การให้ความคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถช่วงเทศกาลสงกรานต์

ข่าวเศรษฐกิจ Monday April 9, 2007 15:20 —คปภ.

          การใช้รถยนต์เดินทางไกล โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ ซึ่งมีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องมีความระมัดระวังเป็นอย่างมากและต้องดูแลสุขภาพของตนเอง นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอและไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ รวมทั้งก่อนการเดินทางควรตรวจสอบสภาพรถว่าอยู่ในสภาพที่ปลอดภัยหรือไม่ และที่สำคัญตรวจสอบกรมธรรม์ประกันภัยรถว่าหมดอายุหรือยัง
นางจันทรา บูรณฤกษ์ อธิบดีกรมการประกันภัย เปิดเผยว่า ในช่วงสงกรานต์ที่จะถึงนี้ กรมการประกันภัย ได้มอบหมายให้สำนักงานประกันภัยจังหวัดทุกจังหวัดเตรียมความพร้อมในการบริการประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อให้พร้อมรับมือกับปัญหาอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นในต่างจังหวัด และเตรียมเจ้าหน้าที่ประจำสายด่วนประกันภัย 1186 เพื่อบริการให้คำปรึกษาและคำแนะนำแก่ประชาชนในเรื่องการประกันภัยตลอดวันหยุดช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ อย่างไรก็ตาม หากเกิดอุบัติเหตุจากรถขึ้น ขอให้ผู้ประสบภัยหรือผู้พบเห็นเหตุการณ์ รีบนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดเพื่อรับการรักษาพยาบาลโดยเร็วและไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย โดยแจ้งว่าเป็นผู้บาดเจ็บโดยอุบัติเหตุจากรถ และควรตรวจดูเครื่องหมายประกันภัย พ.ร.บ. ที่ติดอยู่หน้ารถด้วยว่ารถคันที่ก่อให้เกิดเหตุมีประกันภัยหรือไม่ หรือมีประกันภัยไว้กับบริษัทอะไร พร้อมแจ้งข้อมูลให้โรงพยาบาลและบริษัทประกันภัยทราบ
อธิบดีกรมการประกันภัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ประสบภัยอยู่ในรถคันใด ให้ขอรับค่าเสียหายเบื้องต้นได้จากบริษัทประกันภัยที่รถคันนั้นทำประกันภัยไว้ หรือขอรับจากกองทุนทดแทนผู้ประสบภัยเฉพาะค่าเสียหายเบื้องต้นกรณีที่อุบัติเหตุเกิดจากรถที่ไม่มีประกันภัยหรือบริษัทประกันภัยไม่จ่ายค่าเสียหายเบื้องต้น ดังนี้ กรณีบาดเจ็บจ่ายตามจริงไม่เกิน 15,000 บาท หากเสียชีวิตทันทีจ่าย 35,000 บาท และกรณีบาดเจ็บต่อมาเสียชีวิต จ่ายรวมกันตามจริงไม่เกิน 50,000 บาท สำหรับค่าเสียหายส่วนที่เกินจากค่าเสียหายเบื้องต้น จะได้รับหลังจากมีการพิสูจน์ความถูกผิดเรียบร้อยแล้ว ซึ่งการขอรับค่าเสียหายเบื้องต้นนี้ ผู้ประสบภัยหรือทายาทจะได้รับภายใน 7 วันนับจากวันร้องขอ และสำหรับการขอรับค่าเสียหายเบื้องต้นจากกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย หากเอกสารครบถ้วนถูกต้องสมบูรณ์พร้อมอนุมัติ ผู้ประสบภัยจะได้รับเงินภายใน 25 นาที จากเดิมที่กำหนดไว้ภายใน 1 ชั่วโมง 10 นาที
ที่มา: http://www.doi.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ