ผู้เขียนที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมกิจกรรมในการสัมมนา เชิงปฏิบัติการเรื่อง ผ้าอ้อมรักษ์สิ่งแวดล้อม จัดโดยสหกรณ์กรีนเนท จำกัดและมูลนิธิสายใยแผ่นดิน เมื่อปลายปี2549 ที่ผ่านมา ทำให้ได้มีโอกาสรับฟังผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆได้มาเล่าถึงคุณประโยชน์ในการเลือกใช้ผ้าอ้อมจากเส้นใยฝ้ายย้อมสีธรรมชาติแก่ทารกตัวน้อยๆ เพื่อให้ตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจากมนุษย์ที่นอกจากรู้เท่าไม่ถึงการแล้วยังทำร้ายเด็กทารกที่ไม่มีโอกาสเลือก แถมด้วยพฤติกรรมด้านลบที่ก่อตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว
คงไม่ปฏิเสธกันว่าเราๆท่านๆทุกคนได้เคยใช้ผ้าอ้อมกันแล้วทั้งนั้น เมื่อเริ่มจำความได้ เคยเห็นแม่เอาผ้าถุงเก่าของแม่มาฉีกเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม แม่บอกว่าแม่ต้องเตรียมผ้าอ้อมไว้ให้น้อง เพราะท้องแม่โตมากใกล้คลอดน้องเต็มทนแล้ว ผ้าอ้อมของน้องจึงมีหลายสีหลายจากลายผ้าถุงเก่าของแม่ทั้งสิ้น ตอนผู้เขียนโผล่ออกจากท้องแม่ ก็คงมีผ้าอ้อมสีลายๆจากผ้าถุงของแม่เหมือนของน้องเช่นกัน เพราะเห็นแม่รื้อเอาออกมาจากตู้เสื้อผ้ามากองรวมไว้กับผ้าอ้อมของน้อง พอน้องคลอดออกจากท้องแม่ เห็นแม่เอาผ้าอ้อมที่เตรียมเหล่านั้นมาใช้รองให้น้องนอน เอาห่อตัวน้องเป็นกางเกง เป็นผ้ากันเปื้อน เป็นหมวก เป็นผ้าเช็ดตัว ห่อขวดนม ฯลฯ เป็นต้น ผ้าอ้อมของแม่หอมนุ่มทุกผืน ทั้งซับน้ำฉี่น้ำลายได้ดีทีเดียว พอผู้เขียนโตขึ้นเรื่อยๆก็เห็นมีผ้าอ้อมทำจากผ้าดิบสีขาวตุ่นๆ แทนผ้าถุงเก่า เนื่องจากคุณแม่หลายคนต่างให้เหตุผลว่าลูกที่เพิ่งคลอดใหม่ควรได้รับการห่อหุ้มด้วยผ้าที่สะอาดบริสุทธิ์ จึงมีผ้าอ้อมสีขาวๆใช้เรื่อยมา ทั้งเย็บเองทั้งซื้อใช้เพราะมีการเย็บขายสำเร็จรูปเป็นผืนสี่เหลี่ยม บ้างก็พิมพ์ลวดลายเป็นรูปสัตว์ตัวเล็กๆสีอ่อนหวาน น่าใช้ ผ้ามีความนุ่มสบายตัว เพราะทำจากผ้าสาลู ผ้าดิบ หรือผ้าฝ้ายที่ต้มฟอกเอาแป้งออกแล้ว ไม่แข็งกระด้าง ท้ายที่สุดแน่นอน ประโยชน์ของผ้าอ้อมยังไม่สิ้นสุด ถือเป็นผ้าอเนกประสงค์ซึ่งสามารถนำไปเป็นผ้าเช็ดมือ เช็ดโต๊ะ ผ้าเช็ดรถ ผ้าถูพื้นและจนกระทั่งเป็นผ้าเช็ดเท้า …ทั้งนี้เพราะคุณสมบัติพิเศษของผ้าอ้อมที่ทำจากผ้าฝ้ายแท้ๆคือสามารถซับดูดน้ำได้อย่างวิเศษณ์
เวลาผ่านไป สิ่งที่เราได้พบคือมีการคิดค้นผ้าอ้อมรูปใหม่ๆหลากหลายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเพื่อเสนอสนองความต้องการของคุณแม่ มีการผลิตผ้าอ้อมที่ทำจากเส้นใยประดิษฐ์ ทั้งพิมพ์ลวดลายสีสันสวยงามน่าใช้ เพราะความไม่รู้หรือรู้เท่าไม่ถึงการของผู้ผลิต ว่ามีคุณสมบัติที่แตกต่างจากผ้าอ้อมจากผ้าฝ้ายอย่างสิ้นเชิง เพราะนอกจากไม่ดูดซับน้ำหรือเหงื่อ ฉี่ ทั้งไม่ระบายอากาศ หลังใช้งานแล้วผ่านการซักไม่กี่ครั้ง จะมีความหยาบกระด้าง เป็นขนขุยแล้ว ผ้าอ้อมที่ทำจากเส้นใยประดิษฐ์ยังมีสารเคมีสังเคราะห์เจือปน ก่อให้เกิดความระคายเคืองต่อผิวอ่อนบางของทารก ที่น่าเป็นห่วงในปัจจุบัน ได้แก่การนำเอาผ้าอ้อมสำเร็จรูปมาใช้กับลูกรัก หรือที่เรียกกันติดปากว่า “แพมเพิร์ส” เป็นผ้าอ้อมอเนกประสงค์ใช้แล้วทิ้งเลย เพราะทำหน้าที่ใช้สอยสะดวกสุดๆ เป็นทั้งผ้าอ้อมทั้งกางเกงใน สามารถซับทั้งอึทั้งฉี่ ราคาสุดแพง(ณ ปัจจุบัน 12 บาท/ชิ้น) ซึ่งยังมีพ่อแม่ที่รักความสบายอีกมากมายยอมอดมื้อกินมื้อเพื่อซื้อผ้าอ้อมสำเร็จรูปดังกล่าวให้ลูกใช้ ตั้งแต่เริ่มคลอดจนเข้าโรงเรียนอนุบาล กว่าลูกจะโตคงหมดเงินเป็นหมื่นเป็นแสน หารู้ไม่ว่าผ้าอ้อมสำเร็จรูปดังกล่าวนั้นมีสารโซเดียมโพลีอะคริเลต ซึ่งเป็นสารเคมีที่มีคุณสมบัติในการดูดซับน้ำได้ 100 เท่าของน้ำหนักตัว สามารถติดผิวหนังอันบอบบางของทารกและเป็นสาเหตุของการระคายเคือง ผ้าอ้อมนี้มีสีขาวน่าใช้มาก เพราะเยื่อไม้ถูกฟอกด้วยคลอรีน ทำให้เกิดสารไดอ๊อกซีน ซึ่งเป็นสารในกลุ่มออร์กาโนคลอรีน ที่ปล่อยทิ้งออกมาจากโรงงานเยื่อกระดาษสู่แหล่งธรรมชาติ สารดังกล่าวมีพิษร้ายแรงที่มีผลทำให้เกิดการผิดปกติ การแท้งลูก มะเร็งและทำลายพันธุกรรม ผ้าอ้อมสำเร็จรูปใช้ได้ครั้งเดียวต้องทิ้งเลย ไม่สามารถนำไปใช้ได้อีกเหมือนผ้าอ้อมผ้าฝ้ายสมัยก่อนๆ และถูกทิ้งเป็นกองขยะมากขึ้นๆปีละอย่างต่ำจำนวน 18,000,000,000 (หนึ่งหมื่นแปดพันล้าน) โดยแต่ละชิ้นใช้เวลามากกว่า 500 ปีในการย่อยสลาย เชื่อหรือไม่ว่าขยะที่ย่อยสลายยาก เป็นผลก่อให้เกิดขยะติดเชื้อ ที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้คนและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ และที่น่าเป็นห่วงในด้านนิสัยหรือพฤติกรรมสั่งสมของเด็กที่ได้รับการใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่ผู้เขียนได้รับฟังจากการบอกเล่าจากวิทยากรซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม คุณแม่ และเจ้าของโรงเรียนอนุบาลซึ่งผู้ดูแลเด็กก่อนวัยเรียน หรือวัยอนุบาลว่าเด็กกลุ่มที่ถูกคุณแม่มักง่ายทั้งหลาย ให้ใช้ผ้าอ้อมอเนกประสงค์ดังกล่าวมักมีนิสัยก้าวร้าว มักง่าย ไม่รู้จักยับยั้ง ไม่รู้จักอดกลั้นอดทน ขาดความรับผิดชอบ ไม่ประหยัด และ ขาดความเป็นระเบียบรอบคอบ ชอบผลักภาระให้ผู้อื่น ฯลฯ เป็นต้น
สุดท้ายไฮไลท์ของงานนี้ ผู้เขียนได้เพลิดเพลินสนุกสนานกับการได้ฝึกเย็บผ้าห่มจากเศษผ้าฝ้ายย้อมสีธรรมชาติ ในช่วงเวลาอันสั้นไม่ถึง 2 ชั่วโมง มือเย็บไปหูก็ฟังเสียงเจื้อยแจ้วเล่าขานจากวิทยากรที่น่ารักหลายท่าน ซึ่งได้ให้ความรู้เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียในการเลือกใช้เสื้อผ้าและผ้าอ้อมจากใยประดิษฐ์และจากผ้าฝ้ายย้อมสีธรรมชาติและทำให้ผู้เขียนต้องนึกถึงภาพของแม่ที่ฉีกผ้าถุงเก่าๆทำผ้าอ้อมให้น้อง นึกถึงภาพตัวเองที่หาซื้อผ้าฝ้ายสาลูสีขาวนุ่มมาตัดและเย็บเตรียมผ้าอ้อมให้ลูกเมื่อ 20 ปีก่อน… พลางคิดต่อเนื่องไปว่าผ้าห่มฝ้ายแต่ละผืนที่ผู้เข้าร่วมสัมมนาเชิงปฏิบัติการในวันนั้นได้บรรจงสร้างสรรค์อย่างสวยงามที่สุดในโลก จะนำไปให้ลูกน้อยอันเป็นสุดที่รักและน่าทะนุถนอมยิ่งไว้ใช้ต่อไป และท้ายที่สุดขอชมเชยเจ้าภาพที่ไม่เพียงแต่เป็นห่วงและหวังดีต่อทารกตัวน้อยๆเท่านั้น แต่ยังปรารถนาดีต่อสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตอื่นๆอีกมากมาย
--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม--
-พห-
คงไม่ปฏิเสธกันว่าเราๆท่านๆทุกคนได้เคยใช้ผ้าอ้อมกันแล้วทั้งนั้น เมื่อเริ่มจำความได้ เคยเห็นแม่เอาผ้าถุงเก่าของแม่มาฉีกเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม แม่บอกว่าแม่ต้องเตรียมผ้าอ้อมไว้ให้น้อง เพราะท้องแม่โตมากใกล้คลอดน้องเต็มทนแล้ว ผ้าอ้อมของน้องจึงมีหลายสีหลายจากลายผ้าถุงเก่าของแม่ทั้งสิ้น ตอนผู้เขียนโผล่ออกจากท้องแม่ ก็คงมีผ้าอ้อมสีลายๆจากผ้าถุงของแม่เหมือนของน้องเช่นกัน เพราะเห็นแม่รื้อเอาออกมาจากตู้เสื้อผ้ามากองรวมไว้กับผ้าอ้อมของน้อง พอน้องคลอดออกจากท้องแม่ เห็นแม่เอาผ้าอ้อมที่เตรียมเหล่านั้นมาใช้รองให้น้องนอน เอาห่อตัวน้องเป็นกางเกง เป็นผ้ากันเปื้อน เป็นหมวก เป็นผ้าเช็ดตัว ห่อขวดนม ฯลฯ เป็นต้น ผ้าอ้อมของแม่หอมนุ่มทุกผืน ทั้งซับน้ำฉี่น้ำลายได้ดีทีเดียว พอผู้เขียนโตขึ้นเรื่อยๆก็เห็นมีผ้าอ้อมทำจากผ้าดิบสีขาวตุ่นๆ แทนผ้าถุงเก่า เนื่องจากคุณแม่หลายคนต่างให้เหตุผลว่าลูกที่เพิ่งคลอดใหม่ควรได้รับการห่อหุ้มด้วยผ้าที่สะอาดบริสุทธิ์ จึงมีผ้าอ้อมสีขาวๆใช้เรื่อยมา ทั้งเย็บเองทั้งซื้อใช้เพราะมีการเย็บขายสำเร็จรูปเป็นผืนสี่เหลี่ยม บ้างก็พิมพ์ลวดลายเป็นรูปสัตว์ตัวเล็กๆสีอ่อนหวาน น่าใช้ ผ้ามีความนุ่มสบายตัว เพราะทำจากผ้าสาลู ผ้าดิบ หรือผ้าฝ้ายที่ต้มฟอกเอาแป้งออกแล้ว ไม่แข็งกระด้าง ท้ายที่สุดแน่นอน ประโยชน์ของผ้าอ้อมยังไม่สิ้นสุด ถือเป็นผ้าอเนกประสงค์ซึ่งสามารถนำไปเป็นผ้าเช็ดมือ เช็ดโต๊ะ ผ้าเช็ดรถ ผ้าถูพื้นและจนกระทั่งเป็นผ้าเช็ดเท้า …ทั้งนี้เพราะคุณสมบัติพิเศษของผ้าอ้อมที่ทำจากผ้าฝ้ายแท้ๆคือสามารถซับดูดน้ำได้อย่างวิเศษณ์
เวลาผ่านไป สิ่งที่เราได้พบคือมีการคิดค้นผ้าอ้อมรูปใหม่ๆหลากหลายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเพื่อเสนอสนองความต้องการของคุณแม่ มีการผลิตผ้าอ้อมที่ทำจากเส้นใยประดิษฐ์ ทั้งพิมพ์ลวดลายสีสันสวยงามน่าใช้ เพราะความไม่รู้หรือรู้เท่าไม่ถึงการของผู้ผลิต ว่ามีคุณสมบัติที่แตกต่างจากผ้าอ้อมจากผ้าฝ้ายอย่างสิ้นเชิง เพราะนอกจากไม่ดูดซับน้ำหรือเหงื่อ ฉี่ ทั้งไม่ระบายอากาศ หลังใช้งานแล้วผ่านการซักไม่กี่ครั้ง จะมีความหยาบกระด้าง เป็นขนขุยแล้ว ผ้าอ้อมที่ทำจากเส้นใยประดิษฐ์ยังมีสารเคมีสังเคราะห์เจือปน ก่อให้เกิดความระคายเคืองต่อผิวอ่อนบางของทารก ที่น่าเป็นห่วงในปัจจุบัน ได้แก่การนำเอาผ้าอ้อมสำเร็จรูปมาใช้กับลูกรัก หรือที่เรียกกันติดปากว่า “แพมเพิร์ส” เป็นผ้าอ้อมอเนกประสงค์ใช้แล้วทิ้งเลย เพราะทำหน้าที่ใช้สอยสะดวกสุดๆ เป็นทั้งผ้าอ้อมทั้งกางเกงใน สามารถซับทั้งอึทั้งฉี่ ราคาสุดแพง(ณ ปัจจุบัน 12 บาท/ชิ้น) ซึ่งยังมีพ่อแม่ที่รักความสบายอีกมากมายยอมอดมื้อกินมื้อเพื่อซื้อผ้าอ้อมสำเร็จรูปดังกล่าวให้ลูกใช้ ตั้งแต่เริ่มคลอดจนเข้าโรงเรียนอนุบาล กว่าลูกจะโตคงหมดเงินเป็นหมื่นเป็นแสน หารู้ไม่ว่าผ้าอ้อมสำเร็จรูปดังกล่าวนั้นมีสารโซเดียมโพลีอะคริเลต ซึ่งเป็นสารเคมีที่มีคุณสมบัติในการดูดซับน้ำได้ 100 เท่าของน้ำหนักตัว สามารถติดผิวหนังอันบอบบางของทารกและเป็นสาเหตุของการระคายเคือง ผ้าอ้อมนี้มีสีขาวน่าใช้มาก เพราะเยื่อไม้ถูกฟอกด้วยคลอรีน ทำให้เกิดสารไดอ๊อกซีน ซึ่งเป็นสารในกลุ่มออร์กาโนคลอรีน ที่ปล่อยทิ้งออกมาจากโรงงานเยื่อกระดาษสู่แหล่งธรรมชาติ สารดังกล่าวมีพิษร้ายแรงที่มีผลทำให้เกิดการผิดปกติ การแท้งลูก มะเร็งและทำลายพันธุกรรม ผ้าอ้อมสำเร็จรูปใช้ได้ครั้งเดียวต้องทิ้งเลย ไม่สามารถนำไปใช้ได้อีกเหมือนผ้าอ้อมผ้าฝ้ายสมัยก่อนๆ และถูกทิ้งเป็นกองขยะมากขึ้นๆปีละอย่างต่ำจำนวน 18,000,000,000 (หนึ่งหมื่นแปดพันล้าน) โดยแต่ละชิ้นใช้เวลามากกว่า 500 ปีในการย่อยสลาย เชื่อหรือไม่ว่าขยะที่ย่อยสลายยาก เป็นผลก่อให้เกิดขยะติดเชื้อ ที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้คนและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ และที่น่าเป็นห่วงในด้านนิสัยหรือพฤติกรรมสั่งสมของเด็กที่ได้รับการใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่ผู้เขียนได้รับฟังจากการบอกเล่าจากวิทยากรซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม คุณแม่ และเจ้าของโรงเรียนอนุบาลซึ่งผู้ดูแลเด็กก่อนวัยเรียน หรือวัยอนุบาลว่าเด็กกลุ่มที่ถูกคุณแม่มักง่ายทั้งหลาย ให้ใช้ผ้าอ้อมอเนกประสงค์ดังกล่าวมักมีนิสัยก้าวร้าว มักง่าย ไม่รู้จักยับยั้ง ไม่รู้จักอดกลั้นอดทน ขาดความรับผิดชอบ ไม่ประหยัด และ ขาดความเป็นระเบียบรอบคอบ ชอบผลักภาระให้ผู้อื่น ฯลฯ เป็นต้น
สุดท้ายไฮไลท์ของงานนี้ ผู้เขียนได้เพลิดเพลินสนุกสนานกับการได้ฝึกเย็บผ้าห่มจากเศษผ้าฝ้ายย้อมสีธรรมชาติ ในช่วงเวลาอันสั้นไม่ถึง 2 ชั่วโมง มือเย็บไปหูก็ฟังเสียงเจื้อยแจ้วเล่าขานจากวิทยากรที่น่ารักหลายท่าน ซึ่งได้ให้ความรู้เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียในการเลือกใช้เสื้อผ้าและผ้าอ้อมจากใยประดิษฐ์และจากผ้าฝ้ายย้อมสีธรรมชาติและทำให้ผู้เขียนต้องนึกถึงภาพของแม่ที่ฉีกผ้าถุงเก่าๆทำผ้าอ้อมให้น้อง นึกถึงภาพตัวเองที่หาซื้อผ้าฝ้ายสาลูสีขาวนุ่มมาตัดและเย็บเตรียมผ้าอ้อมให้ลูกเมื่อ 20 ปีก่อน… พลางคิดต่อเนื่องไปว่าผ้าห่มฝ้ายแต่ละผืนที่ผู้เข้าร่วมสัมมนาเชิงปฏิบัติการในวันนั้นได้บรรจงสร้างสรรค์อย่างสวยงามที่สุดในโลก จะนำไปให้ลูกน้อยอันเป็นสุดที่รักและน่าทะนุถนอมยิ่งไว้ใช้ต่อไป และท้ายที่สุดขอชมเชยเจ้าภาพที่ไม่เพียงแต่เป็นห่วงและหวังดีต่อทารกตัวน้อยๆเท่านั้น แต่ยังปรารถนาดีต่อสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตอื่นๆอีกมากมาย
--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม--
-พห-