลา 08.00 — 08.30 น.
วันศุกร์ที่ 20 กรกฎาคม 2550
ผู้ดำเนินรายการ สวัสดีค่ะคุณอภิสิทธิ์คะ สวัสดีครับ คุณอภิสิทธิ์ ครับ
คุณอภิสิทธิ์ สวัสดีครับ
ผู้ดำเนินรายการ ค่ะ หลังเลิกประกาศ คปค. ฉบับที่ 15 นี้ สถานการณ์ทางการเมืองเป็นอย่างไรบ้างคะ คุณอภิสิทธิ์
คุณอภิสิทธิ์ ผมคิดว่าเราก็คงจะเห็นความชัดเจนของกลุ่มการเมืองต่าง ๆ ที่จะจัดตั้งพรรค ได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีนะครับ เพราะว่าเราอยากจะเห็นการเสนอตัวเข้ามาแข่งขันตามวิถีทางของระบบรัฐสภา ผมก็คาดว่าภายใน 1 เดือนข้างหน้านี้ คงจะได้เห็นความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งถ้าหากว่าทุกฝ่ายได้เริ่มเดินหน้าในการที่จะพูดถึงอนาคตของประเทศไม่ว่าจะเป็นนโยบาย ไม่ว่าจะเป็นแนวทางของการพัฒนาและให้ประชาชนได้รับทราบ ก็จะทำให้บ้านเมืองกลับเข้าสู่บรรยากาศที่ทุกคนอยากจะมองอนาคตของประเทศ อยากจะมองไปข้างหน้า และถ้าหากว่าเราสามารถที่จะยืนยันตารางเวลาของการเลือกตั้งภายในสิ้นปีนี้ได้นั้น ผมคิดว่าพอขึ้นต้นปีหน้า บรรยากาศหลายอย่างก็น่าจะดีขึ้น คลี่คลายลง และก็ปัญหาต่าง ๆ ที่ค้างคากันมา ก็จะได้มีการแก้ไขกันได้อย่างเต็มที่ และผมก็คาดหวังว่าการผ่อนคลายเงื่อนไขในเรื่องของการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ หรือการจัดตั้งพรรคการเมืองต่าง ๆ ถ้าเดินไปได้อย่างรวดเร็ว ทุกอย่างก็น่าจะดีขึ้น
ผู้ดำเนินรายการ ครับ เนื่องจากปัญหาทางการเมืองแล้ว ก็ดูเหมือนว่าโจทย์ทางด้านเศรษฐกิจนี่จะเป็นเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่งที่ท้าทายรัฐบาลชุดใหม่ด้วยนะครับ เพราะฉะนั้นการแข่งขันเรื่องนโยบายเศรษฐกิจ กับการประชันทีมเศรษฐกิจคงจะเป็นโจทย์สำคัญของพรรคการเมืองในการเลือกตั้งครั้งนี้หรือเปล่าครับคุณอภิสิทธิ์ครับ
คุณอภิสิทธิ์ เรื่องเศรษฐกิจเป็นปัญหาที่จะอยู่ในใจคนค่อนข้างมากนะครับ แล้วก็เราก็ได้เคยเตือนผู้เกี่ยวข้องมาโดยตลอด แม้กระทั่งในรายการนี้เราก็เคยพูดกันนะครับว่า เศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมานั้นมีปัญหามากเพราะว่าอาจจะเป็นเหตุผลทางการเมือง อาจจะเป็นเหตุผลในทางนโยบายทำให้เครื่องจักรที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลายตัวมันไม่เดิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนโดยทั่วไป กลไกของรัฐบาลเองก็มาเร่งรัด เพราะว่าช่วงแรกในงบประมาณมันล่าช้า ก็เพิ่งมาเร่งรัดเอาในช่วงหลังแต่ก็ยังไม่เพียงพอ และที่ผ่านมาก็เตือนกันมาตลอดนะครับว่าเราพึ่งการส่งออกอย่างเดียว แต่ว่าการส่งออกที่เราบอกขยายตัว ขยายตัวนั้น หลายเดือนมาแล้วก็ได้พูดกันว่า ถ้าค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งขึ้น ดุลบัญชีเดินสะพัดก็เกินดุล ผู้ส่งออกเองขณะที่ทุกคนบอกส่งออกดี ตัวผู้ส่งออกบอกขาดทุน เริ่มจากการขาดทุนกำไรก่อน แล้วก็มาขาดทุนจริง อันนี้ก็ได้เตือนมาโดยตลอดแล้วก็คงจำได้ว่า วันที่รัฐบาลโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ตัดสินใจเอามาตรการ 30 เปอร์เซนต์มาใช้นั้น เมื่อปลายปีที่แล้วเราก็เคยเสนอว่าจริง ๆ นั่นไม่น่าจะเป็นทางออก เราก็เสนอให้มีการลดอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อนข้างที่จะแรงเพื่อไปชี้นำตลาด จากนั้นมาจริงอยู่รัฐบาลได้มีการลดอัตราดอกเบี้ยอยู่บ้างแต่ว่าจริง ๆ แล้วมักจะเป็นการลดตามความคาดการณ์ของตลาด จึงไม่ค่อยมีผลในการส่งสัญญาณในการชี้นำเท่าที่ควร ส่วนการแทรกแซงนั้นผมก็เชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทยก็คงทำอยู่ระดับหนึ่ง แต่คงไม่ใช่เรื่องที่สามารถจะมาเปิดเผยได้ทั้งหมด
เพราะฉะนั้นเมื่อสัก 2 วันที่ผ่านมานี้เราก็ได้มีการพูดคุยกันในพรรค แล้วก็นำเสนอไป 4 ข้อนะครับ ข้อแรกก็คือยังยืนยันว่านโยบายมหภาคโดยเฉพาะการเงินการคลัง ยังสามารถที่จะช่วยบรรเทาปัญหากับค่าเงินบาทแข็งได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการลดดอกเบี้ย วันนั้นที่พูดก็คาดหวังว่าจะลดสัก 50 สตางค์นะครับ แต่ก็ลดจริงไปแค่ 25 แล้วก็จริง ๆ แล้วรัฐบาลสามารถที่จะประกาศแผนให้ตลาดทราบเลยว่าการจะใช้หนี้ต่างประเทศคืนเร็วก็ดี การจะลงทุนขนาดใหญ่ซึ่งจะต้องมีการนำเข้าทุน เพราะฉะนั้นก็จะต้องมีเรื่องของเงินตราต่างประเทศด้วยนั้น จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ประมาณเท่าไหร่ ก็จะเป็นตัวช่วยให้ตลาดมองเห็นว่า แรงกดดันในการที่จะทำให้เงินบาทอ่อนลง ก็มีอยู่ด้วยนะครับ
ในเรื่องดอกเบี้ยนั้น มีข้อสังเกตอีกข้อหนึ่งก็คือว่า ในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลก็ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อัตราดอกเบี้ยเงินฝากก็ลดลงค่อนข้างเยอะ แต่อัตราดอกเบี้ยกู้นั้นลดลงค่อนข้างน้อย อีกจุดหนึ่งซึ่งเราต้องการที่จะให้รัฐบาลเข้าไปโดยเฉพาะธนาคารแห่งประเทศไทย ก็คือว่าต้องเข้าไปจูงใจชี้นำให้ทางสถาบันการเงินต่าง ๆ ได้ลดช่องว่างดอกเบี้ยตรงนี้ด้วยนะครับ อันนี้ก็เป็นประเด็นแรก
ประเด็นที่สอง ก็คือว่าตอนนี้มีข้อเสนอของภาคเอกชน ซึ่งเขาประชุมกันแล้วก็ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของกฎระเบียบต่าง ๆ ที่ไม่ค่อยเอื้ออำนวยให้เอาเงินออกไปบ้าง หรือว่าสามารถเก็บเงินตราต่างประเทศบ้าง ถูกบังคับให้ต้องมาซื้อเงินบาทนะครับ สิ่งที่ผมอยากจะเรียนก็คือว่าจริง ๆ เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องนโยบายใหญ่เลยนะครับ ผมยังคิดว่าจริง ๆ ธนาคารแห่งประเทศไทยหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องน่าจะตัดสินใจได้เลย ผมก็แปลกใจเพราะว่าเรื่องนี้นั้น พูดกันมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว แต่กลับใช้เวลาอยู่นานทีเดียว และจนถึงวันนี้ก็ยังไม่เรียบร้อยนะครับ จะต้องไปผ่านอีกหลายขั้นตอน ผมคิดว่า ผมอยากเห็นการทำงานที่มันรวดเร็วกว่านี้ เพราะว่ามันจะเป็นการส่งสัญญาณว่า รัฐบาลมองเห็นเรื่องนี้ว่าเป็นปัญหาอย่างจริงจังแล้ว และก็ต้องการที่จะเข้าไปแก้ไขโดยเร็วนะครับ
ประเด็นที่สาม ก็คือว่า วันนี้เราก็จะเห็นเรื่องปัญหาโรงงานปิด ต้องยอมรับนะครับว่า ถ้าค่าเงินอยู่ในระดับอย่างนี้ ยังมีผู้ประกอบการที่มีปัญหาจำนวนมาก มันเป็นเรื่องง่ายที่ทุกคนจะบอกว่า ให้ปรับตัวนะครับ แต่ว่าคนทำจริงจะรู้ว่า บางกรณีมันก็ปรับยาก บางกรณีมันปรับได้ แต่ว่าลำพังเขาฝ่ายเดียวคงไม่สามารถที่จะทำได้ สิ่งที่เราเสนอรัฐบาลก็คือว่า สถานการณ์วันนี้อย่าปล่อยให้มันเป็นเรื่องของแต่ละหน่วยงาน ต่างคนต่างทำ น่าจะมีศูนย์การรวมศูนย์ จุดที่จะทำให้ผู้ประกอบการซึ่งเดือดร้อนจากเรื่องนี้ สามารถเข้าไป จะเรียกว่าร้องทุกข์ ร้องเรียน ขอคำปรึกษา และหน่วยงานของรัฐบาลดูว่าจะสนับสนุนช่วยเหลือเขาได้อย่างไรบ้าง คำว่าช่วยเหลือในที่นี้คงไม่ได้หมายความว่า ถ้าไปไม่ไหวจริง ๆ แข่งขันไม่ได้จริง ๆ ก็อุ้มกันไปเรื่อย ๆ คงไม่ใช่อย่างนั้น แต่ว่าที่เราบอกว่าอยากให้เขาปรับตัวนั้น มันก็มีหลายเรื่องซึ่งรัฐบาลอาจจะยื่นมือไปช่วยเพื่อให้เขาปรับตัวได้ง่ายขึ้น อันนี้ก็เป็นจุดที่เราเสนอไป
และก็สุดท้าย ก็คือว่า เรื่องทั้งหมดมันก็สะท้อนให้เห็นปัญหาพื้นฐานอีกบางเรื่องซึ่งรัฐบาลก็น่าจะทบทวนนะครับ เรื่องแรกก็คือว่า การทำงานระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทย กับกระทรวงการคลัง กับรัฐบาลนั้น จะมีวิธีการอย่างไร ในกรณีที่เกิดความไม่สมดุลในเรื่องของเศรษฐกิจในภาพรวมมหภาค ที่จะทำให้การประสานงานมันดีกว่านี้ คือที่ผ่านมานั้น ต่างฝ่ายต่างก็เหมือนกับเกร็งนะครับ ทางรัฐบาลก็ลังเล บอกว่าเดี๋ยวจะไปกระทบความเป็นอิสระของธนาคารแห่งประเทศไทยหรือไม่ คือคงจะต้องแบ่งกันให้ชัด ในหลายประเทศนั้น คำว่าความอิสระของธนาคารกลางเขาก็จะกำหนดเอาไว้ชัดว่า มันอิสระในเรื่องไหนอย่างไรบ้าง และมีสถานการณ์แบบไหนบ้างที่ทางรัฐบาลหรือกระทรวงการคลังจะต้องสามารถยื่นมือเข้าไป ไม่ใช่เข้าไปแทรกแซงอะไรแต่ว่า ไปประสานงานให้นโยบายมันเดินไปในทิศทางเดียวกัน
เช่นเดียวกันปัญหาพื้นฐานอีกเรื่องหนึ่งซึ่งก็มีการหยิบยกขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ว่ายังไม่เคยไปแก้ไขกันอย่างจริงจัง ก็คือว่า เงินบาทที่แข็งขึ้นมามาก ก็คือ กับเงินเหรียญสหรัฐฯ เงินดอลล่าร์ ถ้าเทียบกับเงินสกุลอื่น ๆ ก็ไม่เท่าไหร่ ปัญหาของเราก็คือว่า ขณะที่เราค้าขายกับทั่วโลกเลย ไม่ใช่เฉพาะสหรัฐ ฯ เราค้าขายกับญี่ปุ่น เราค้าขายกับจีน เราค้าขายกับตะวันออกกลาง อาเซียน แต่ว่าเงินที่ใช้ในการซื้อขายเราก็ยังผูกติดอยู่กับเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ค่อนข้างมาก ก็เลยทำให้เงินสำรอง ทุนสำรองของเราก็ยังอยู่ในสกุลของเงินเหรียญสหรัฐฯ ค่อนข้างมากนะครับ ประเด็นก็คือว่า คงจะต้องมีการทบทวนตรงนี้ว่าเราสามารถที่จะทำให้มันเกิดความหลากหลาย กระจายในเรื่องนี้ให้มากขึ้นได้อย่างไร
ผู้ดำเนินรายการ คุณอภิสิทธิ์พรุ่งนี้พรรคประชาธิปัตย์มีงานใหญ่นะครับ มีอะไรอยากจะฝากเกี่ยวกับงานใหญ่พรุ่งนี้ไม๊ครับ คุณอภิสิทธิ์ครับ
คุณอภิสิทธิ์ ที่จริงงานของเราเริ่มวันนี้นะครับ คือวันนี้เป็นการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ซึ่งปกติจะประชุมในเดือนเมษายน แต่ปีนี้เนื่องจากว่า มีคำสั่ง คปค. อยู่ก็ทำให้เราเพิ่งจะประชุมได้นะครับ นอกเหนือจากการทำการประชุมเพื่อรับรองเรื่องต่าง ๆ ให้เป็นไปตามข้อบังคับ ตามกฎหมายแล้ว เราจะมีการระดมความคิดเห็นต่อวาระประชาชน ซึ่งจะมีสมาชิกพรรค สาขาพรรค จากทั่วประเทศมาทำงานกันวันครึ่ง ก่อนที่พรุ่งนี้ในช่วง 11 โมง ผมก็จะกล่าวสรุปเรื่องทั้งหมด และก็มีการถ่ายทอดทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9
ส่วนตอนเย็นเป็นงานระดมทุน ก็จะมีการจัดงานที่ไบเทค บางนา นอกเหนือจากการระดมทุน คือมีการเลี้ยงอาหารกันแล้ว ผมก็จะมีการกล่าวปาฐกถาในช่วงประมาณ คิดว่าประมาณทุ่มกว่า ๆ นะครับ แล้วก็คงจะมีการถ่ายทอดทาง ASTV นะครับ ก็จะใช้โอกาสตรงนี้ระดมพลังของประชาชนจริง ๆ นะครับ ให้เห็นภาพของทิศทางของประเทศไทย ที่ทางเราเห็นว่าควรจะเป็นและเชื่อว่าประชาชนก็สนับสนุนในการที่เราได้ทำสมัชชาประชาชน แล้วก็ได้ไปออกไปพบปะพูดคุยกับประชาชนจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา
สิ่งที่อยากจะฝากก็คือว่า อยากให้ทุกคนเข้ามาร่วมกันนะครับไม่ว่าท่านจะเป็นสมาชิกหรือไม่ใช่สมาชิกพรรค ขอให้มาร่วมกันในการกำหนดทิศทางอนาคตของบ้านเมืองเพราะว่านั้นเป็นสิ่งที่บ้านเมืองเราต้องการมากที่สุดในขณะนี้
ผู้ดำเนินรายการ ค่ะ เห็นวันนี้ลงโฆษณาว่าจะมีถ่ายทอดสดพรุ่งนี้ ช่อง 9 ใช่ไม๊คะ ชั่วโมงนึง จะตั้งประเด็นว่า วันนี้ประชาชนมีความทุกข์ อภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์พร้อมแก้ไขอย่างไร ใน 1 ชั่วโมงนี้จะมีแนวทางแก้ไขให้ประชาชนได้ฟังหรืออย่างไรบ้างคะ คุณอภิสิทธิ์
คุณอภิสิทธิ์ ครับ ก็รอดูพรุ่งนี้ดีไม๊ครับ
ผู้ดำเนินรายการ หรือมีตัวอย่างว่าจะแก้ปัญหาอะไรอย่างไรบ้าง
คุณอภิสิทธิ์ ก็จะเป็นการสรุปว่าเรื่องหลัก ๆ ของวาระประชาชน 3 — 4 หัวข้อ ที่เรามองว่าเป็นจุดหลักที่จะขับเคลื่อนประเทศไปได้นั้น มันจะเป็นอย่างไรบ้าง เพราะฉะนั้นก็จะมีเรื่อง เศรษฐกิจ เรื่องปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และก็มีเรื่องของการศึกษา และการพัฒนาคน ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดที่เราพูดมาตลอด และก็จะมีเรื่องของประชาธิปไตยด้วยครับ
ผู้ดำเนินรายการ ครับ ต้องติดตามกันนะครับ ขอบคุณมากครับ คุณอภิสิทธิ์ครับ สวัสดีค่ะ
*************************************************
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 25 ก.ค. 2550--จบ--