1. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในประเทศ
1.1 โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2550
- เป้าหมายรับจำนำ 2.5 ล้านตันข้าวเปลือก ดำเนินการโดย
- ธ.ก.ส. รับจำนำจากเกษตรและสถาบันเกษตรกรที่มียุ้งฉางเป็นของตัวเอง
- อคส.รับฝากและออกใบประทวน โดย ธ.ก.ส.รับจำนำใบประทวนที่ อคส.ออกให้แก่เกษตรกรและสถาบันเกษตกร
- ระยะเวลารับจำนำ 16 มีนาคม-31 กรกฎาคม 2550 ยกเว้นภาคใต้ให้รับจำนำระหว่าง กรกฎาคม-กันยายน 2550
- ระยะเวลาไถ่ถอน 3 เดือน นับถัดจากเดือนที่รับจำนำ
- ระยะเวลาโครงการ 16 มีนาคม — ธันวาคม 2550
- ราคารับจำนำ สูงกว่าราคารับจำนำข้าวเปลือกเจ้านาปี ปีการผลิต 2549/50 ตันละ 100 บาท ทุกชั้นคุณภาพ(ความชื้นไม่เกิน 15%)
- ผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 16 มีนาคม — 13 มิถุนายน 2550
สรุปผลการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง 2550
รายการ ข้าวเจ้า ข้าวปทุมธานี รวม ร้อยละของเป้าหมาย
ข้าวทุกชนิด
ปริมาณรับจำนำ(ตัน) 906,443 26,396 932,839 37.31
ภาวะการซื้อขาย ภาวะการซื้อขายในช่วงสัปดาห์นี้ การค้าค่อนข้างเงียบเหงาเนื่องจากผลผลิตข้าวในตลาด มีน้อย เพราะช่วงเดือน
มิถุนายนจะมีข้าวนาปรังออกสู่ตลาดเพียงร้อยละ 5.13 ของผลผลิตทั้งหมด และผลผลิตข้าวนาปรังส่วนหนึ่งขณะนี้ยังอยู่ในสต็อกโครงการรับจำนำของ
รัฐบาล สำหรับราคามีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยแต่ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในระดับสูง
การส่งออก
ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม — 13 มิถุนายน 2550 ไทยส่งออกข้าวทั้งหมด จำนวน 3,454,205 ตัน เพิ่มขึ้นจาก 3,162,455 ตัน ของการ
ส่งออกข้าวในช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 9.23 (ที่มา: ข้อมูลเบื้องต้นจากกรมการค้าต่างประเทศ)
ราคา
ราคาที่เกษตรกรขายได้ทั้งประเทศ
ราคาข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลินาปี ที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 8,781 บาท ราคาสูงขึ้นจากตันละ 8,756 บาท ของสัปดาห์
ก่อนร้อยละ 0.28
ราคาข้าวเปลือกเจ้านาปี 5% ที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 6,433 บาท ราคาสูงขึ้นจากตันละ 6,423 บาท ของสัปดาห์ก่อน
ร้อยละ 0.16
ราคาข้าวเปลือกเจ้านาปรัง ความชื้น 14-15% ที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 6,558 บาท ราคาสูงขึ้นจากตันละ 6,535 บาท
ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.36
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาข้าวสารเจ้า 5% (ใหม่) ขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 10,625 บาท ราคาสูงขึ้นจากตันละ 10,595 บาท
สัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.28
ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี
ราคาข้าวหอมมะลิไทย ชั้น 2 (ใหม่) ส่งออก เอฟ.โอ.บี. สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 552 ดอลลาร์สหรัฐฯ (18,994 บาท/ตัน)
ราคาลดลงจากตันละ 554 ดอลลาร์สหรัฐฯ (19,022 บาท/ตัน) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.36 และลดลงในรูปเงินบาทตันละ 28 บาท
ราคาข้าวสารเจ้า 5% (ใหม่) ส่งออก เอฟ.โอ.บี. สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 328 ดอลลาร์สหรัฐฯ (11,286 บาท/ตัน) ราคาลด
ลงจากตันละ 329 ดอลลาร์สหรัฐฯ (11,296 บาท/ตัน) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.30 และลดลงในรูปเงินบาทตันละ 10 บาท
ราคาข้าวสารเจ้า 25% (ใหม่) ส่งออก เอฟ.โอ.บี. สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 299 ดอลลาร์สหรัฐฯ (10,288 บาท/ตัน) ราคาลดลงจาก
ตันละ 300 ดอลลาร์สหรัฐฯ (10,300 บาท/ตัน) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.33 และลดลงในรูปเงินบาทตันละ 12 บาท
ราคาข้าวนึ่ง 5% ส่งออก เอฟ.โอ.บี. สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 334 ดอลลาร์สหรัฐฯ (11,493 บาท/ตัน) ราคาลดลงจากตันละ 335
ดอลลาร์สหรัฐฯ (11,502 บาท/ตัน) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.30 และลดลงในรูปเงินบาทตันละ 9 บาท
หมายเหตุ : อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 34.4086 บาท
2. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในต่างประเทศ
ตลาดต้องการข้าวเวียดนามราคาเริ่มขยับสูง
เนื่องจากความต้องการข้าวเวียดนามในตลาดประจำได้แก่ อินโดนีเชีย ฟิลิปปินส์ และคิวบา ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องโดยประเทศลูกค้าดัง
กล่าวต้องการให้เวียดนามขายข้าวให้อีกในช่วงครึ่งปีหลัง ในขณะที่ผลผลิตข้าวเวียดนามมีอยู่อย่างจำกัด ซึ่งจะส่งผลให้ราคาข้าวเวียดนามขยับสูงขึ้นอีก
หลายสัปดาห์ ถึงแม้ฤดูการเก็บเกี่ยวข้าวฤดูร้อน-ใบไม้ร่วงจะเริ่มในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ก็ตาม ทั้งนี้ พ่อค้าข้าวเวียดนามคาดว่าในช่วงไตรมาสที่สาม
ของปีนี้จะมีการเซ็นต์สัญญาซื้อขายข้าวเพิ่มอีก 1 ล้าน นอกเหนือจาก 3.8 ล้านตันที่ได้ทำสัญญาไปแล้วตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน สำหรับราคาข้าวขาว
5% ของเวียดนามสัปดาห์นี้ประกาศขายที่ตันละ 307 เหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 305 เหรียญสหรัฐของเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
อินโดนีเซียส่งเสริมปลูกข้าวพันธุ์ลูกผสม
รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรของอินโดนีเซียเปิดเผยว่ารัฐบาลอินโดนีเซียได้ส่งเสริมการปลูกข้าวพันธุ์ลูกผสมที่ให้ผลผลิตสูงถึง 1,952 ตันข้าว
เปลือกต่อไร่ พันธุ์ที่ส่งเสริมมี 2 พันธุ์มีชื่อว่า Hipa 5 JT และ Hipa 6 Sefa ซึ่งพัฒนาโดยบริษัทแห่งหนึ่งในชวากลาง โดยพันธุ์ทั้งสองให้ผลผลิต
สูงเกือบเท่าข้าวพันธุ์ลูกผสมของจีนซึ่งให้ผลผลิต 2,400 ตันต่อไร่ ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรอินโดนีเซียทำการพัฒนาพันธุ์ข้าวจำนวน 14 สายพันธุ์ในปี
2550 เพิ่มขึ้นจาก 6 พันธุ์ที่ได้มีการพัฒนาไปแล้วในปี 2549 จนถึงขณะนี้กระทรวงเกษตรของอินโดนีเซียได้มีการพัฒนาข้าวพันธุ์ลูกผสมสายพันธุ์ใหม่ไป
แล้ว 31 สายพันธุ์ โดยร่วมมือกับบริษัทเอกชนหรือประเทศอื่นๆ ในขณะเดียวกันก็ได้ประสานความร่วมมือกับ IRRI ในการพัฒนาพันธุ์ข้าวที่ต้านทานความ
แห้งแล้งและสามารถทนต่อสภาพน้ำท่วมได้ถึง 2 อาทิตย์อีกด้วย
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ประจำวันที่ 11-17 มิ.ย. 2550--
-พห-
1.1 โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2550
- เป้าหมายรับจำนำ 2.5 ล้านตันข้าวเปลือก ดำเนินการโดย
- ธ.ก.ส. รับจำนำจากเกษตรและสถาบันเกษตรกรที่มียุ้งฉางเป็นของตัวเอง
- อคส.รับฝากและออกใบประทวน โดย ธ.ก.ส.รับจำนำใบประทวนที่ อคส.ออกให้แก่เกษตรกรและสถาบันเกษตกร
- ระยะเวลารับจำนำ 16 มีนาคม-31 กรกฎาคม 2550 ยกเว้นภาคใต้ให้รับจำนำระหว่าง กรกฎาคม-กันยายน 2550
- ระยะเวลาไถ่ถอน 3 เดือน นับถัดจากเดือนที่รับจำนำ
- ระยะเวลาโครงการ 16 มีนาคม — ธันวาคม 2550
- ราคารับจำนำ สูงกว่าราคารับจำนำข้าวเปลือกเจ้านาปี ปีการผลิต 2549/50 ตันละ 100 บาท ทุกชั้นคุณภาพ(ความชื้นไม่เกิน 15%)
- ผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 16 มีนาคม — 13 มิถุนายน 2550
สรุปผลการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง 2550
รายการ ข้าวเจ้า ข้าวปทุมธานี รวม ร้อยละของเป้าหมาย
ข้าวทุกชนิด
ปริมาณรับจำนำ(ตัน) 906,443 26,396 932,839 37.31
ภาวะการซื้อขาย ภาวะการซื้อขายในช่วงสัปดาห์นี้ การค้าค่อนข้างเงียบเหงาเนื่องจากผลผลิตข้าวในตลาด มีน้อย เพราะช่วงเดือน
มิถุนายนจะมีข้าวนาปรังออกสู่ตลาดเพียงร้อยละ 5.13 ของผลผลิตทั้งหมด และผลผลิตข้าวนาปรังส่วนหนึ่งขณะนี้ยังอยู่ในสต็อกโครงการรับจำนำของ
รัฐบาล สำหรับราคามีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยแต่ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในระดับสูง
การส่งออก
ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม — 13 มิถุนายน 2550 ไทยส่งออกข้าวทั้งหมด จำนวน 3,454,205 ตัน เพิ่มขึ้นจาก 3,162,455 ตัน ของการ
ส่งออกข้าวในช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 9.23 (ที่มา: ข้อมูลเบื้องต้นจากกรมการค้าต่างประเทศ)
ราคา
ราคาที่เกษตรกรขายได้ทั้งประเทศ
ราคาข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลินาปี ที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 8,781 บาท ราคาสูงขึ้นจากตันละ 8,756 บาท ของสัปดาห์
ก่อนร้อยละ 0.28
ราคาข้าวเปลือกเจ้านาปี 5% ที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 6,433 บาท ราคาสูงขึ้นจากตันละ 6,423 บาท ของสัปดาห์ก่อน
ร้อยละ 0.16
ราคาข้าวเปลือกเจ้านาปรัง ความชื้น 14-15% ที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 6,558 บาท ราคาสูงขึ้นจากตันละ 6,535 บาท
ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.36
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาข้าวสารเจ้า 5% (ใหม่) ขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 10,625 บาท ราคาสูงขึ้นจากตันละ 10,595 บาท
สัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.28
ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี
ราคาข้าวหอมมะลิไทย ชั้น 2 (ใหม่) ส่งออก เอฟ.โอ.บี. สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 552 ดอลลาร์สหรัฐฯ (18,994 บาท/ตัน)
ราคาลดลงจากตันละ 554 ดอลลาร์สหรัฐฯ (19,022 บาท/ตัน) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.36 และลดลงในรูปเงินบาทตันละ 28 บาท
ราคาข้าวสารเจ้า 5% (ใหม่) ส่งออก เอฟ.โอ.บี. สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 328 ดอลลาร์สหรัฐฯ (11,286 บาท/ตัน) ราคาลด
ลงจากตันละ 329 ดอลลาร์สหรัฐฯ (11,296 บาท/ตัน) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.30 และลดลงในรูปเงินบาทตันละ 10 บาท
ราคาข้าวสารเจ้า 25% (ใหม่) ส่งออก เอฟ.โอ.บี. สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 299 ดอลลาร์สหรัฐฯ (10,288 บาท/ตัน) ราคาลดลงจาก
ตันละ 300 ดอลลาร์สหรัฐฯ (10,300 บาท/ตัน) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.33 และลดลงในรูปเงินบาทตันละ 12 บาท
ราคาข้าวนึ่ง 5% ส่งออก เอฟ.โอ.บี. สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 334 ดอลลาร์สหรัฐฯ (11,493 บาท/ตัน) ราคาลดลงจากตันละ 335
ดอลลาร์สหรัฐฯ (11,502 บาท/ตัน) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.30 และลดลงในรูปเงินบาทตันละ 9 บาท
หมายเหตุ : อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 34.4086 บาท
2. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในต่างประเทศ
ตลาดต้องการข้าวเวียดนามราคาเริ่มขยับสูง
เนื่องจากความต้องการข้าวเวียดนามในตลาดประจำได้แก่ อินโดนีเชีย ฟิลิปปินส์ และคิวบา ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องโดยประเทศลูกค้าดัง
กล่าวต้องการให้เวียดนามขายข้าวให้อีกในช่วงครึ่งปีหลัง ในขณะที่ผลผลิตข้าวเวียดนามมีอยู่อย่างจำกัด ซึ่งจะส่งผลให้ราคาข้าวเวียดนามขยับสูงขึ้นอีก
หลายสัปดาห์ ถึงแม้ฤดูการเก็บเกี่ยวข้าวฤดูร้อน-ใบไม้ร่วงจะเริ่มในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ก็ตาม ทั้งนี้ พ่อค้าข้าวเวียดนามคาดว่าในช่วงไตรมาสที่สาม
ของปีนี้จะมีการเซ็นต์สัญญาซื้อขายข้าวเพิ่มอีก 1 ล้าน นอกเหนือจาก 3.8 ล้านตันที่ได้ทำสัญญาไปแล้วตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน สำหรับราคาข้าวขาว
5% ของเวียดนามสัปดาห์นี้ประกาศขายที่ตันละ 307 เหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 305 เหรียญสหรัฐของเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
อินโดนีเซียส่งเสริมปลูกข้าวพันธุ์ลูกผสม
รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรของอินโดนีเซียเปิดเผยว่ารัฐบาลอินโดนีเซียได้ส่งเสริมการปลูกข้าวพันธุ์ลูกผสมที่ให้ผลผลิตสูงถึง 1,952 ตันข้าว
เปลือกต่อไร่ พันธุ์ที่ส่งเสริมมี 2 พันธุ์มีชื่อว่า Hipa 5 JT และ Hipa 6 Sefa ซึ่งพัฒนาโดยบริษัทแห่งหนึ่งในชวากลาง โดยพันธุ์ทั้งสองให้ผลผลิต
สูงเกือบเท่าข้าวพันธุ์ลูกผสมของจีนซึ่งให้ผลผลิต 2,400 ตันต่อไร่ ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรอินโดนีเซียทำการพัฒนาพันธุ์ข้าวจำนวน 14 สายพันธุ์ในปี
2550 เพิ่มขึ้นจาก 6 พันธุ์ที่ได้มีการพัฒนาไปแล้วในปี 2549 จนถึงขณะนี้กระทรวงเกษตรของอินโดนีเซียได้มีการพัฒนาข้าวพันธุ์ลูกผสมสายพันธุ์ใหม่ไป
แล้ว 31 สายพันธุ์ โดยร่วมมือกับบริษัทเอกชนหรือประเทศอื่นๆ ในขณะเดียวกันก็ได้ประสานความร่วมมือกับ IRRI ในการพัฒนาพันธุ์ข้าวที่ต้านทานความ
แห้งแล้งและสามารถทนต่อสภาพน้ำท่วมได้ถึง 2 อาทิตย์อีกด้วย
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ประจำวันที่ 11-17 มิ.ย. 2550--
-พห-