ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 18 มิถุนายน 2550 - 24 มิถุนายน 2550
ภาคเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไปตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักและมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่เกษตรกรควรผูกยึดกิ่งและค้ำยันลำต้นของไม้ผลให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการหักโค่นเมื่อมีฝน ฟ้าคะนองและลมแรง ส่วนชาวนาที่หว่านกล้าในระยะนี้ไม่ควรหว่านกล้าแน่นจนเกินไป เพื่อลดความเสี่ยงของการระบาดเชื้อรา
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไปตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักและมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนและด้านตะวันออกของภาค เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้ง ขณะฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทาน และมีแหล่งเก็บน้ำเป็นของตนเอง เกษตรกรควรกักเก็บน้ำสำรองเอาไว้ใช้ในช่วงที่ขาดแคลนฝน
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 18-20 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย กับมีฝนตกหนักและมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ สำหรับในช่วงวันที่ 21-24 มิ.ย.มีฝนเพิ่มมากขึ้นและจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ซึ่งอาจทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากได้บางพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัย ดังนั้นเกษตรกรควรเตรียมพร้อมป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว นอกจากนี้ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่ชื้นแฉะ เพราะจะทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเจ็บป่วยได้ง่าย
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 18-20 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย กับมีฝนตกหนักและมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 21-24 มิ.ย. มีฝนเพิ่มมากขึ้นและจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก บางพื้นที่ดังนั้นเกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย ใกล้ทางน้ำไหล ควรเตรียมหาพื้นที่สำหรับอพยพสัตว์เลี้ยงไปไว้ในที่สูงน้ำท่วมไม่ถึง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 18-20 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไปกับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 21-24 มิ.ย.มีฝนเพิ่มมากขึ้นและจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ สำหรับบริเวณที่มีฝนตกหนักติดต่อกันเกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะ น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเตรียมขุดลอกคูคลองและทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก นอกจากนี้ควระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชผักและไม้ผลด้วย อนึ่งในช่วงวันที่ 20-24 มิ.ย. คลื่นลมในอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรง โดยมีคลื่น สูง 2-3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-