นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ประเทศมาเลเซียจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 11 ระหว่างวันที่ 12-14 ธันวาคม 2548 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยจะมีการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสและรัฐมนตรีเศรษฐกิจของอาเซียน ระหว่างวันที่ 6-9 ธันวาคม 2548 โดยมี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย เข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรี
นางอภิรดี กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้มีประเด็นสำคัญที่จะพิจารณา ดังนี้
1. การลงนามความตกลงด้านเศรษฐกิจของอาเซียน โดยรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน จำนวน 3 ฉบับ ได้แก่
1.1 ความตกลงเพื่อพัฒนาระบบการอำนวยความสะดวกด้านพิธีการศุลกากรด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียว (ASEAN Single Window) ซึ่งกำหนดให้ประเทศสมาชิกอาเซียนเดิม 6 ประเทศ รวมทั้งไทย จัดตั้ง National Single Window ให้แล้วเสร็จภายในปี 2551 เพื่อเชื่อมต่อเป็น ASEAN Single Window ต่อไป ส่วนประเทศ กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม หรือ CLMV ให้ดำเนินการแล้วเสร็จ ภายในปี 2555ทั้งนี้ ไทยและฟิลิปปินส์จะเร่งดำเนินโครงการได้ในต้นปีหน้า
1.2 ความตกลงว่าด้วยการปรับประสานระบบการควบคุม/ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ของอาเซียนให้เป็นหนึ่งเดียว ให้ประเทศสมาชิกอาเซียนปรับระบบด้านกฎระเบียบและการควบคุมผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ให้สอดคล้องกัน โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2554 ทั้งนี้จะทำให้การค้าสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ภายในอาเซียนขยายตัวเพิ่มขึ้น รวมทั้งเป็น การเสริมสร้างความร่วมมือในการพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันของสินค้าดังกล่าวของอาเซียนในตลาดโลกให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
1.3 ข้อตกลงยอมรับร่วมสาขาวิศวกรรมของอาเซียน โดยจะเปิดโอกาสให้วิศวกรที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดสามารถจดทะเบียนเป็นวิศวกรวิชาชีพอาเซียน (ASEAN Chartered Professional Engineer) ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมในประเทศอาเซียนอื่นได้ โดยต้องปฏิบัติงานร่วมกับวิศวกรท้องถิ่นและปฏิบัติตามกฎระเบียบภายในของประเทศนั้นๆ ในส่วนของไทย วิศวกรที่ต้องการจดทะเบียนดังกล่าวจะต้องผ่านการประเมินจากสภาวิศวกร
2. การหารือกับประเทศคู่เจรจาของอาเซียน โดยจะมีการหารือในระดับรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนกับญี่ปุ่น ประเทศ+3 (จีน เกาหลี ญี่ปุ่น) และอินเดีย ส่วนในระดับผู้นำอาเซียนจะมีการหารือกับประเทศ+3 จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย รัสเซีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์
3. การหารือยุทธศาสตร์การเร่งรัดการรวมกลุ่มสาขาการท่องเที่ยวและการบิน โดยไทยจะเสนอให้เน้นดำเนินการด้านความร่วมมือในการรวมกลุ่มสาขาการท่องเที่ยวให้เห็นผลเป็นรูปธรรม โดยเสนอให้อาเซียนตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจากจีน เป็น 6 ล้านคนภายใน 3 ปี (2551) โดยการส่งเสริมการท่องเที่ยว ร่วมกันในลักษณะ Joint Tourism Destination และผลักดันเรื่องการจัดตั้ง Integrated ASEAN Tourism Investment Zone เพื่อดึงดูดการลงทุนในสาขาการท่องเที่ยวจากประเทศที่สาม
4. การรับรองเป้าหมายการเปิดเสรีภาคบริการของอาเซียนโดยรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนเพื่อเสนอต่อผู้นำอาเซียน สาขาบริการที่เร่งรัดการรวมกลุ่ม (Priority Services Sectors) ซึ่งประกอบด้วยบริการด้าน สุขภาพ บริการสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และธุรกิจท่องเที่ยว ให้เปิดเสรีภายในปี 2553 โดยกำหนดเป้าหมายการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นต่างชาติเป็นลำดับ คือ ร้อยละ 49 ในปี 2549 ร้อยละ 51 ในปี 2551 และอย่างน้อยที่สุดร้อยละ 70 ในปี 2553 ส่วนสาขาบริการอื่น กำหนดให้เปิดเสรีภายในปี 2558 โดยจะยกเว้นสาขาที่อ่อนไหวได้เล็กน้อย
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775
-พห-