ราคายางแผ่นดิบชั้น 3 ตลาดหาดใหญ่ สัปดาห์นี้ 63.29 บาท/กิโลกรัม
1. สรุปภาวะการผลิตการตลาดและราคาภายในประเทศ
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรได้วิเคราะห์แนวโน้มการผลิตยางพาราของไทยปี 2550 — 2563 ว่า มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.79 ต่อปี จาก 3.24 ล้านตันในปี 2550 เป็น 4.16 ล้านตัน ในปี 2563 ซึ่งสอดคล้องกับการวิเคราะห์อุปสงค์อุปทานยางพาราโลกของ IRSG ที่คาดว่าในปี 2563 โลกจะมีความต้องการใช้ยางพารา 12.853 ล้านตัน แต่ในปี 2548 โลกผลิตยางพาราได้ประมาณ 8.813 ล้านตัน ดังนั้นในอีก 15 ปีข้างหน้า (ปี 2549-2563) ผลผลิตโลกต้องเพิ่มขึ้นไม่เกิน 4.040 ล้านตัน หรือในปี 2563 โลกต้องผลิตยางพาราไม่เกิน 12.853 ล้านตัน ซึ่งในปี 2563 ผลผลิตยางพาราของไทยไม่ควรเกิน 4.149 ล้านตัน อินโดนีเซียผลิตไม่เกิน 3.213 ล้านตัน และมาเลเซียผลิตไม่เกิน 1.593 ล้านตัน และประเทศอื่นๆผลิตไม่เกิน 3.898 ล้านตัน ซึ่งหากบางประเทศผลิตเกินจากนี้ จะทำให้เกิด Over Supply และส่งผลกระทบต่อราคายางพาราให้ตกต่ำลงได้
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
1. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 1 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 58.73 บาท ลดลงจาก 61.11 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 2.38 บาท หรือร้อยละ 3.89
2. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 2 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 58.23 บาท ลดลงจาก 60.61 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 2.38 บาท หรือร้อยละ 3.93
3. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 3 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 57.73 บาท ลดลงจาก 60.11 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 2.38 บาท หรือร้อยละ 3.96
4. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 4 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 56.96 บาท ลดลงจาก 59.28 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 2.32 บาท หรือร้อยละ 3.91
5. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 5 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 55.83 บาท ลดลงจาก 58.07 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 2.24 หรือร้อยละ 3.86
6. ยางแผ่นดิบคละราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 56.67 บาท ลดลงจาก 60.13 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 3.46 บาท หรือร้อยละ 5.75
7. ยางก้อนคละ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 29.12 บาท ลดลงจาก 30.17 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 1.05 บาท หรือร้อยละ 3.48
8. เศษยางคละ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 25.90 บาท ลดลงจาก 26.86 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 0.96 บาท หรือร้อยละ 3.57
9. น้ำยางข้นคละ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 55.73 บาท ลดลงจาก 58.53 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 2.80 บาท หรือร้อยละ 4.78
ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี. ซื้อขายล่วงหน้าส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ 2550
ณ ท่าเรือกรุงเทพ
1. ยางแผ่นรมควันชั้น 1 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 71.75 บาท ลดลงจาก 73.15 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 1.40 บาท หรือร้อยละ 1.91
2. ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 70.78 บาท ลดลงจาก 72.00 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 1.22 บาท หรือร้อยละ 1.69
3. น้ำยางข้น ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 47.08 บาท ลดลงจาก 47.50 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 0.42 บาท หรือร้อยละ 0.88
ณ ท่าเรือสงขลา
1. ยางแผ่นรมควันชั้น 1 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 71.50 บาท ลดลงจาก 72.90 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 1.40 บาท หรือร้อยละ 1.92
2. ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 70.53 บาท ลดลงจาก 71.75 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 1.22 บาท หรือร้อยละ 1.70
3. น้ำยางข้นราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 46.83 บาท ลดลงจาก 47.25 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 0.42 บาท หรือร้อยละ 0.88
2. สรุปภาวะการผลิตการตลาดและราคาในตลาดต่างประเทศ
หนังสือพิมพ์ของจีนรายงานว่า จีนและอินโดนีเซียเตรียมที่จะขึ้นมาเป็นคู่แข่งสำคัญในอุตสาหกรรมส่งออกถุงมือยางของไทย หลังจากที่มาเลเซียซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกอันดับหนึ่ง จะมีนโยบายย้ายฐานการผลิตมายังจีน การเข้าไปเปิดโรงงานผลิตถุงมือยางในประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่นั้น ถือเป็นการปรับเปลี่ยนนโยบายการดำเนินงานอย่างหนึ่งของมาเลเซีย และจะมีผลผลักดันให้จีนทะยานขึ้นมาเป็นคู่แข่งผู้ส่งออกถุงมือยางของไทย และขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆของโลก ประกอบกับการที่จีนมีการขยายพื้นที่ปลูกยางพาราเพื่อป้อนวัตถุดิบในการผลิต อาจทำให้จีนนั้นสามารถแซงหน้าไทยในด้านอุตสาหกรรมถุงมือยางได้ ทั้งนี้ ปริมาณอุปสงค์ของถุงมือยางในโลกเฉลี่ยปีละ 120,000 ล้านชิ้น และมีอัตราการเจริญเติบโตร้อยละ 15 -20
ปัจจุบันมาเลเซียเป็นผู้ส่งออกถุงมือยาง ที่ครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ร้อยละ 60 และเป็นผู้ส่งออกถุงมือยางเพื่อการแพทย์ ถุงมือยางที่ใช้ในครัวเรือนและอุตสาหกรรมอันดับ 1 ของโลกในขณะที่อินโดนีเซียมีปริมาณการผลิตถุงมือยางอยู่ที่ปีละ 9,500 ล้านชิ้น
ราคาต่างประเทศซื้อขายล่วงหน้าส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ 2550
ยางแผ่นรมควันชั้น 1
ราคาซื้อขายล่วงหน้าตลาดสิงคโปร์ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 305.45 เซนต์สิงคโปร์ ( 70.75 บาท) ลดลงจาก 306.17 เซนต์สิงคโปร์ (71.24 บาท) ในสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 0.72 เซนสิงคโปร์ หรือร้อยละ 0.24
ยางแผ่นรมควันชั้น 3
ราคาซื้อขายล่วงหน้าตลาดสิงคโปร์ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 195.95 เซนต์สหรัฐ ( 70.11 บาท) ลดลงจาก 196.17 เซนต์สหรัฐ (70.43 บาท) ในสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 0.22 เซนต์สหรัฐ หรือร้อยละ 0.11
ราคาซื้อขายล่วงหน้าตลาดโตเกียว เฉลี่ยกิโลกรัมละ 238.65 เยน (71.44 บาท) สูงขึ้นจาก 234.40 เยน (70.23 บาท) ในสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 4.25 เยน หรือร้อยละ 1.81
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ประจำวันที่ 8-14 มกราคม 2550--
-พห-
1. สรุปภาวะการผลิตการตลาดและราคาภายในประเทศ
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรได้วิเคราะห์แนวโน้มการผลิตยางพาราของไทยปี 2550 — 2563 ว่า มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.79 ต่อปี จาก 3.24 ล้านตันในปี 2550 เป็น 4.16 ล้านตัน ในปี 2563 ซึ่งสอดคล้องกับการวิเคราะห์อุปสงค์อุปทานยางพาราโลกของ IRSG ที่คาดว่าในปี 2563 โลกจะมีความต้องการใช้ยางพารา 12.853 ล้านตัน แต่ในปี 2548 โลกผลิตยางพาราได้ประมาณ 8.813 ล้านตัน ดังนั้นในอีก 15 ปีข้างหน้า (ปี 2549-2563) ผลผลิตโลกต้องเพิ่มขึ้นไม่เกิน 4.040 ล้านตัน หรือในปี 2563 โลกต้องผลิตยางพาราไม่เกิน 12.853 ล้านตัน ซึ่งในปี 2563 ผลผลิตยางพาราของไทยไม่ควรเกิน 4.149 ล้านตัน อินโดนีเซียผลิตไม่เกิน 3.213 ล้านตัน และมาเลเซียผลิตไม่เกิน 1.593 ล้านตัน และประเทศอื่นๆผลิตไม่เกิน 3.898 ล้านตัน ซึ่งหากบางประเทศผลิตเกินจากนี้ จะทำให้เกิด Over Supply และส่งผลกระทบต่อราคายางพาราให้ตกต่ำลงได้
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
1. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 1 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 58.73 บาท ลดลงจาก 61.11 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 2.38 บาท หรือร้อยละ 3.89
2. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 2 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 58.23 บาท ลดลงจาก 60.61 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 2.38 บาท หรือร้อยละ 3.93
3. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 3 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 57.73 บาท ลดลงจาก 60.11 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 2.38 บาท หรือร้อยละ 3.96
4. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 4 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 56.96 บาท ลดลงจาก 59.28 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 2.32 บาท หรือร้อยละ 3.91
5. ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 5 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 55.83 บาท ลดลงจาก 58.07 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 2.24 หรือร้อยละ 3.86
6. ยางแผ่นดิบคละราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 56.67 บาท ลดลงจาก 60.13 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 3.46 บาท หรือร้อยละ 5.75
7. ยางก้อนคละ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 29.12 บาท ลดลงจาก 30.17 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 1.05 บาท หรือร้อยละ 3.48
8. เศษยางคละ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 25.90 บาท ลดลงจาก 26.86 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 0.96 บาท หรือร้อยละ 3.57
9. น้ำยางข้นคละ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 55.73 บาท ลดลงจาก 58.53 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 2.80 บาท หรือร้อยละ 4.78
ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี. ซื้อขายล่วงหน้าส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ 2550
ณ ท่าเรือกรุงเทพ
1. ยางแผ่นรมควันชั้น 1 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 71.75 บาท ลดลงจาก 73.15 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 1.40 บาท หรือร้อยละ 1.91
2. ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 70.78 บาท ลดลงจาก 72.00 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 1.22 บาท หรือร้อยละ 1.69
3. น้ำยางข้น ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 47.08 บาท ลดลงจาก 47.50 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 0.42 บาท หรือร้อยละ 0.88
ณ ท่าเรือสงขลา
1. ยางแผ่นรมควันชั้น 1 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 71.50 บาท ลดลงจาก 72.90 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 1.40 บาท หรือร้อยละ 1.92
2. ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 70.53 บาท ลดลงจาก 71.75 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 1.22 บาท หรือร้อยละ 1.70
3. น้ำยางข้นราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 46.83 บาท ลดลงจาก 47.25 บาท ของสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 0.42 บาท หรือร้อยละ 0.88
2. สรุปภาวะการผลิตการตลาดและราคาในตลาดต่างประเทศ
หนังสือพิมพ์ของจีนรายงานว่า จีนและอินโดนีเซียเตรียมที่จะขึ้นมาเป็นคู่แข่งสำคัญในอุตสาหกรรมส่งออกถุงมือยางของไทย หลังจากที่มาเลเซียซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกอันดับหนึ่ง จะมีนโยบายย้ายฐานการผลิตมายังจีน การเข้าไปเปิดโรงงานผลิตถุงมือยางในประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่นั้น ถือเป็นการปรับเปลี่ยนนโยบายการดำเนินงานอย่างหนึ่งของมาเลเซีย และจะมีผลผลักดันให้จีนทะยานขึ้นมาเป็นคู่แข่งผู้ส่งออกถุงมือยางของไทย และขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆของโลก ประกอบกับการที่จีนมีการขยายพื้นที่ปลูกยางพาราเพื่อป้อนวัตถุดิบในการผลิต อาจทำให้จีนนั้นสามารถแซงหน้าไทยในด้านอุตสาหกรรมถุงมือยางได้ ทั้งนี้ ปริมาณอุปสงค์ของถุงมือยางในโลกเฉลี่ยปีละ 120,000 ล้านชิ้น และมีอัตราการเจริญเติบโตร้อยละ 15 -20
ปัจจุบันมาเลเซียเป็นผู้ส่งออกถุงมือยาง ที่ครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ร้อยละ 60 และเป็นผู้ส่งออกถุงมือยางเพื่อการแพทย์ ถุงมือยางที่ใช้ในครัวเรือนและอุตสาหกรรมอันดับ 1 ของโลกในขณะที่อินโดนีเซียมีปริมาณการผลิตถุงมือยางอยู่ที่ปีละ 9,500 ล้านชิ้น
ราคาต่างประเทศซื้อขายล่วงหน้าส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ 2550
ยางแผ่นรมควันชั้น 1
ราคาซื้อขายล่วงหน้าตลาดสิงคโปร์ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 305.45 เซนต์สิงคโปร์ ( 70.75 บาท) ลดลงจาก 306.17 เซนต์สิงคโปร์ (71.24 บาท) ในสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 0.72 เซนสิงคโปร์ หรือร้อยละ 0.24
ยางแผ่นรมควันชั้น 3
ราคาซื้อขายล่วงหน้าตลาดสิงคโปร์ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 195.95 เซนต์สหรัฐ ( 70.11 บาท) ลดลงจาก 196.17 เซนต์สหรัฐ (70.43 บาท) ในสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 0.22 เซนต์สหรัฐ หรือร้อยละ 0.11
ราคาซื้อขายล่วงหน้าตลาดโตเกียว เฉลี่ยกิโลกรัมละ 238.65 เยน (71.44 บาท) สูงขึ้นจาก 234.40 เยน (70.23 บาท) ในสัปดาห์ที่แล้วกิโลกรัมละ 4.25 เยน หรือร้อยละ 1.81
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ประจำวันที่ 8-14 มกราคม 2550--
-พห-