แท็ก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายสมัคร สุนทรเวช
พรรคประชาธิปัตย์
พรรคพลังประชาชน
กระทรวงมหาดไทย
พิพิธภัณฑ์เด็ก
วันนี้(15ส.ค.50) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกสำนักเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์แถลงว่าจากภาพข่าวที่ นายสมัคร สุนทรเวช ไปร่วมประชุมพรรคพลังประชาชนท่ามกลางการแสดงความยินดีของสมาชิกพรรคพลังประชาชนและได้ให้สัมภาษณ์กล่าวพาดพิงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า มีคนเล่าให้ฟังว่าพอนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รู้ข่าวว่าผมมาอยู่กับกลุ่มไทยรักไทยนายอภิสิทธิ์ ฯถึงกับหน้าซีด ” นั้น จึงขอชี้แจงว่านายสมัครฯ ควรจะไปเช็คข้อมูลแหล่งข่าวของตนเองให้ดีเสียก่อนว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรเพราะเริ่มต้น การกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ก็นำความเท็จมาให้สัมภาษณ์เสียแล้ว จะทำให้ความเป็นผู้นำพรรค พลังประชาชนไม่สง่างาม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่เคยแสดงความหวาดกลัวต่อการเข้าสู่ตำแหน่งของนายสมัคร แต่อย่างใด เพราะทราบดีว่าใครก็ตามที่มาเป็นหัวหน้ากลุ่มไทยรักไทยย่อมเป็นนอมินีหรือตัวแทนของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทุกคน และทำการเมืองภายใต้การบงการและชี้นำของ พ.ต.ท.ทักษิณฯแทบทั้งสิ้น นายสมัคร สุนทรเวช เองถ้าเป็นยารักษาโรคก็เป็นยา ที่หมดอายุแล้วรักษาโรคไม่หายแล้วกินเข้าไปยังเป็นพิษเป็นภัยต่อร่างกายอีกด้วย ในฐานะสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์คนหนึ่งที่เป็นโฆษกสำนักเลือกตั้ง ขอแสดงความยินดีกับคุณสมัครฯที่มีความต้องการให้ฝันของตนเองเป็นจริงโดยใช้บันได 3ขั้นไต่เต้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามที่ได้ประกาศไว้ในอดีต ซึ่งก่อนหน้านั้นหลายคนเคยคิดว่าชีวิตทางการเมืองของนายสมัครฯต้องจบลงแค่เพียงผู้ว่าฯกทม.เท่านั้น แต่วันนี้เมื่อมีคนอาสาจะเป็นนั่งร้านหรือบันไดให้นายสมัครเดินไปสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ก็เป็นที่น่ายินดีด้วย เพียงแต่บันไดที่นายสมัครจะก้าวเดินนั้นเป็นบันไดผุๆ อาจไม่สามารถที่จะทำให้นายสมัครฯ ก้าวเดินไปสู่เป้าหมายได้
นายเทพไท กล่าวต่อไปว่าในฐานะอดีตผู้นำนักศึกษาคนหนึ่งที่เคยดำรงตำแหน่งนายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง รู้สึกเศร้าใจเมื่อปรากฎภาพผู้นำนักศึกษารุ่นพี่จับมือกอดกันอย่างสนิทสนมกับนายสมัครฯทั้งที่ในอดีตเคยขัดแย้งทางแนวความคิดถึงขั้นต้องเสียเลือด เสียเนื้อประหัตประหารซึ่งกันและกัน อยากจะให้อดีตผู้นำนักศึกษาเหล่านี้คิดถึงเกียรติภูมิของขบวนการนักศึกษาไทยบ้าง อย่างน้อยก็ควรที่จะกลับไปพลิกประวัติศาสตร์ตอน 6ตุลา 2519 ว่าคนชื่อสมัคร สุนทรเวช เคยเป็นหนึ่งในฆาตกร 6 ตุลา จริงหรือไม่และมือที่เคยเปรอะเปื้อนได้ล้างสะอาดแล้วหรือยังเพราะประวัติศาสตร์ยังไม่ได้ชำระสังคมยังคลางแคลงใจอยู่แต่ขอชื่นชมนายแพทย์พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดชหรือหมอมิ้ง ที่ประกาศยุติบทบาททางการเมืองหลังมีข่าวว่านายสมัคร สุนทรเวชมาเป็นหัวหน้ากลุ่มไทยรักไทย แต่คนอื่น ๆยังให้สัมภาษณ์ยกย่อง นายสมัคร สุนทรเวช อย่างเลอเลิศเสมือนไม่เคยมีข้อขัดแย้งทางอุดมการณ์ในอดีตมาก่อนเลย นายเทพไท กล่าวในที่สุด
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 15 ส.ค. 2550--จบ--
นายเทพไท กล่าวต่อไปว่าในฐานะอดีตผู้นำนักศึกษาคนหนึ่งที่เคยดำรงตำแหน่งนายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง รู้สึกเศร้าใจเมื่อปรากฎภาพผู้นำนักศึกษารุ่นพี่จับมือกอดกันอย่างสนิทสนมกับนายสมัครฯทั้งที่ในอดีตเคยขัดแย้งทางแนวความคิดถึงขั้นต้องเสียเลือด เสียเนื้อประหัตประหารซึ่งกันและกัน อยากจะให้อดีตผู้นำนักศึกษาเหล่านี้คิดถึงเกียรติภูมิของขบวนการนักศึกษาไทยบ้าง อย่างน้อยก็ควรที่จะกลับไปพลิกประวัติศาสตร์ตอน 6ตุลา 2519 ว่าคนชื่อสมัคร สุนทรเวช เคยเป็นหนึ่งในฆาตกร 6 ตุลา จริงหรือไม่และมือที่เคยเปรอะเปื้อนได้ล้างสะอาดแล้วหรือยังเพราะประวัติศาสตร์ยังไม่ได้ชำระสังคมยังคลางแคลงใจอยู่แต่ขอชื่นชมนายแพทย์พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดชหรือหมอมิ้ง ที่ประกาศยุติบทบาททางการเมืองหลังมีข่าวว่านายสมัคร สุนทรเวชมาเป็นหัวหน้ากลุ่มไทยรักไทย แต่คนอื่น ๆยังให้สัมภาษณ์ยกย่อง นายสมัคร สุนทรเวช อย่างเลอเลิศเสมือนไม่เคยมีข้อขัดแย้งทางอุดมการณ์ในอดีตมาก่อนเลย นายเทพไท กล่าวในที่สุด
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 15 ส.ค. 2550--จบ--