แท็ก
มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
องอาจ คล้ามไพบูลย์
พรรคประชาธิปัตย์
มหาวิทยาลัยบูรพา
ร่างรัฐธรรมนูญ
วันนี้ 11 กุมภาพันธ์ 2550 นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการยกร่างรัฐธรรมนูญว่าขณะนี้หลายฝ่ายได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์นั้น เห็นว่าต้องการเห็นการจัดทำโมเดลของรัฐธรรมนูญฉบับปี 50 ที่จะทำให้ประเทศไทยนั้นเป็นประชาธิปไตยมากกว่าในอดีตที่ผ่านมา โดยมีตัวรัฐธรรมนูญที่กำลังร่างนั้นเป็นเครื่องมือที่นำไปสู่การมีประชาธิปไตยมากกว่าเดิม นอกจากนั้นยังมีความเห็นว่าประเทศไทยควรปกครองด้วยกฎหมาย ไม่ใช่ด้วยบุคคลเป็นหลัก เพราะตัวบุคคล หรือคนนั้นมักจะใช้อำนาจเกินขอบเขต
นอกเหนือจากนั้นนายองอาจเห็นว่ารัฐธรรมนูญควรจะจำกัดอำนาจของผู้มีอำนาจทางการเมืองให้เหลือน้อย หรือเหลืออยู่ในวงจำกัด และไปเพิ่มอำนาจของประชาชนให้มากขึ้น เพื่อให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม มีบทบาททางการเมืองมากขึ้น
“สิ่งที่ผ่านมาเราเห็นว่าพอเราให้อำนาจกับบุคคลมาก โดยหวังว่าบุคคลนั้นซึ่งผ่านการเลือกตั้งมาจากประชาชนตามกระบวนการประชาธิปไตย จะใช้อำนาจด้วยความเป็นธรรม แต่ปรากฎว่าได้พิสูจน์มาหลายครั้งหลายหนว่ามักจะใช้อำนาจเกิดขอบเขตตลอดเวลา” นายองอาจ กล่าว
อีกส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญเช่นกันคือปัญหาในทางการเมืองส่วนหนึ่งคือปัญหาที่เกิดขึ้นจากวงจรความชั่วร้าย ซึ่งนายองอาจเรียกว่า “ธนกิจการเมือง” คือการใช้เงินซื้อเสียงเข้ามาสู่อำนาจ และใช้อำนาจที่มีอยู่ในฐานะผู้บริหารประเทศนั้น ไปทุจริตคอร์รัปชั่น และนำเงินที่ได้จากการทุจริต คอร์รัปชั่นนั้นไปซื้อเสียง เมื่อมีการเลือกตั้งและกลับเข้ามาสู่อำนาจ อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งสร้างปัญหาให้กับประเทศชาติบ้านเมืองอย่างมากในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา และทำให้การเมืองในระบอบประชาธิปไตยนั้นไม่สามารถเดินหน้าไปได้ตามปกติ
“รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่กำลังร่างในขณะนี้ ควรกำหนดวิธีการต่าง ๆ เพื่อเป็นหลักในการป้องกันไม่ให้เกิด ธนกิจการเมืองขึ้นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของเราในขณะนี้ ผมคิดว่าวันนี้ได้พิสูจน์ชัดเจนแล้วว่า ธนกิจการเมืองนั้นได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติบ้านเมืองอย่างมาก แต่ได้ไปสร้างความร่ำรวยให้กับนักการเมืองไม่กี่คน ไม่กี่กลุ่มในบ้านเมืองเท่านั้น แต่ความเสียหายที่ประเทศชาติบ้านเมืองนั้น ไม่สามารถประเมินเป็นตัวเงินได้” นายองอาจกล่าว
นอกจากนี้นายองอาจยังเห็นว่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญอีกประเด็นหนึ่งที่ควรระบุไว้ในการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้คือ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตของนักการเมือง ที่ทำความเสียหายให้กับประเทศชาติบ้านเมือง และเอาผิดค่อนข้างยาก แต่เมื่อใดที่เราสามารถเอาผิดกับนักการเมืองเหล่านี้ได้แล้ว ก็ควรเสนอให้ความผิดที่เกิดขึ้นจากการทุจริตของนักการเมืองนั้นต้องไม่มีอายุความ และสามารถดำเนินการทางกฎหมายเอาผิดได้ชั่วชีวิต ตราบใดที่นักการเมืองคนนั้นยังมีชีวิตอยู่และยังมีการตรวจพบ หรือมีหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อเอาผิดตามกฎหมายได้ ก็สามารถที่จะดำเนินการลงโทษผู้นั้นในความผิดที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตได้ตลอดเวลา
“ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้ การให้เอาผิดในการทุจริตของนักการเมืองได้โดยไม่มีอายุความนั้นจะเป็นปัจจัยสำคัญส่วนหนึ่งในการช่วยทำให้นักการเมืองที่คิดทุจริต คิดมิชอบ จะต้องทำงานด้วยความยากลำบากมากขึ้น และต้องคิดมากขึ้น และผมคิดว่าเรื่องนี้ก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จะมีส่วนในการป้องกันนักการเมืองไม่ให้ทุจริต หรือทุจริตน้อยลง อย่างน้อยสิ่งนี้จะทำให้เขารู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้จะติดตัวเขาไปจนวันตาย” นายองอาจ กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 11 ก.พ. 2550--จบ--
นอกเหนือจากนั้นนายองอาจเห็นว่ารัฐธรรมนูญควรจะจำกัดอำนาจของผู้มีอำนาจทางการเมืองให้เหลือน้อย หรือเหลืออยู่ในวงจำกัด และไปเพิ่มอำนาจของประชาชนให้มากขึ้น เพื่อให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม มีบทบาททางการเมืองมากขึ้น
“สิ่งที่ผ่านมาเราเห็นว่าพอเราให้อำนาจกับบุคคลมาก โดยหวังว่าบุคคลนั้นซึ่งผ่านการเลือกตั้งมาจากประชาชนตามกระบวนการประชาธิปไตย จะใช้อำนาจด้วยความเป็นธรรม แต่ปรากฎว่าได้พิสูจน์มาหลายครั้งหลายหนว่ามักจะใช้อำนาจเกิดขอบเขตตลอดเวลา” นายองอาจ กล่าว
อีกส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญเช่นกันคือปัญหาในทางการเมืองส่วนหนึ่งคือปัญหาที่เกิดขึ้นจากวงจรความชั่วร้าย ซึ่งนายองอาจเรียกว่า “ธนกิจการเมือง” คือการใช้เงินซื้อเสียงเข้ามาสู่อำนาจ และใช้อำนาจที่มีอยู่ในฐานะผู้บริหารประเทศนั้น ไปทุจริตคอร์รัปชั่น และนำเงินที่ได้จากการทุจริต คอร์รัปชั่นนั้นไปซื้อเสียง เมื่อมีการเลือกตั้งและกลับเข้ามาสู่อำนาจ อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งสร้างปัญหาให้กับประเทศชาติบ้านเมืองอย่างมากในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา และทำให้การเมืองในระบอบประชาธิปไตยนั้นไม่สามารถเดินหน้าไปได้ตามปกติ
“รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่กำลังร่างในขณะนี้ ควรกำหนดวิธีการต่าง ๆ เพื่อเป็นหลักในการป้องกันไม่ให้เกิด ธนกิจการเมืองขึ้นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของเราในขณะนี้ ผมคิดว่าวันนี้ได้พิสูจน์ชัดเจนแล้วว่า ธนกิจการเมืองนั้นได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติบ้านเมืองอย่างมาก แต่ได้ไปสร้างความร่ำรวยให้กับนักการเมืองไม่กี่คน ไม่กี่กลุ่มในบ้านเมืองเท่านั้น แต่ความเสียหายที่ประเทศชาติบ้านเมืองนั้น ไม่สามารถประเมินเป็นตัวเงินได้” นายองอาจกล่าว
นอกจากนี้นายองอาจยังเห็นว่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญอีกประเด็นหนึ่งที่ควรระบุไว้ในการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้คือ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตของนักการเมือง ที่ทำความเสียหายให้กับประเทศชาติบ้านเมือง และเอาผิดค่อนข้างยาก แต่เมื่อใดที่เราสามารถเอาผิดกับนักการเมืองเหล่านี้ได้แล้ว ก็ควรเสนอให้ความผิดที่เกิดขึ้นจากการทุจริตของนักการเมืองนั้นต้องไม่มีอายุความ และสามารถดำเนินการทางกฎหมายเอาผิดได้ชั่วชีวิต ตราบใดที่นักการเมืองคนนั้นยังมีชีวิตอยู่และยังมีการตรวจพบ หรือมีหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อเอาผิดตามกฎหมายได้ ก็สามารถที่จะดำเนินการลงโทษผู้นั้นในความผิดที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตได้ตลอดเวลา
“ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้ การให้เอาผิดในการทุจริตของนักการเมืองได้โดยไม่มีอายุความนั้นจะเป็นปัจจัยสำคัญส่วนหนึ่งในการช่วยทำให้นักการเมืองที่คิดทุจริต คิดมิชอบ จะต้องทำงานด้วยความยากลำบากมากขึ้น และต้องคิดมากขึ้น และผมคิดว่าเรื่องนี้ก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จะมีส่วนในการป้องกันนักการเมืองไม่ให้ทุจริต หรือทุจริตน้อยลง อย่างน้อยสิ่งนี้จะทำให้เขารู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้จะติดตัวเขาไปจนวันตาย” นายองอาจ กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 11 ก.พ. 2550--จบ--