วันนี้ (12 พค.50) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการรณรงค์ต่อต้านรัฐบาลไทยขององค์กร USA for innovation ว่า ตนมีความเห็นต่อรัฐบาลไทยว่าจะต้องใช้มาตรการที่เข้มข้นกว่าปัจจุบันในการตอบโต้ โดยเฉพาะกรณีที่องค์กรดังกล่าวนั้นมีการเปิดเวปไซต์ Thailies ซึ่งเท่ากับเป็นการสบประมาทและดูถูกคนไทยและประเทศไทยว่าเป็นประเทศโกหก คนโกหก นอกจากนั้นแล้วยังได้มีการโฆษณาลงในสื่อที่ต่างประเทศและสื่อในประเทศไทย ด้วยข้อมูลอันเป็นการบิดเบือน
นายอลงกรณ์เห็นว่า ทางการของไทยจะต้องใช้มาตรการที่เข้มข้น และจะต้องส่งสัญญาณที่แรงไปถึงบริษัทยาซึ่งเป็นผู้สนับสนุนองค์กรดังกล่าวในการเคลื่อนไหวต่อต้านการดำเนินการมาตรการ CL ของประเทศไทย และหากยังดูหมิ่น ดูแคลน หรือข่มขู่คนไทยและประเทศไทย ด้วยการใส่ร้ายป้ายสี และโกหกบิดเบือน ทำให้เกิดความเข้าใจต่อประเทศไทย คนไทย ในสายตาสาธารณชนโดยทั่วไป นายอลงกรณ์เสนอให้ใช้มาตรการบอยคอตบริษัทยา ซึ่งได้ว่าจ้างบริษัทประชาสัมพันธ์และบริษัทลอบบี้ยิสต์เหล่านี้ หากว่าบริษัทยาเหล่านั้นไม่ยุติการเป็นสปอนเซอร์ให้กับองค์กร ซึ่งแสดงตนเป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศไทยอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ นายอลงกรณ์ ยังได้ขอให้นายนพดล ปัทมะ นำสัญญายกเลิกการว่าจ้างบริษัทลอบบี้ยิสต์ และบริษัทประชาสัมพันธ์ อีเดลแมน มาแสดงต่อสาธารณชนคนไทย ว่าได้ยกเลิกไปแล้วจริงหรือไม่ เพราะเรื่องนี้ได้บานปลายกลายเป็นเรื่องที่กระทบต่อภาพลักษณ์และศักดิ์ศรีของประเทศไทย
พร้อมกันนี้นายอลงกรณ์ได้เรียกร้องไปยังสื่อมวลชนในประเทศไทย ได้ไตร่ตรองต่อการลงโฆษณาของ USA for innovation ด้วยการขอตรวจสอบความเป็นจริงและความมีอยู่จริงของข้อมูลดังกล่าวก่อนที่จะรับลงโฆษณา และแม้ว่าจะเป็นสิทธิเสรีภาพในทางธุรกิจที่จะลงโฆษณาหรือไม่ลงโฆษณาก็ตาม แต่น่าจะมีเงื่อนไขให้องค์กรดังกล่าว หรือผู้ว่าจ้างในการลงโฆษณาแสดงหลักฐานความเป็นจริงของข้อมูลที่นำมาลงเพราะโฆษณาดังกล่าวก่อให้เกิดผลกระทบต่อสถานะของประเทศไทย
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 12 พ.ค. 2550--จบ--
นายอลงกรณ์เห็นว่า ทางการของไทยจะต้องใช้มาตรการที่เข้มข้น และจะต้องส่งสัญญาณที่แรงไปถึงบริษัทยาซึ่งเป็นผู้สนับสนุนองค์กรดังกล่าวในการเคลื่อนไหวต่อต้านการดำเนินการมาตรการ CL ของประเทศไทย และหากยังดูหมิ่น ดูแคลน หรือข่มขู่คนไทยและประเทศไทย ด้วยการใส่ร้ายป้ายสี และโกหกบิดเบือน ทำให้เกิดความเข้าใจต่อประเทศไทย คนไทย ในสายตาสาธารณชนโดยทั่วไป นายอลงกรณ์เสนอให้ใช้มาตรการบอยคอตบริษัทยา ซึ่งได้ว่าจ้างบริษัทประชาสัมพันธ์และบริษัทลอบบี้ยิสต์เหล่านี้ หากว่าบริษัทยาเหล่านั้นไม่ยุติการเป็นสปอนเซอร์ให้กับองค์กร ซึ่งแสดงตนเป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศไทยอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ นายอลงกรณ์ ยังได้ขอให้นายนพดล ปัทมะ นำสัญญายกเลิกการว่าจ้างบริษัทลอบบี้ยิสต์ และบริษัทประชาสัมพันธ์ อีเดลแมน มาแสดงต่อสาธารณชนคนไทย ว่าได้ยกเลิกไปแล้วจริงหรือไม่ เพราะเรื่องนี้ได้บานปลายกลายเป็นเรื่องที่กระทบต่อภาพลักษณ์และศักดิ์ศรีของประเทศไทย
พร้อมกันนี้นายอลงกรณ์ได้เรียกร้องไปยังสื่อมวลชนในประเทศไทย ได้ไตร่ตรองต่อการลงโฆษณาของ USA for innovation ด้วยการขอตรวจสอบความเป็นจริงและความมีอยู่จริงของข้อมูลดังกล่าวก่อนที่จะรับลงโฆษณา และแม้ว่าจะเป็นสิทธิเสรีภาพในทางธุรกิจที่จะลงโฆษณาหรือไม่ลงโฆษณาก็ตาม แต่น่าจะมีเงื่อนไขให้องค์กรดังกล่าว หรือผู้ว่าจ้างในการลงโฆษณาแสดงหลักฐานความเป็นจริงของข้อมูลที่นำมาลงเพราะโฆษณาดังกล่าวก่อให้เกิดผลกระทบต่อสถานะของประเทศไทย
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 12 พ.ค. 2550--จบ--