4. อุตสาหกรรมยานยนต์
รถยนต์
อุตสาหกรรมรถยนต์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 แม้จะขยายตัวเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม 2550 แต่ชะลอลงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วง
เดียวกันของปี 2549 ทั้งนี้เนื่องจากตลาดรถยนต์ในประเทศ ยังคงได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่การบริโภค และการลงทุนมีทิศทาง
ชะลอลงอย่างต่อเนื่อง แต่ในด้านการส่งออกรถยนต์ยังสามารถขยายตัวได้ โดยมีข้อมูลสภาวะอุตสาหกรรมรถยนต์ในเดือนกุมภาพันธ์ ดังนี้
- การผลิตรถยนต์ จำนวน 95,426 คัน ลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ซึ่งมีการผลิต 101,923 คัน ร้อยละ 6.37 แต่
เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2550 ร้อยละ 10.37
- การจำหน่ายรถยนต์ จำนวน 43,606 คัน ลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ซึ่งมีการจำหน่าย 53,429 คัน ร้อยละ
18.39 ซึ่งสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่ชะลอ
- การส่งออกรถยนต์ (CBU) จำนวน 53,595 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ซึ่งมีการส่งออก 25,282 คัน ร้อย
ละ 2.51 และเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2550 ร้อยละ 31.66
- แนวโน้ม ภาวะอุตสาหกรรมรถยนต์ในเดือนมีนาคม 2550 คาดว่าจะขยายตัวเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2550
เนื่องจากได้มีการจัดงานแสดงรถยนต์ รถจักรยานยนต์ นานาชาติ "Bangkok International Motor Show 2007" ณ ศูนย์นิทรรศการและการ
ประชุมไบเทค ระหว่างวันที่ 30 มีนาคม - 8 เมษายน 2550 ซึ่งภายในงานมีการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาด ประกอบกับค่ายรถยนต์มีการจัด
กิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค
รถจักรยานยนต์
อุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 การผลิต และการจำหน่ายในประเทศชะลอตัวเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม
2550 ตามภาวะเศรษฐกิจที่ค่อนข้างซบเซา แต่การส่งออกขยายตัวได้ โดยมีข้อมูลสภาวะอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ในเดือนกุมภาพันธ์ ดังนี้
- การผลิตรถจักรยานยนต์ จำนวน 136,486 คัน ลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ซึ่งมีการผลิต 178,292 คัน ร้อยละ
23.45 และลดลงจากเดือนมกราคม 2550 ร้อยละ 15.03
- การจำหน่าย จำนวน 116,716 คัน ลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ซึ่งมีการจำหน่าย 181,763 คัน ร้อยละ
35.79 และลดลงจากเดือนมกราคม 2550 ร้อยละ 22.54
- การส่งออกรถจักรยานยนต์ (CBU) มีจำนวน 5,872 คัน ลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ 2550 ซึ่งมีการส่งออก 14,835
คัน ร้อยละ 60.42 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2550 ร้อยละ 60.74
- แนวโน้ม ภาวะอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ในเดือนมีนาคม 2550 คาดว่าจะขยายตัวจากเดือนกุมภาพันธ์ 2550 เนื่อง
จากเป็นช่วงฤดูกาลจำหน่าย ประกอบกับได้รับผลดีจากการจัดงานแสดงรถยนต์ รถจักรยานยนต์ นานาชาติ "Bangkok International Motor
Show 2007" ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค
5.อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์
"การผลิตและการจำหน่ายปูนซีเมนต์ในประเทศลดลง เนื่องจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องจาก ปี 2549
สำหรับการส่งออกเพิ่มขึ้นเนื่องจากผู้ประกอบการขยายตลาดส่งออกเพื่อทดแทนตลาดในประเทศที่ ชะลอตัวลง"
1.การผลิตและการจำหน่ายในประเทศ
การผลิตและการจำหน่ายปูนซีเมนต์ในประเทศ เดือนกุมภาพันธ์ 2550 เทียบกับเดือนก่อนลดลงร้อยละ 6.43 และ 4.46 ตามลำดับ และ
เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การผลิตและการจำหน่ายในประเทศ ลดลงร้อยละ 9.54 และ 3.44 ตามลำดับเนื่องจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องจาก ปี 2549 ทำให้ตัวแทนจำหน่ายปูนซีเมนต์ในประเทศชะลอคำสั่งซื้อลง
2.การส่งออก
มูลค่าการส่งออกปูนซีเมนต์เดือนกุมภาพันธ์ 2550 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.68 เนื่องจากผู้ประกอบการขยายตลาดส่งออก
เพื่อทดแทนตลาดในประเทศที่ชะลอตัวลง แต่เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ลดลงร้อยละ 16.95
3.แนวโน้ม
ในเดือนมีนาคม และเดือนเมษายน 2550 ซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลก่อสร้าง แต่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังคงชะลอตัวอย่างต่อเนื่องจากปี 2549
จึงคาดว่าการผลิตและการจำหน่ายในประเทศจะทรงตัว สำหรับการส่งออกขึ้นอยู่กับอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าหลัก คือ สหรัฐอเมริกา และประเทศเพื่อน
บ้านในอาเซียน
6. อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
บริษัท ฮิตาชิ โกลบอล สตอเรจ เทคโนโลยีส์ ประเทศไทย (จำกัด) ปรับโครงสร้างฐานการผลิตฮาร์ดดิสก์ทั่วโลก ยุบโรงงานใน
เม็กซิโก ย้ายศูนย์กลางการผลิตสไลเดอร์ไปไว้ที่ฟิลิปปินส์ ส่วนประเทศไทยรับงานผลิตฮาร์ดดิสก์รถยนต์ขนาด 2.5 นิ้ว จากฟิลิปปินส์ ส่วนจีนเน้นผลิต
ฮาร์ดดิสก์ 3.5 นิ้วเป็นหลัก เผยจะช่วยจัดซัพพลายเชนได้ง่ายเพราะอยู่ใกล้ตลาดจีน คาดโครงสร้างใหม่ช่วยลดต้นทุนได้ 300 ล้านดอลลาร์ใน 5 ปี
1.การผลิต
ภาพรวม ภาวะการผลิตอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ของเดือนกุมภาพันธ์ 2550 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนเล็กน้อย โดยดัชนีผล
ผลิตอยู่ที่ระดับ 254.57 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.91 เป็นผลจากการขยับตัวเพิ่มขึ้นจากสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เป็นส่วนใหญ่ที่มีดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม
อิเล็กทรอนิกส์ อยู่ที่ระดับ 343.13 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 4.05 สินค้าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนได้แก่ HDD ขณะที่ เมื่อเทียบกับ
ช่วงเดียวกันของปีก่อน กลับขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.27 เป็นผลจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อย
ละ 26.97 โดยสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ HDD และ Other IC เป็นต้น
2. การตลาด
ดัชนีส่งสินค้าไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 4.42 โดยมีดัชนีอยู่ที่ 275.24 เนื่องจากการขยายตัวของ
อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลักโดยสินค้าปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ส่งผลต่อภาพรวมของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ HDD เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี
ก่อน พบว่าดัชนีการส่ง สินค้าไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน ร้อยละ 20.72 เป็นผลจากอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ HDD และ
Other IC ปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 33.31 และ 14.33 ตามลำดับ ทั้งนี้เนื่องจากสินค้าทั้งสองเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญและเป็นฐานการผลิตหลักใน
ภูมิภาค ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการที่มีอยู่ในตลาดโลกที่ ต้องการส่วนประกอบไปใช้ในอุปกรณ์เทคโนโลยีประเภท Consumer electronics เช่น
MP3 Player, PC, กล้องดิจิตอลต่างๆ ขณะที่ตลาดอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศค่อนข้างมีการเติบโตสูงเช่นกัน ดังจะเห็นได้จากตลาดของหน่วยบันทึก
ข้อมูลแบบพกพาหรือแบบแฟลชสตอเรจ ที่ใช้ในกล้องดิจิตอล พีดีเอ โทรศัพท์มือถือมีความจุในการเก็บมาขึ้นสวนทางกับราคาที่ลดลงจากการแข่งขันเพื่อ
รักษา Market Share ของแต่ละค่าย
3. แนวโน้ม
แนวโน้มของอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าในเดือนมี.ค.ปี 2550 คาดว่า น่าจะคงปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก.พ. 2550 เนื่องจาก
สินค้าในกลุ่มเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็นนั้น คาดว่าจะมีการผลิตเพิ่มขึ้นเพื่อการขายในช่วงหน้าร้อนนี้ และเร่งทำการผลิตก่อนวันหยุดยาว
ช่วงสงกรานต์ นอกจากนี้ ในตลาดส่งออกเครื่องปรับอากาศที่มีแนวโน้มดี ได้แก่ ตลาดอียู ตะวันออกกลางที่เป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของกลุ่มนี้มีทีท่าว่าจะ
ได้ดี ทั้งนี้ขึ้นกับเศรษฐกิจในประเทศคู่ค้าเองด้วย ส่วนในกลุ่มของเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก เช่น หม้อหุงข้าว กระติกน้ำร้อน ชะลอตัวลงในช่วงหน้า
ร้อน และได้รับผลกระทบจากการแข่งขันในตลาดทำให้แนวโน้มราคาลดลงอีก สวนทางกับต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น
ขณะที่ในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ยังคงมีสถานการณ์การผลิตและการขายในภาพรวมที่ดีและมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกอาจ
ขยายตัวบ้างแต่ยังไม่ร้อนแรงมากนัก โดยส่วนใหญ่ในช่วงหลังของปีอันเป็นช่วงสูงสุดของการผลิตและขาย อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่า ปี 2550 จะมี
การขยายตัวโดยรวมประมาณ 10 % ตามสภาวะของตลาดโลก
- ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 มีค่า 164.37 ลดลงจากเดือนมกราคม 2550 (168.95) ร้อยละ 2.7 แต่
เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน (161.17) ร้อยละ 2.0
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมลดลงจากเดือนมกราคม 2550 ได้แก่
อุตสาหกรรมการผลิตเคมีภัณฑ์ขั้นมูลฐาน ยกเว้นปุ๋ยและสารประกอบไนโตรเจน
อุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม อุตสาหกรรมการผลิต
เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอออล์ รวมทั้งน้ำดื่มบรรจุขวด อุตสาหกรรมการแปรรูปและการถนอม
สัตว์น้ำ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ อุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์โลหะประดิษฐ์อื่นๆ
ซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น เป็นต้น
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของ
ปีก่อน ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องจักรสำนักงาน เครื่องทำบัญชีและเครื่องคำนวณ
อุตสาหกรรมการผลิตเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าขั้นมูลฐาน อุตสาหกรรมการผลิต
น้ำตาล อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องจักรที่ใช้งานทั่วไปอื่นๆ อุตสาหกรรมการผลิตหลอด
อิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
- อัตราการใช้กำลังการผลิตในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 มีค่า 62.32 ลดลงจากเดือนมกราคม 2550 (65.70) และลดลงจาก
เดือนเดียวกันของปีก่อน (66.61)
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตลดลงจากเดือนมกราคม 2550
ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ อุตสาหกรรมการผลิตเคมีภัณฑ์ขั้นมูลฐาน
ยกเว้นปุ๋ยและสารประกอบไนโตรเจน อุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่น
น้ำมันปิโตรเลียม อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอออล์ รวมทั้งน้ำดื่มบรรจุขวด
อุตสาหกรรมการจัดเตรียมและการปั่นเส้นใยสิ่งทอรวมถึงการทอสิ่งทอ เป็นต้น
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อน
ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ อุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์
อุตสาหกรรมการผลิตเคมีภัณฑ์ขั้นมูลฐาน ยกเว้นปุ๋ยและสารประกอบไนโตรเจน
อุตสาหกรรมการจัดเตรียมและการปั่นเส้นใยสิ่งทอรวมถึงการทอสิ่งทอ อุตสาหกรรมการ
ผลิตเครื่องรับโทรทัศน์และวิทยุ และสินค้าที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
สถานภาพการประกอบกิจการอุตสาหกรรมเดือนกุมภาพันธ์ 2550
- ภาวะการประกอบกิจการของโรงงานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม
2550 มีโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการจำนวน 354 ราย เพิ่มขึ้นในจำนวนที่มากกว่าเดือนมกราคม 2550 ซึ่งมีโรงงานเริ่มประกอบกิจการจำนวน 337
รายหรือมากกว่าร้อยละ 5.0 ในส่วนของจำนวนเงินลงทุน มียอดเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 9,705.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2550 ซึ่งมีการ
ลงทุน 7,066.93 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 37.3 และการจ้างงานรวมมีจำนวน 10,114 คน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2550 ที่มีจำนวนการ
จ้างงาน 7,881 คน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.3
- ภาวะการประกอบกิจการของโรงงานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปี
ก่อน มีโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการเพิ่มขึ้นในจำนวนที่น้อยกว่าเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ซึ่งมีโรงงานเริ่มประกอบกิจการจำนวน 437 ราย หรือคิดเป็น
จำนวนน้อยกว่าร้อยละ --19.0 แต่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ที่มีจำนวนการจ้างงาน 7,171 คน ร้อยละ 41.0 ในส่วนของ
จำนวนเงินลงทุนลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ซึ่งมีการลงทุน 12,453.03 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ -22.1
- อุตสาหกรรมที่มีจำนวนโรงงานเริ่มประกอบกิจการมากที่สุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2550
คือ อุตสาหกรรมขุดหรือลอก กรวด ทรายหรือดิน จำนวน 39 ราย รองลงมาคือ อุตสาหกรรม
ทำวงกบ ขอบประตู ขอบหน้าต่าง บานประตู บานหน้าต่าง และอุตสาหกรรมทำ
ผลิตภัณฑ์คอนกรีต คอนกรีตผสม ผลิตภัณฑ์ยิมซั่ม ปูนปลาสเตอร์จำนวน เท่ากัน คือ
19 ราย
- อุตสาหกรรมที่เริ่มประกอบกิจการโดยมีการลงทุนสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 คือ
อุตสาหกรรมทำชิ้นส่วนพิเศษสำหรับรถยนต์หรือรถพ่วง มีเงินทุน 1,381 ล้านบาท
รองลงมาคือ อุตสาหกรรมพิมพ์ ทำแฟ้มเก็บเอกสาร เย็บเล่ม ทำปก ตบแต่งสิ่งพิมพ์
มีเงินทุน 1,041 ล้านบาท
- อุตสาหกรรมที่เริ่มประกอบกิจการและมีการจ้างงานสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2550
คือ อุตสาหกรรมทำอาหารจากสัตว์น้ำบรรจุในภาชนะผนึกอากาศเข้าไม่ได้ คนงาน 3,250
คน รองลงมาคือ อุตสาหกรรมทำเครื่องเรือนจากไม้ ยาง อโลหะอื่น ซึ่งมิได้ทำจากพลาสติก
อัดเข้ารูป คนงาน 414 คน
- ภาวะการเลิกกิจการของโรงงานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม 2550 มี
โรงงานที่ปิดดำเนินกิจการจำนวน 170 ราย มากกว่าเดือนมกราคม 2550 ซึ่งมีโรงงานที่ปิดดำเนินกิจการจำนวน 133 ราย คิดเป็นร้อยละ 27.8
ในส่วนของเงินทุนมีจำนวน 4,796.24 ล้านบาท มากกว่าเดือนมกราคมที่การเลิกกิจการคิดเป็นเงินทุน 1,758.56 ล้านบาท สำหรับการเลิกจ้างงานมี
จำนวน 4,777 คน มากกว่าเดือนมกราคม 2550 ซึ่งเลิกจ้างงานจำนวน 2,387 คน
- ภาวะการเลิกกิจการของโรงงานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปี
ก่อน มีโรงงานที่ปิดดำเนินกิจการจำนวนเท่ากับเดือนกุมภาพันธ์ 2549 คือมีโรงงานที่ปิดดำเนินกิจการจำนวน 170 รายเท่ากัน ในส่วนการเลิกจ้างงาน
มากกว่าเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ที่การเลิกจ้างงานมีจำนวน 3,220 คน และในส่วนของเงินทุนของการเลิกกิจการมากกว่าเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ที่การ
เลิกกิจการคิดเป็นเงินทุน 1,333.55 ล้านบาท
- อุตสาหกรรมที่มีจำนวนโรงงานเลิกกิจการมากที่สุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 คือ
อุตสาหกรรมตัดเย็บเครื่องนุ่งห่ม ผ้าเช็ดหน้า เนกไท ถุงมือ ถุงเท้าจากผ้า หนังสัตว์
จำนวน 23 ราย รองลงมาคือ อุตสาหกรรมซ่อมยานที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์หรือ
ส่วนประกอบ จำนวน 16 ราย
- อุตสาหกรรมที่เลิกประกอบกิจการโดยที่มีเงินลงทุนสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 คือ
อุตสาหกรรมผลิตยางเรซินสังเคราะห์ ยางอีลาสโตเมอร์ เส้นใยสังเคราะห์ มิใช่ใยแก้ว
เงินทุน 3,296 ล้านบาท รองลงมาคือ อุตสาหกรรมซ่อมยานที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์
หรือส่วนประกอบ เงินทุน 389 ล้านบาท
- อุตสาหกรรมที่เลิกประกอบกิจการและจำนวนคนงานสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2550
คือ อุตสาหกรรมตัดเย็บเครื่องนุ่งห่ม ผ้าเช็ดหน้า เนกไท ถุงมือ ถุงเท้าจากผ้า หนังสัตว์
คนงาน 1,266 คน รองลงมาคือ อุตสาหกรรมทำเครื่องเรือนจากไม้ ยาง อโลหะอื่น ซึ่ง
มิได้ทำจากพลาสติกอัดเข้ารูป คนงาน 707 คน
- ภาวะการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (สกท.) ในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือน
มกราคม 2550 มีจำนวนโครงการที่ได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจาก สกท. ทั้งสิ้น 118 โครงการ มากกว่าเดือนมกราคม 2550 ที่มีจำนวน
117 โครงการ ร้อยละ 0.85และมีเงินลงทุน 113,700 ล้านบาท มากกว่าเดือนมกราคม 2550 ที่มีเงินลงทุน 39,800 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ
185.68
- ภาวะการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (สกท.) ในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกัน
ของปีก่อน มีจำนวนโครงการที่ได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจาก สกท.มากกว่าเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ที่มีจำนวน 102 โครงการ ร้อยละ
15.69 และมีเงินลงทุนมากกว่าเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ที่มีเงินลงทุน 12,600 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 802.38
- การกระจายหุ้นของโครงการที่ได้รับการอนุมัติให้การส่งเสริมในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. 2550
การร่วมทุน จำนวน(โครงการ) มูลค่าเงินลงทุน(ล้านบาท)
1.โครงการคนไทย 100% 95 42,900
2.โครงการต่างชาติ 100% 71 49,400
3.โครงการร่วมทุนไทยและต่างชาติ 69 61,100
- ประเภทกิจการที่ได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนมากที่สุดในช่วงเดือน ม.ค.-
ก.พ.2550 คือ หมวดบริการ และสาธารณูปโภค มีมูลค่าเงินลงทุนรวม 64,000 ล้าน
บาท รองลงมา คือ หมวดอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องไฟฟ้า มีมูลค่าเงินลงทุนรวม
33,700 ล้านบาท
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-
รถยนต์
อุตสาหกรรมรถยนต์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 แม้จะขยายตัวเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม 2550 แต่ชะลอลงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วง
เดียวกันของปี 2549 ทั้งนี้เนื่องจากตลาดรถยนต์ในประเทศ ยังคงได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่การบริโภค และการลงทุนมีทิศทาง
ชะลอลงอย่างต่อเนื่อง แต่ในด้านการส่งออกรถยนต์ยังสามารถขยายตัวได้ โดยมีข้อมูลสภาวะอุตสาหกรรมรถยนต์ในเดือนกุมภาพันธ์ ดังนี้
- การผลิตรถยนต์ จำนวน 95,426 คัน ลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ซึ่งมีการผลิต 101,923 คัน ร้อยละ 6.37 แต่
เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2550 ร้อยละ 10.37
- การจำหน่ายรถยนต์ จำนวน 43,606 คัน ลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ซึ่งมีการจำหน่าย 53,429 คัน ร้อยละ
18.39 ซึ่งสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่ชะลอ
- การส่งออกรถยนต์ (CBU) จำนวน 53,595 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ซึ่งมีการส่งออก 25,282 คัน ร้อย
ละ 2.51 และเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2550 ร้อยละ 31.66
- แนวโน้ม ภาวะอุตสาหกรรมรถยนต์ในเดือนมีนาคม 2550 คาดว่าจะขยายตัวเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2550
เนื่องจากได้มีการจัดงานแสดงรถยนต์ รถจักรยานยนต์ นานาชาติ "Bangkok International Motor Show 2007" ณ ศูนย์นิทรรศการและการ
ประชุมไบเทค ระหว่างวันที่ 30 มีนาคม - 8 เมษายน 2550 ซึ่งภายในงานมีการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาด ประกอบกับค่ายรถยนต์มีการจัด
กิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค
รถจักรยานยนต์
อุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 การผลิต และการจำหน่ายในประเทศชะลอตัวเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม
2550 ตามภาวะเศรษฐกิจที่ค่อนข้างซบเซา แต่การส่งออกขยายตัวได้ โดยมีข้อมูลสภาวะอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ในเดือนกุมภาพันธ์ ดังนี้
- การผลิตรถจักรยานยนต์ จำนวน 136,486 คัน ลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ซึ่งมีการผลิต 178,292 คัน ร้อยละ
23.45 และลดลงจากเดือนมกราคม 2550 ร้อยละ 15.03
- การจำหน่าย จำนวน 116,716 คัน ลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ซึ่งมีการจำหน่าย 181,763 คัน ร้อยละ
35.79 และลดลงจากเดือนมกราคม 2550 ร้อยละ 22.54
- การส่งออกรถจักรยานยนต์ (CBU) มีจำนวน 5,872 คัน ลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ 2550 ซึ่งมีการส่งออก 14,835
คัน ร้อยละ 60.42 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2550 ร้อยละ 60.74
- แนวโน้ม ภาวะอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ในเดือนมีนาคม 2550 คาดว่าจะขยายตัวจากเดือนกุมภาพันธ์ 2550 เนื่อง
จากเป็นช่วงฤดูกาลจำหน่าย ประกอบกับได้รับผลดีจากการจัดงานแสดงรถยนต์ รถจักรยานยนต์ นานาชาติ "Bangkok International Motor
Show 2007" ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค
5.อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์
"การผลิตและการจำหน่ายปูนซีเมนต์ในประเทศลดลง เนื่องจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องจาก ปี 2549
สำหรับการส่งออกเพิ่มขึ้นเนื่องจากผู้ประกอบการขยายตลาดส่งออกเพื่อทดแทนตลาดในประเทศที่ ชะลอตัวลง"
1.การผลิตและการจำหน่ายในประเทศ
การผลิตและการจำหน่ายปูนซีเมนต์ในประเทศ เดือนกุมภาพันธ์ 2550 เทียบกับเดือนก่อนลดลงร้อยละ 6.43 และ 4.46 ตามลำดับ และ
เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การผลิตและการจำหน่ายในประเทศ ลดลงร้อยละ 9.54 และ 3.44 ตามลำดับเนื่องจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องจาก ปี 2549 ทำให้ตัวแทนจำหน่ายปูนซีเมนต์ในประเทศชะลอคำสั่งซื้อลง
2.การส่งออก
มูลค่าการส่งออกปูนซีเมนต์เดือนกุมภาพันธ์ 2550 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.68 เนื่องจากผู้ประกอบการขยายตลาดส่งออก
เพื่อทดแทนตลาดในประเทศที่ชะลอตัวลง แต่เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ลดลงร้อยละ 16.95
3.แนวโน้ม
ในเดือนมีนาคม และเดือนเมษายน 2550 ซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลก่อสร้าง แต่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังคงชะลอตัวอย่างต่อเนื่องจากปี 2549
จึงคาดว่าการผลิตและการจำหน่ายในประเทศจะทรงตัว สำหรับการส่งออกขึ้นอยู่กับอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าหลัก คือ สหรัฐอเมริกา และประเทศเพื่อน
บ้านในอาเซียน
6. อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
บริษัท ฮิตาชิ โกลบอล สตอเรจ เทคโนโลยีส์ ประเทศไทย (จำกัด) ปรับโครงสร้างฐานการผลิตฮาร์ดดิสก์ทั่วโลก ยุบโรงงานใน
เม็กซิโก ย้ายศูนย์กลางการผลิตสไลเดอร์ไปไว้ที่ฟิลิปปินส์ ส่วนประเทศไทยรับงานผลิตฮาร์ดดิสก์รถยนต์ขนาด 2.5 นิ้ว จากฟิลิปปินส์ ส่วนจีนเน้นผลิต
ฮาร์ดดิสก์ 3.5 นิ้วเป็นหลัก เผยจะช่วยจัดซัพพลายเชนได้ง่ายเพราะอยู่ใกล้ตลาดจีน คาดโครงสร้างใหม่ช่วยลดต้นทุนได้ 300 ล้านดอลลาร์ใน 5 ปี
1.การผลิต
ภาพรวม ภาวะการผลิตอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ของเดือนกุมภาพันธ์ 2550 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนเล็กน้อย โดยดัชนีผล
ผลิตอยู่ที่ระดับ 254.57 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.91 เป็นผลจากการขยับตัวเพิ่มขึ้นจากสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เป็นส่วนใหญ่ที่มีดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม
อิเล็กทรอนิกส์ อยู่ที่ระดับ 343.13 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 4.05 สินค้าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนได้แก่ HDD ขณะที่ เมื่อเทียบกับ
ช่วงเดียวกันของปีก่อน กลับขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.27 เป็นผลจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อย
ละ 26.97 โดยสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ HDD และ Other IC เป็นต้น
2. การตลาด
ดัชนีส่งสินค้าไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 4.42 โดยมีดัชนีอยู่ที่ 275.24 เนื่องจากการขยายตัวของ
อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลักโดยสินค้าปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ส่งผลต่อภาพรวมของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ HDD เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี
ก่อน พบว่าดัชนีการส่ง สินค้าไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน ร้อยละ 20.72 เป็นผลจากอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ HDD และ
Other IC ปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 33.31 และ 14.33 ตามลำดับ ทั้งนี้เนื่องจากสินค้าทั้งสองเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญและเป็นฐานการผลิตหลักใน
ภูมิภาค ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการที่มีอยู่ในตลาดโลกที่ ต้องการส่วนประกอบไปใช้ในอุปกรณ์เทคโนโลยีประเภท Consumer electronics เช่น
MP3 Player, PC, กล้องดิจิตอลต่างๆ ขณะที่ตลาดอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศค่อนข้างมีการเติบโตสูงเช่นกัน ดังจะเห็นได้จากตลาดของหน่วยบันทึก
ข้อมูลแบบพกพาหรือแบบแฟลชสตอเรจ ที่ใช้ในกล้องดิจิตอล พีดีเอ โทรศัพท์มือถือมีความจุในการเก็บมาขึ้นสวนทางกับราคาที่ลดลงจากการแข่งขันเพื่อ
รักษา Market Share ของแต่ละค่าย
3. แนวโน้ม
แนวโน้มของอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าในเดือนมี.ค.ปี 2550 คาดว่า น่าจะคงปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก.พ. 2550 เนื่องจาก
สินค้าในกลุ่มเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็นนั้น คาดว่าจะมีการผลิตเพิ่มขึ้นเพื่อการขายในช่วงหน้าร้อนนี้ และเร่งทำการผลิตก่อนวันหยุดยาว
ช่วงสงกรานต์ นอกจากนี้ ในตลาดส่งออกเครื่องปรับอากาศที่มีแนวโน้มดี ได้แก่ ตลาดอียู ตะวันออกกลางที่เป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของกลุ่มนี้มีทีท่าว่าจะ
ได้ดี ทั้งนี้ขึ้นกับเศรษฐกิจในประเทศคู่ค้าเองด้วย ส่วนในกลุ่มของเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก เช่น หม้อหุงข้าว กระติกน้ำร้อน ชะลอตัวลงในช่วงหน้า
ร้อน และได้รับผลกระทบจากการแข่งขันในตลาดทำให้แนวโน้มราคาลดลงอีก สวนทางกับต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น
ขณะที่ในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ยังคงมีสถานการณ์การผลิตและการขายในภาพรวมที่ดีและมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกอาจ
ขยายตัวบ้างแต่ยังไม่ร้อนแรงมากนัก โดยส่วนใหญ่ในช่วงหลังของปีอันเป็นช่วงสูงสุดของการผลิตและขาย อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่า ปี 2550 จะมี
การขยายตัวโดยรวมประมาณ 10 % ตามสภาวะของตลาดโลก
- ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 มีค่า 164.37 ลดลงจากเดือนมกราคม 2550 (168.95) ร้อยละ 2.7 แต่
เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน (161.17) ร้อยละ 2.0
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมลดลงจากเดือนมกราคม 2550 ได้แก่
อุตสาหกรรมการผลิตเคมีภัณฑ์ขั้นมูลฐาน ยกเว้นปุ๋ยและสารประกอบไนโตรเจน
อุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม อุตสาหกรรมการผลิต
เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอออล์ รวมทั้งน้ำดื่มบรรจุขวด อุตสาหกรรมการแปรรูปและการถนอม
สัตว์น้ำ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ อุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์โลหะประดิษฐ์อื่นๆ
ซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น เป็นต้น
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของ
ปีก่อน ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องจักรสำนักงาน เครื่องทำบัญชีและเครื่องคำนวณ
อุตสาหกรรมการผลิตเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าขั้นมูลฐาน อุตสาหกรรมการผลิต
น้ำตาล อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องจักรที่ใช้งานทั่วไปอื่นๆ อุตสาหกรรมการผลิตหลอด
อิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
- อัตราการใช้กำลังการผลิตในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 มีค่า 62.32 ลดลงจากเดือนมกราคม 2550 (65.70) และลดลงจาก
เดือนเดียวกันของปีก่อน (66.61)
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตลดลงจากเดือนมกราคม 2550
ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ อุตสาหกรรมการผลิตเคมีภัณฑ์ขั้นมูลฐาน
ยกเว้นปุ๋ยและสารประกอบไนโตรเจน อุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่น
น้ำมันปิโตรเลียม อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอออล์ รวมทั้งน้ำดื่มบรรจุขวด
อุตสาหกรรมการจัดเตรียมและการปั่นเส้นใยสิ่งทอรวมถึงการทอสิ่งทอ เป็นต้น
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อน
ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ อุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์
อุตสาหกรรมการผลิตเคมีภัณฑ์ขั้นมูลฐาน ยกเว้นปุ๋ยและสารประกอบไนโตรเจน
อุตสาหกรรมการจัดเตรียมและการปั่นเส้นใยสิ่งทอรวมถึงการทอสิ่งทอ อุตสาหกรรมการ
ผลิตเครื่องรับโทรทัศน์และวิทยุ และสินค้าที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
สถานภาพการประกอบกิจการอุตสาหกรรมเดือนกุมภาพันธ์ 2550
- ภาวะการประกอบกิจการของโรงงานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม
2550 มีโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการจำนวน 354 ราย เพิ่มขึ้นในจำนวนที่มากกว่าเดือนมกราคม 2550 ซึ่งมีโรงงานเริ่มประกอบกิจการจำนวน 337
รายหรือมากกว่าร้อยละ 5.0 ในส่วนของจำนวนเงินลงทุน มียอดเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 9,705.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2550 ซึ่งมีการ
ลงทุน 7,066.93 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 37.3 และการจ้างงานรวมมีจำนวน 10,114 คน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2550 ที่มีจำนวนการ
จ้างงาน 7,881 คน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.3
- ภาวะการประกอบกิจการของโรงงานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปี
ก่อน มีโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการเพิ่มขึ้นในจำนวนที่น้อยกว่าเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ซึ่งมีโรงงานเริ่มประกอบกิจการจำนวน 437 ราย หรือคิดเป็น
จำนวนน้อยกว่าร้อยละ --19.0 แต่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ที่มีจำนวนการจ้างงาน 7,171 คน ร้อยละ 41.0 ในส่วนของ
จำนวนเงินลงทุนลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ซึ่งมีการลงทุน 12,453.03 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ -22.1
- อุตสาหกรรมที่มีจำนวนโรงงานเริ่มประกอบกิจการมากที่สุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2550
คือ อุตสาหกรรมขุดหรือลอก กรวด ทรายหรือดิน จำนวน 39 ราย รองลงมาคือ อุตสาหกรรม
ทำวงกบ ขอบประตู ขอบหน้าต่าง บานประตู บานหน้าต่าง และอุตสาหกรรมทำ
ผลิตภัณฑ์คอนกรีต คอนกรีตผสม ผลิตภัณฑ์ยิมซั่ม ปูนปลาสเตอร์จำนวน เท่ากัน คือ
19 ราย
- อุตสาหกรรมที่เริ่มประกอบกิจการโดยมีการลงทุนสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 คือ
อุตสาหกรรมทำชิ้นส่วนพิเศษสำหรับรถยนต์หรือรถพ่วง มีเงินทุน 1,381 ล้านบาท
รองลงมาคือ อุตสาหกรรมพิมพ์ ทำแฟ้มเก็บเอกสาร เย็บเล่ม ทำปก ตบแต่งสิ่งพิมพ์
มีเงินทุน 1,041 ล้านบาท
- อุตสาหกรรมที่เริ่มประกอบกิจการและมีการจ้างงานสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2550
คือ อุตสาหกรรมทำอาหารจากสัตว์น้ำบรรจุในภาชนะผนึกอากาศเข้าไม่ได้ คนงาน 3,250
คน รองลงมาคือ อุตสาหกรรมทำเครื่องเรือนจากไม้ ยาง อโลหะอื่น ซึ่งมิได้ทำจากพลาสติก
อัดเข้ารูป คนงาน 414 คน
- ภาวะการเลิกกิจการของโรงงานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม 2550 มี
โรงงานที่ปิดดำเนินกิจการจำนวน 170 ราย มากกว่าเดือนมกราคม 2550 ซึ่งมีโรงงานที่ปิดดำเนินกิจการจำนวน 133 ราย คิดเป็นร้อยละ 27.8
ในส่วนของเงินทุนมีจำนวน 4,796.24 ล้านบาท มากกว่าเดือนมกราคมที่การเลิกกิจการคิดเป็นเงินทุน 1,758.56 ล้านบาท สำหรับการเลิกจ้างงานมี
จำนวน 4,777 คน มากกว่าเดือนมกราคม 2550 ซึ่งเลิกจ้างงานจำนวน 2,387 คน
- ภาวะการเลิกกิจการของโรงงานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปี
ก่อน มีโรงงานที่ปิดดำเนินกิจการจำนวนเท่ากับเดือนกุมภาพันธ์ 2549 คือมีโรงงานที่ปิดดำเนินกิจการจำนวน 170 รายเท่ากัน ในส่วนการเลิกจ้างงาน
มากกว่าเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ที่การเลิกจ้างงานมีจำนวน 3,220 คน และในส่วนของเงินทุนของการเลิกกิจการมากกว่าเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ที่การ
เลิกกิจการคิดเป็นเงินทุน 1,333.55 ล้านบาท
- อุตสาหกรรมที่มีจำนวนโรงงานเลิกกิจการมากที่สุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 คือ
อุตสาหกรรมตัดเย็บเครื่องนุ่งห่ม ผ้าเช็ดหน้า เนกไท ถุงมือ ถุงเท้าจากผ้า หนังสัตว์
จำนวน 23 ราย รองลงมาคือ อุตสาหกรรมซ่อมยานที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์หรือ
ส่วนประกอบ จำนวน 16 ราย
- อุตสาหกรรมที่เลิกประกอบกิจการโดยที่มีเงินลงทุนสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 คือ
อุตสาหกรรมผลิตยางเรซินสังเคราะห์ ยางอีลาสโตเมอร์ เส้นใยสังเคราะห์ มิใช่ใยแก้ว
เงินทุน 3,296 ล้านบาท รองลงมาคือ อุตสาหกรรมซ่อมยานที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์
หรือส่วนประกอบ เงินทุน 389 ล้านบาท
- อุตสาหกรรมที่เลิกประกอบกิจการและจำนวนคนงานสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2550
คือ อุตสาหกรรมตัดเย็บเครื่องนุ่งห่ม ผ้าเช็ดหน้า เนกไท ถุงมือ ถุงเท้าจากผ้า หนังสัตว์
คนงาน 1,266 คน รองลงมาคือ อุตสาหกรรมทำเครื่องเรือนจากไม้ ยาง อโลหะอื่น ซึ่ง
มิได้ทำจากพลาสติกอัดเข้ารูป คนงาน 707 คน
- ภาวะการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (สกท.) ในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือน
มกราคม 2550 มีจำนวนโครงการที่ได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจาก สกท. ทั้งสิ้น 118 โครงการ มากกว่าเดือนมกราคม 2550 ที่มีจำนวน
117 โครงการ ร้อยละ 0.85และมีเงินลงทุน 113,700 ล้านบาท มากกว่าเดือนมกราคม 2550 ที่มีเงินลงทุน 39,800 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ
185.68
- ภาวะการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (สกท.) ในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกัน
ของปีก่อน มีจำนวนโครงการที่ได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจาก สกท.มากกว่าเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ที่มีจำนวน 102 โครงการ ร้อยละ
15.69 และมีเงินลงทุนมากกว่าเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ที่มีเงินลงทุน 12,600 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 802.38
- การกระจายหุ้นของโครงการที่ได้รับการอนุมัติให้การส่งเสริมในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. 2550
การร่วมทุน จำนวน(โครงการ) มูลค่าเงินลงทุน(ล้านบาท)
1.โครงการคนไทย 100% 95 42,900
2.โครงการต่างชาติ 100% 71 49,400
3.โครงการร่วมทุนไทยและต่างชาติ 69 61,100
- ประเภทกิจการที่ได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนมากที่สุดในช่วงเดือน ม.ค.-
ก.พ.2550 คือ หมวดบริการ และสาธารณูปโภค มีมูลค่าเงินลงทุนรวม 64,000 ล้าน
บาท รองลงมา คือ หมวดอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องไฟฟ้า มีมูลค่าเงินลงทุนรวม
33,700 ล้านบาท
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-