แท็ก
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
กรมอุตุนิยมวิทยา
พรรคประชาธิปัตย์
โรงแรมคอนราด
รัฐมนตรี
ไอซีที
เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์นี้ ดร.บุญมาก ศิริเนาวกุล ในฐานะอดีตส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเคยอภิปรายตรวจสอบทุจริตซุเปอร์คอมพิวเตอร์ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้แถลงว่า ขอสนับสนุนกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารหรือไอซีที ดร.สิทธิชัย โภไคยอุดม ได้สั่งการให้ผู้บริหารกรมอุตุนิยมวิทยารื้อการสอบสวนการจัดซื้อซูเปอร์คอมพิวเตอร์เพื่อพยากรณ์อากาศ เกือบ 1000 ล้านบาท ปี 2540 ใหม่ เพื่อให้สามารถดึงงบประมาณเพิ่มเติมอีก 500 ล้านบาทในการดำเนินงานต่อไป
ดร.บุญมากได้กล่าวว่า โครงการนี้จำเป็นต้องซื้อใหม่หมด เพราะผิดวัตถุประสงค์ตั้งแต่แรก ที่มีวัตถุประสงค์ของโครงการในสมัยนายกรัฐมนตรีชวน หลีกภัย ว่าจะต้องสามารถให้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ชุดนี้สามารถตรวจวัดและประมวลผลได้เองในประเทศไทย โดยมีการตรวจวัดค่าตัวแปร เช่น ความชื้น อุณหภูมิ การคำนวณความหนาแน่นของก้อนเมฆ บริเวณประเทศไทยและรอบ ๆ ซึ่งโครงการนี้มีเจตนาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการพยากรณ์สภาพอากาศในภูมิภาคนี้ เพราะประเทศอื่น ๆ บริเวณรอบนี้ยังไม่มี นอกจากประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น จึงงบประมาณไว้ถึง 1000 ล้านบาท ซึ่งเป็นข้อเสนอนายสมบัติ อุทัยสาง ขณะนั้นรับผิดชอบกรมอุตุนิยมวิทยา
ในช่วงของการประมูลจัดซื้อในปี 2539 ก็มีข่าวคราวเรื่องทุจริตและหลังจากจัดซื้อก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงทีโออาร์และสเป็กโมเดล คงเพื่อที่จะให้สามารถตรวจรับได้ แต่สภาพความเป็นจริงขณะนี้คือคอมพิวเตอร์ที่ใช้อยู่ปัจจุบันไม่สามารถที่จะประมวลผลตามวัตถุประสงค์หรือเป็นการนำข้อมูลจากประเทศอังกฤษ เพื่อมาคำนวณแสดงผลเท่านั้น ซึ่งผิดจุดประสงค์อย่างร้ายแรง ในช่วงนี้ก็ได้มีการเปลี่ยนอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยามาเป็นคุณสมิธ ธรรมสโรช และต่อมาอีกหลายท่าน
ดร.บุญมาก กล่าวว่า ได้เคยอภิปรายไว้ในสภาผู้แทนราษฎรในสมัยปี 2539 และปี 2540 ว่า ชุดคอมพิวเตอร์ที่จัดซื้อมานั้นผิดสเป็กตั้งแต่แรก และไม่มีซูเปอร์คอมพิวเตอร์ และไม่สามารถประมวลผลข้อมูลจากตัวเองได้ในบริเวณประเทศไทย แต่นำมาเพื่อแสดงผลจากประเทศอังกฤษเท่านั้น
“จึงเสนอว่าว่าถ้ารัฐมนตรีไอซีทีต้องการที่จะเพิ่มงบประมาณ 500 ล้านบาทนั้นจะต้องชัดเจนก่อนว่าเพื่ออะไร ถ้าหากเพื่อให้แสดงผลได้สวยงามมากขึ้นคงไม่จำเป็น แต่ถ้าหากว่าจะให้ไทยเป็นศูนย์กลางการพยากรณ์สภาพอากาศในภูมิภาคนี้จะต้องเริ่มคนใหม่หมด ซึ่งยากยิ่งเท่าการแก้ไขสนามบินสุวรรณภูมิ เพราะเป็นเรื่องคอมพิวเตอร์ไม่ใช่เรื่องก่อสร้าง ซึ่งการก่อสร้างควรจะทุบทิ้ง และแก้ไขบางเรื่องได้ แต่คอมพิวเตอร์ถ้าหากผิดต้องเริ่มที่ศูนย์เลย” ดร.บุญมากกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 17 ก.พ. 2550--จบ--
ดร.บุญมากได้กล่าวว่า โครงการนี้จำเป็นต้องซื้อใหม่หมด เพราะผิดวัตถุประสงค์ตั้งแต่แรก ที่มีวัตถุประสงค์ของโครงการในสมัยนายกรัฐมนตรีชวน หลีกภัย ว่าจะต้องสามารถให้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ชุดนี้สามารถตรวจวัดและประมวลผลได้เองในประเทศไทย โดยมีการตรวจวัดค่าตัวแปร เช่น ความชื้น อุณหภูมิ การคำนวณความหนาแน่นของก้อนเมฆ บริเวณประเทศไทยและรอบ ๆ ซึ่งโครงการนี้มีเจตนาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการพยากรณ์สภาพอากาศในภูมิภาคนี้ เพราะประเทศอื่น ๆ บริเวณรอบนี้ยังไม่มี นอกจากประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น จึงงบประมาณไว้ถึง 1000 ล้านบาท ซึ่งเป็นข้อเสนอนายสมบัติ อุทัยสาง ขณะนั้นรับผิดชอบกรมอุตุนิยมวิทยา
ในช่วงของการประมูลจัดซื้อในปี 2539 ก็มีข่าวคราวเรื่องทุจริตและหลังจากจัดซื้อก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงทีโออาร์และสเป็กโมเดล คงเพื่อที่จะให้สามารถตรวจรับได้ แต่สภาพความเป็นจริงขณะนี้คือคอมพิวเตอร์ที่ใช้อยู่ปัจจุบันไม่สามารถที่จะประมวลผลตามวัตถุประสงค์หรือเป็นการนำข้อมูลจากประเทศอังกฤษ เพื่อมาคำนวณแสดงผลเท่านั้น ซึ่งผิดจุดประสงค์อย่างร้ายแรง ในช่วงนี้ก็ได้มีการเปลี่ยนอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยามาเป็นคุณสมิธ ธรรมสโรช และต่อมาอีกหลายท่าน
ดร.บุญมาก กล่าวว่า ได้เคยอภิปรายไว้ในสภาผู้แทนราษฎรในสมัยปี 2539 และปี 2540 ว่า ชุดคอมพิวเตอร์ที่จัดซื้อมานั้นผิดสเป็กตั้งแต่แรก และไม่มีซูเปอร์คอมพิวเตอร์ และไม่สามารถประมวลผลข้อมูลจากตัวเองได้ในบริเวณประเทศไทย แต่นำมาเพื่อแสดงผลจากประเทศอังกฤษเท่านั้น
“จึงเสนอว่าว่าถ้ารัฐมนตรีไอซีทีต้องการที่จะเพิ่มงบประมาณ 500 ล้านบาทนั้นจะต้องชัดเจนก่อนว่าเพื่ออะไร ถ้าหากเพื่อให้แสดงผลได้สวยงามมากขึ้นคงไม่จำเป็น แต่ถ้าหากว่าจะให้ไทยเป็นศูนย์กลางการพยากรณ์สภาพอากาศในภูมิภาคนี้จะต้องเริ่มคนใหม่หมด ซึ่งยากยิ่งเท่าการแก้ไขสนามบินสุวรรณภูมิ เพราะเป็นเรื่องคอมพิวเตอร์ไม่ใช่เรื่องก่อสร้าง ซึ่งการก่อสร้างควรจะทุบทิ้ง และแก้ไขบางเรื่องได้ แต่คอมพิวเตอร์ถ้าหากผิดต้องเริ่มที่ศูนย์เลย” ดร.บุญมากกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 17 ก.พ. 2550--จบ--