แม้ปัจจุบันภาวะเศรษฐกิจไทยกำลังประสบปัญหาการชะลอตัวลงของกำลังซื้อ แต่ก็มิได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ของไทย ทั้งนี้ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ นายวัลลภ เตียศิริ ได้ให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่าขณะนี้อุตสาหกรรมรถยนต์ของไทยได้พัฒนาตัวเองออกไปสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์เพื่อป้อนความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคจากทั่วโลก แทนการผูกขาดกับการพึ่งพายอดขาย ภายในประเทศเพียงอย่างเดียว โดยประเทศไทยได้ปรับเปลี่ยนไปผลิตรถยนต์ โดยเฉพาะรถกระบะเพื่อการส่งออกถึงร้อยละ 55 ส่งผลให้ประเทศไทยกลายเป็นฐานการผลิตรถกระบะเพื่อการส่งออกของโลก นอกจากนี้ผู้ประกอบการไทยยังได้พยายามผลักดันให้เกิดโครงการผลิตรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ที่สามารถประหยัดพลังงาน (อีโคคาร์) ได้มากขึ้นในอนาคต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการขยายตลาดและสร้างความ แข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมรถยนต์มากขึ้น แทนที่จะพึ่งพารถกระบะเพียงอย่างเดียว
ประเด็นวิเคราะห์
เมื่อมองดูในระยะยาวนับว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยยังคงมีอนาคตที่ดี โดยเฉพาะรถปิกอัพ เนื่องจากขณะนี้มีค่ายผู้ผลิตขนาดใหญ่ได้เข้ามาลงทุนในไทย ประกอบกับการให้การตอบรับที่ดีจากตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดแถบตะวันออกกลางและแอฟริกา นอกจากนี้ไทยยังสามารถส่งออกสินค้าข้างเคียง เช่น หลังคารถกระบะ ได้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย อย่างไรก็ตามผู้ผลิตผู้ประกอบการไทยจะต้องเร่งรุดหน้าเพื่อพัฒนาศักยภาพและจุดเด่นของสินค้าให้เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากไทยมีคู่แข่งสำคัญ ได้แก่ จีนแดง ซึ่งแม้นว่าคุณของสินค้าอาจยังด้อยอยู่ในขณะนี้ แต่ประเทศคู่แข่งมีการพัฒนาคุณภาพของสินค้าประกอบกับราคาซึ่งเป็นต่อประเทศไทยอยู่แล้วเชื่อแน่ว่าในอนาคตอันใกล้ประเทศไทยอาจต้องสูญเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับประเทศคู่แข่งอย่างแน่นอน
ที่มา: http://www.depthai.go.th