นายประมนต์ สุธีวงศ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ชี้แจงปลุกความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติจากเหตุระเบิดในกรุงเทพ ด้านผู้ส่งออกห่วงสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศ เกรงว่าหากเกิดซ้ำจะมีผลให้ผู้ซื้อในต่างประเทศขาดความเชื่อมั่นในสถานการณ์ด้านการเมือง กกร. มีมติร่วมกันที่จะช่วยป้องกันเหตุก่อการร้าย ซึ่งจะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ โดยจะร่วมมือกันชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจกับนักลงทุนต่างชาติเกี่ยวกับระเบิดที่เกิดขึ้น พร้อมกับรับฟังข้อเสนอแนะถึงมาตรการในการดูแลความปลอดภัย การป้องกันการก่อการร้ายและปัญหาอุปสรรคที่เกี่ยวกับการลงทุนในไทย และซักซ้อมกับสมาชิกเพื่อทำความเข้าใจ และเตรียมการรับมือเหตุการณ์ในลักษณะที่ไม่ปลอดภัยและคุกคามในการทำธุรกิจ การประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจจากเหตุการณ์ดังกล่าวยังเร็วเกินไปที่จะคาดการณ์ได้ จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติก่อน แต่ในเบื้องต้นธุรกิจท่องเที่ยวค่อนข้างจะได้รับผลกระทบ เนื่องจากทางสถานทูตต่างประเทศออกประกาศเตือนประชาชนของตนให้ระมัดระวังอันตรายในการมาเที่ยวที่ประเทศไทย
ผู้ส่งออกทุกกลุ่มสินค้าได้แสดงความเป็นห่วงปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ซึ่งประเด็นที่ผู้ส่งออกให้ความสำคัญมากที่สุดคือสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศหลังเหตุการณ์ระเบิดเมื่อวันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา หากมีเหตุการณ์ระเบิดขึ้นอีกก็จะทำให้ผู้ซื้อสินค้าในต่างประเทศไม่มั่นใจความปลอดภัยในประเทศ จนไม่เดินทางมาเจรจาการค้าและเยี่ยมชมงานแสดงสินค้าที่จัดขึ้น ทำให้คำสั่งซื้อลดลง และจะกระทบเศรษฐกิจภาพรวมและการส่งออกด้วยในที่สุด ผู้ส่งออกขอให้รัฐเร่งดำเนินการเพิ่มขีดความสามารถการส่งออก ได้แก่ การลดต้นทุนให้ผู้ส่งออกที่ต้องการบุกตลาดใหม่ ๆ การสร้างความสามารถการแข่งขัน เช่น การคงสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) การดูแลปัญหาค่าเงินบาท
ประเด็นวิเคราะห์
ปี พ.ศ. 2550 จะเป็นปีที่คาดการณ์ทางเศรษฐกิจค่อนข้างยาก เพราะปัจจัยที่ไม่แน่นอนเกิดขึ้นทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ เช่น ความผันผวนทางการเงินในตลาดโลก นโยบายการเงินของประเทศต่าง ๆ และความขัดแย้งทางการเมืองอาจจะส่งผลให้รายได้จากการส่งออกและการท่องเที่ยวชะลอตัวลง รวมไปถึงการลงทุนขยายตัวลดลง เพราะนักลงทุนมีความเชื่อมั่นลดลง ดังนั้นเสถียรภาพทางการเมืองจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในขณะนี้
ที่มา: http://www.depthai.go.th