กรุงเทพ--1 มี.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
นายกิตติ วะสีนนท์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงข่าวประจำสัปดาห์ ณ ห้องประชุมสารนิเทศ โดยมีผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าว หนังสือพิมพ์ และสถานีโทรทัศน์ ร่วมรับฟังและซักถามในประเด็นต่างๆ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศร่วมประชุม Sub Regional Ministerial Meeting on Counter Terrorism
นายนิตย์ พิบูลสงคราม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะเดินทางไปยังกรุงจาร์กาตา ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อร่วมการประชุม Sub Regional Ministerial Meeting on Counter Terrorism ระหว่างวันที่ 5-6 มีนาคม 2550 ซึ่งประเทศอินโดนีเซียและออสเตรเลียร่วมกันเป็นเจ้าภาพ การประชุมครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้บุคคลในระดับนโยบายของประเทศในภูมิภาค ได้แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ปัญหาการก่อการร้ายในภูมิภาค และแนวทางในการกระชับความร่วมมือระหว่างกัน โดยคณะผู้แทนไทยซึ่งนำโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับงานด้านต่อต้านการก่อการร้าย
การประชุมนี้เป็นประชุมในวงเล็กหรือ “Sub-Regional” ของ Bali Process โดยมีอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ออสเตรเลีย และไทย เข้าร่วมเท่านั้น สำหรับ Bali Process ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในฐานะผู้ประสานงานเรื่องความร่วมมือระหว่างประเทศด้านกฎหมายภายใต้ Legal Issues Working Group และได้เป็นเจ้าภาพจัด Workshop on International Legal Cooperation against Terrorism 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 17-19 มกราคม 2548 ที่กรุงเทพฯ ซึ่งเน้นเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดน เขตอำนาจศาล และความช่วยเหลือด้านกฎหมาย และเมื่อวันที่ 27-29 มิถุนายน 2548 ที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งเน้นเรื่องหลักเกณฑ์และระเบียบวิธีปฏิบัติในการให้ความร่วมมือระหว่างประเทศด้านกฎหมาย
2. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศร่วมประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-ลาว ครั้งที่ 8 (JBC 8) และเยือนลาวอย่างเป็นทางการ
นายนิตย์ พิบูลสงคราม จะเดินทางไปร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-ลาว (Joint Boundary Commission: JBC) ครั้งที่ 8 ที่เมืองหลวงพระบาง ระหว่างวันที่ 7-8 มีนาคม 2550 และเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 8-9 มีนาคม 2550 ตามคำเชิญของนายทองลุน สีสุลิด รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สสป. ลาว
วัตถุประสงค์ของการประชุมครั้งนี้ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบการปฏิบัติงานการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกร่วมไทย-ลาวหลังจากปี 2545 เป็นต้นมา และเพื่อพิจารณาแผนการปฏิบัติงานต่อไปในปี 2550-2551 รวมทั้งพิจารณาแก้ไขปัญหาหลักเขตแดนที่คงค้างระหว่างกัน
หลังการประชุมฯ รัฐมนตรีต่างประเทศ มีกำหนดจะเดินทางจากหลวงพระบางในช่วงบ่ายของวันที่ 8 มีนาคม 2550 ไปยังนครเวียงจันทน์ เพื่อหารือข้อราชการกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ต่างประเทศ สปป.ลาวในช่วงเย็นวันดังกล่าว และในวันที่ 9 มีนาคม 2550 รัฐมนตรีต่างประเทศ กำหนดเข้าเยี่ยมคารวะและหารือข้อราชการกับนายบัวสอน บุบผาวัน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว และพลโทจูมมะลี ไชยะสอน ประธานประเทศ สปป.ลาว ด้วย
ประเด็นสำคัญที่จะมีการหารือในการเยือนครั้งนี้ ได้แก่ ความร่วมมือด้านการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน การรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนและแก้ไขปัญหาการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย การอำนวยความสะดวกด้านการสัญจรของประชาชน การส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน ความร่วมมือด้านการจัดระเบียบแรงงาน การพัฒนาเครือข่ายคมนาคมเชื่อมโยงไทย-ลาว อาทิ สะพานข้ามแม่น้ำโขงที่นครพนม-คำม่วน และที่เชียงของ-ห้วยทราย การพัฒนาสนามบินสะหวันนะเขตเพื่อการใช้ประโยชน์ร่วมไทย-ลาว และติดตามความร่วมมือในอนุภูมิภาค ได้แก่ ACMECS และสามเหลี่ยมมรกต
3. ประกาศเตือนคนไทยที่จะเดินทางไปติมอร์-เลสเต
กระทรวงการต่างประเทศประกาศเตือนคนไทยให้พิจารณาตรวจสอบสถานการณ์ก่อนจะเดินทางไปติมอร์-เลสเตในช่วงนี้ โดยเฉพาะช่วงหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีติมอร์-เลสเตในวันที่ 9 เมษายน 2550 เนื่องจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในประเทศติมอร์-เลสเต ซึ่งมีสาเหตุมาจากความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศ ประกอบกับเกิดภาวะขาดแคลนอาหาร อันทำให้มีการประท้วงรัฐบาล มีการก่อกวนในกรุงดิลี เมืองหลวงของติมอร์-เลสเต และมีการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบกับกองกำลังนานาชาติ (ภายใต้การนำของออสเตรเลีย) ที่เข้าไปรักษาความสงบเรียบร้อยในประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศและสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงดิลี ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และได้เตรียมแผนอพยพไว้แล้ว ซึ่งจะสามารถอพยพคนไทยทุกคนกลับประเทศได้โดยทันที หากจำเป็น สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลสถานการณ์ล่าสุดได้ที่ กองเอเชียตะวันออก 1 กรมเอเชียตะวันออก โทร. 0 2643 5195 หรือที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงดิลี หมายเลขโทรศัพท์ สำนักงาน (670) 3310609, เอกอัครราชทูต (670) 7246275, ที่ปรึกษา (670) 7237335
4. โครงการอบรมนักศึกษาไทยมุสลิมเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลของไทย
กระทรวงการต่างประเทศ โดยกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร ร่วมกับคณะสหเวชศาสตร์และศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะจัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการแก่นักศึกษาไทยมุสลิมเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลไทย ณ กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ ระหว่างวันที่ 2-10 มีนาคม 2550 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมด้านบุคลากรสำหรับรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลไทย เพิ่มโอกาสและแนะนำลู่ทางการประกอบอาชีพและธุรกิจในอนาคตที่เกี่ยวเนื่องกับศาสนาอิสลามให้แก่นักศึกษาไทยมุสลิม นอกเหนือจากทางด้านศาสนา และเป็นการสร้างเครือข่ายนักศึกษาไทยมุสลิมในประเทศเป้าหมาย
5. รายงานข่าวเกี่ยวกับท่าทีของรัฐมนตรีเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารต่อโครงการนิวเคลียร์ในอิหร่าน
นายกิตติ วะสีนนท์ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนในประเด็นที่เกี่ยวกับสำนักพิมพ์อิหร่านที่อ้างคำพูดของนายสิทธิชัย โภไคยอุดม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสาร ในการพบหารือกับเอกอัครราชทูตอิหร่านประจำประเทศไทย ในทำนองว่า นายสิทธิชัยฯ ให้การสนับสนุนโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ว่า เป็นการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง นายสิทธิชัยฯ ได้แถลงอย่างเป็นทางการว่า ตนได้พบปะกับเอกอัครราชทูตอิหร่านจริง และได้แสดงท่าทีสนับสนุนการพัฒนาพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ ที่เป็นพลังงานทางเลือกที่สำคัญ แต่ไม่ได้สนับสนุนการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่านแต่อย่างใด
นายกิตติฯ ได้กล่าวด้วยว่า ท่าทีของนายสิทธิชัยฯ สอดคล้องกับนโยบายของประเทศไทยในการสนับสนุนการพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ และคัดค้านการพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์เพื่อวัตถุประสงค์ทางการทหาร ทั้งนี้ ประเทศไทยยึดมั่นปฏิบัติตามพันธะกรณีของข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่ 1737 ที่กำหนดมาตรการลงโทษอิหร่านจากโครงการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่าน
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
นายกิตติ วะสีนนท์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงข่าวประจำสัปดาห์ ณ ห้องประชุมสารนิเทศ โดยมีผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าว หนังสือพิมพ์ และสถานีโทรทัศน์ ร่วมรับฟังและซักถามในประเด็นต่างๆ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศร่วมประชุม Sub Regional Ministerial Meeting on Counter Terrorism
นายนิตย์ พิบูลสงคราม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะเดินทางไปยังกรุงจาร์กาตา ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อร่วมการประชุม Sub Regional Ministerial Meeting on Counter Terrorism ระหว่างวันที่ 5-6 มีนาคม 2550 ซึ่งประเทศอินโดนีเซียและออสเตรเลียร่วมกันเป็นเจ้าภาพ การประชุมครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้บุคคลในระดับนโยบายของประเทศในภูมิภาค ได้แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ปัญหาการก่อการร้ายในภูมิภาค และแนวทางในการกระชับความร่วมมือระหว่างกัน โดยคณะผู้แทนไทยซึ่งนำโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับงานด้านต่อต้านการก่อการร้าย
การประชุมนี้เป็นประชุมในวงเล็กหรือ “Sub-Regional” ของ Bali Process โดยมีอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ออสเตรเลีย และไทย เข้าร่วมเท่านั้น สำหรับ Bali Process ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในฐานะผู้ประสานงานเรื่องความร่วมมือระหว่างประเทศด้านกฎหมายภายใต้ Legal Issues Working Group และได้เป็นเจ้าภาพจัด Workshop on International Legal Cooperation against Terrorism 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 17-19 มกราคม 2548 ที่กรุงเทพฯ ซึ่งเน้นเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดน เขตอำนาจศาล และความช่วยเหลือด้านกฎหมาย และเมื่อวันที่ 27-29 มิถุนายน 2548 ที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งเน้นเรื่องหลักเกณฑ์และระเบียบวิธีปฏิบัติในการให้ความร่วมมือระหว่างประเทศด้านกฎหมาย
2. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศร่วมประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-ลาว ครั้งที่ 8 (JBC 8) และเยือนลาวอย่างเป็นทางการ
นายนิตย์ พิบูลสงคราม จะเดินทางไปร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-ลาว (Joint Boundary Commission: JBC) ครั้งที่ 8 ที่เมืองหลวงพระบาง ระหว่างวันที่ 7-8 มีนาคม 2550 และเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 8-9 มีนาคม 2550 ตามคำเชิญของนายทองลุน สีสุลิด รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สสป. ลาว
วัตถุประสงค์ของการประชุมครั้งนี้ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบการปฏิบัติงานการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกร่วมไทย-ลาวหลังจากปี 2545 เป็นต้นมา และเพื่อพิจารณาแผนการปฏิบัติงานต่อไปในปี 2550-2551 รวมทั้งพิจารณาแก้ไขปัญหาหลักเขตแดนที่คงค้างระหว่างกัน
หลังการประชุมฯ รัฐมนตรีต่างประเทศ มีกำหนดจะเดินทางจากหลวงพระบางในช่วงบ่ายของวันที่ 8 มีนาคม 2550 ไปยังนครเวียงจันทน์ เพื่อหารือข้อราชการกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ต่างประเทศ สปป.ลาวในช่วงเย็นวันดังกล่าว และในวันที่ 9 มีนาคม 2550 รัฐมนตรีต่างประเทศ กำหนดเข้าเยี่ยมคารวะและหารือข้อราชการกับนายบัวสอน บุบผาวัน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว และพลโทจูมมะลี ไชยะสอน ประธานประเทศ สปป.ลาว ด้วย
ประเด็นสำคัญที่จะมีการหารือในการเยือนครั้งนี้ ได้แก่ ความร่วมมือด้านการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน การรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนและแก้ไขปัญหาการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย การอำนวยความสะดวกด้านการสัญจรของประชาชน การส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน ความร่วมมือด้านการจัดระเบียบแรงงาน การพัฒนาเครือข่ายคมนาคมเชื่อมโยงไทย-ลาว อาทิ สะพานข้ามแม่น้ำโขงที่นครพนม-คำม่วน และที่เชียงของ-ห้วยทราย การพัฒนาสนามบินสะหวันนะเขตเพื่อการใช้ประโยชน์ร่วมไทย-ลาว และติดตามความร่วมมือในอนุภูมิภาค ได้แก่ ACMECS และสามเหลี่ยมมรกต
3. ประกาศเตือนคนไทยที่จะเดินทางไปติมอร์-เลสเต
กระทรวงการต่างประเทศประกาศเตือนคนไทยให้พิจารณาตรวจสอบสถานการณ์ก่อนจะเดินทางไปติมอร์-เลสเตในช่วงนี้ โดยเฉพาะช่วงหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีติมอร์-เลสเตในวันที่ 9 เมษายน 2550 เนื่องจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในประเทศติมอร์-เลสเต ซึ่งมีสาเหตุมาจากความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศ ประกอบกับเกิดภาวะขาดแคลนอาหาร อันทำให้มีการประท้วงรัฐบาล มีการก่อกวนในกรุงดิลี เมืองหลวงของติมอร์-เลสเต และมีการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบกับกองกำลังนานาชาติ (ภายใต้การนำของออสเตรเลีย) ที่เข้าไปรักษาความสงบเรียบร้อยในประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศและสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงดิลี ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และได้เตรียมแผนอพยพไว้แล้ว ซึ่งจะสามารถอพยพคนไทยทุกคนกลับประเทศได้โดยทันที หากจำเป็น สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลสถานการณ์ล่าสุดได้ที่ กองเอเชียตะวันออก 1 กรมเอเชียตะวันออก โทร. 0 2643 5195 หรือที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงดิลี หมายเลขโทรศัพท์ สำนักงาน (670) 3310609, เอกอัครราชทูต (670) 7246275, ที่ปรึกษา (670) 7237335
4. โครงการอบรมนักศึกษาไทยมุสลิมเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลของไทย
กระทรวงการต่างประเทศ โดยกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร ร่วมกับคณะสหเวชศาสตร์และศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะจัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการแก่นักศึกษาไทยมุสลิมเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลไทย ณ กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ ระหว่างวันที่ 2-10 มีนาคม 2550 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมด้านบุคลากรสำหรับรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลไทย เพิ่มโอกาสและแนะนำลู่ทางการประกอบอาชีพและธุรกิจในอนาคตที่เกี่ยวเนื่องกับศาสนาอิสลามให้แก่นักศึกษาไทยมุสลิม นอกเหนือจากทางด้านศาสนา และเป็นการสร้างเครือข่ายนักศึกษาไทยมุสลิมในประเทศเป้าหมาย
5. รายงานข่าวเกี่ยวกับท่าทีของรัฐมนตรีเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารต่อโครงการนิวเคลียร์ในอิหร่าน
นายกิตติ วะสีนนท์ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนในประเด็นที่เกี่ยวกับสำนักพิมพ์อิหร่านที่อ้างคำพูดของนายสิทธิชัย โภไคยอุดม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสาร ในการพบหารือกับเอกอัครราชทูตอิหร่านประจำประเทศไทย ในทำนองว่า นายสิทธิชัยฯ ให้การสนับสนุนโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ว่า เป็นการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง นายสิทธิชัยฯ ได้แถลงอย่างเป็นทางการว่า ตนได้พบปะกับเอกอัครราชทูตอิหร่านจริง และได้แสดงท่าทีสนับสนุนการพัฒนาพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ ที่เป็นพลังงานทางเลือกที่สำคัญ แต่ไม่ได้สนับสนุนการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่านแต่อย่างใด
นายกิตติฯ ได้กล่าวด้วยว่า ท่าทีของนายสิทธิชัยฯ สอดคล้องกับนโยบายของประเทศไทยในการสนับสนุนการพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ และคัดค้านการพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์เพื่อวัตถุประสงค์ทางการทหาร ทั้งนี้ ประเทศไทยยึดมั่นปฏิบัติตามพันธะกรณีของข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่ 1737 ที่กำหนดมาตรการลงโทษอิหร่านจากโครงการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่าน
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-