นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวรายงานสรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมการบริหารพรรค ประจำปี 2549 โดยสรุปเกี่ยวกับการทำงานต่างๆ และสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นซึ่งพรรคได้ร่วมฝ่าฟันมา โดยเฉพาะ คดียุบพรรคที่นับเป็นประวัติศาสตร์ของพรรคเรื่องหนึ่ง จึงขอบคุณสมาชิกที่ช่วยกันรวบรวมข้อมูลเพื่อใช้สู้คดี ทั้งนี้ ทางพรรคยังได้จัดเวทีชี้แจงให้ประชาชนเห็นถึงความเสียหายของประเทศที่เกิดขึ้นจากระบบทักษิณ ทำให้ประชาชนเข้าใจสถานการณ์การเมือง รู้พิษภัยของระบบทักษิณ แม้ว่าพรรคจะถูกประทุษร้าย โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของระบบทักษิณ
นายสุเทพ ยืนยันว่า ไม่เคยตั้งเป้ายุบพรรคไทยรักไทย มีเพียงพรรคไทยรักไทยและพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ที่เจตนาร้าย สมคบกับบริวารดำเนินการยุบพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นก้างข้างคอทางการเมือง คนของพรรคประชาธิปัตย์จึงต้องร่วมกันต่อสู้ ทั้งนี้รอบปีที่ผ่านมาส่วนใหญ่การทำงานของพรรคเป็นแบบนอกสภา โดยเฉพาะการตรวจสอบและต่อสู้กับระบบทักษิณแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน รวมทั้งตรวจสอบกลโกงการเลือกตั้งของพรรคไทยรักไทย จนในที่สุดคณะตุลาการรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยยุบพรรคไทยรักไทย ทั้งหมดทำให้ประชาชนเข้าใจระบอบทักษิณดีขึ้นว่าเป็นระบอบเผด็จการที่แฝงเข้ามาในประชาธิปไตย ถือเป็นบทเรียนของประชาชน ที่จะระมัดระวังไม่ยอมให้มีการใช้เงินซื้อเสียง เพราะถ้านักการเมืองซื้อเสียงเข้ามาย่อมได้รัฐบาลเผด็จการแน่นอน
นายสุเทพ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ ได้ตั้งคณะทำงานเพื่อคัดเลือกผู้สมัคร ลงเลือกตั้งปลายปีนี้ โดยมีนายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นประธาน คัดเลือกผู้สมัคร 400 คน ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงตัวผู้สมัครจากเดิมที่วางไว้ จึงขอให้สมาชิกพรรคเข้าใจ เพราะรัฐธรรมนูญที่มีการเปลี่ยนแปลงส่งผลกระทบต่อการวางตัวผู้สมัครในแต่ละเขต
นายสุเทพ ยังกล่าวถึงการระดมทุนของพรรค ว่า ปีที่ผ่านมา ตั้งเป้าไว้ที่ 191 ล้านบาท แต่ในปีนี้ การระดมทุนรอบแรก ที่วางเป้าไว้ 400 ล้านบาท ขณะนี้ เกินเป้าที่กำหนดไว้แล้ว ซึ่งจะนำเงินที่ได้รับไปใช้ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง และกิจกรรมต่างๆ ของพรรคต่อไป ซึ่งต้องขอความร่วมมือจากสมาชิกพรรคในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งทั่วประเทศมากขึ้น เพราะการเลือกตั้งปลายปีนี้ถือเป็นโอกาสที่พรรคจะได้รับชัยชนะจัดตั้งเป็นรัฐบาล ขอให้ทุกคนร่วมทำงานกับคณะกรรมการบริหารพรรค จนกว่าที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี
จากนั้นนายสุเทพ ได้กล่าวรายงานสรุปงบดุลประจำปี 2549 ต่อที่ประชุม ซึ่งมีรายรับทั้งสิ้น 261,900,904 บาท รายจ่าย 273,055,237 บาท ทำให้มีรายจ่ายสูงกว่ารายรับ 11,154,433 บาท ต่อมาได้พิจารณาวาระรายงานสรุปผลการดำเนินการของคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ประจำปี 2549 ซึ่งจำนวนสมาชิกพรรคสิ้นปี 2549 มีจำนวน 4,095,493 คน มีสาขาพรรค 194 สาขา
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 20 ก.ค. 2550--จบ--
นายสุเทพ ยืนยันว่า ไม่เคยตั้งเป้ายุบพรรคไทยรักไทย มีเพียงพรรคไทยรักไทยและพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ที่เจตนาร้าย สมคบกับบริวารดำเนินการยุบพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นก้างข้างคอทางการเมือง คนของพรรคประชาธิปัตย์จึงต้องร่วมกันต่อสู้ ทั้งนี้รอบปีที่ผ่านมาส่วนใหญ่การทำงานของพรรคเป็นแบบนอกสภา โดยเฉพาะการตรวจสอบและต่อสู้กับระบบทักษิณแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน รวมทั้งตรวจสอบกลโกงการเลือกตั้งของพรรคไทยรักไทย จนในที่สุดคณะตุลาการรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยยุบพรรคไทยรักไทย ทั้งหมดทำให้ประชาชนเข้าใจระบอบทักษิณดีขึ้นว่าเป็นระบอบเผด็จการที่แฝงเข้ามาในประชาธิปไตย ถือเป็นบทเรียนของประชาชน ที่จะระมัดระวังไม่ยอมให้มีการใช้เงินซื้อเสียง เพราะถ้านักการเมืองซื้อเสียงเข้ามาย่อมได้รัฐบาลเผด็จการแน่นอน
นายสุเทพ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ ได้ตั้งคณะทำงานเพื่อคัดเลือกผู้สมัคร ลงเลือกตั้งปลายปีนี้ โดยมีนายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นประธาน คัดเลือกผู้สมัคร 400 คน ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงตัวผู้สมัครจากเดิมที่วางไว้ จึงขอให้สมาชิกพรรคเข้าใจ เพราะรัฐธรรมนูญที่มีการเปลี่ยนแปลงส่งผลกระทบต่อการวางตัวผู้สมัครในแต่ละเขต
นายสุเทพ ยังกล่าวถึงการระดมทุนของพรรค ว่า ปีที่ผ่านมา ตั้งเป้าไว้ที่ 191 ล้านบาท แต่ในปีนี้ การระดมทุนรอบแรก ที่วางเป้าไว้ 400 ล้านบาท ขณะนี้ เกินเป้าที่กำหนดไว้แล้ว ซึ่งจะนำเงินที่ได้รับไปใช้ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง และกิจกรรมต่างๆ ของพรรคต่อไป ซึ่งต้องขอความร่วมมือจากสมาชิกพรรคในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งทั่วประเทศมากขึ้น เพราะการเลือกตั้งปลายปีนี้ถือเป็นโอกาสที่พรรคจะได้รับชัยชนะจัดตั้งเป็นรัฐบาล ขอให้ทุกคนร่วมทำงานกับคณะกรรมการบริหารพรรค จนกว่าที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี
จากนั้นนายสุเทพ ได้กล่าวรายงานสรุปงบดุลประจำปี 2549 ต่อที่ประชุม ซึ่งมีรายรับทั้งสิ้น 261,900,904 บาท รายจ่าย 273,055,237 บาท ทำให้มีรายจ่ายสูงกว่ารายรับ 11,154,433 บาท ต่อมาได้พิจารณาวาระรายงานสรุปผลการดำเนินการของคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ประจำปี 2549 ซึ่งจำนวนสมาชิกพรรคสิ้นปี 2549 มีจำนวน 4,095,493 คน มีสาขาพรรค 194 สาขา
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 20 ก.ค. 2550--จบ--