นางสาวชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงผลการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจของอาเซียน (SEOM) ครั้งที่ 2/38 ระหว่างวันที่ 27-31 มีนาคม 2550 ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ดังนี้
ที่ประชุมได้หารือประเด็นสำคัญที่จะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะทำงานระดับสูงว่าด้วยการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของอาเซียน (HLTF) และรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (AEM) ในเดือนเมษายน และพฤษภาคม 2550 ตามลำดับ ซึ่งจะเน้น 2 เรื่องหลัก ได้แก่
1. การจัดทำกฎบัตรอาเซียน (ASEAN Charter) ที่ประชุมได้พิจารณาให้ข้อคิดเห็นในด้านเศรษฐกิจที่จะนำไปรวมไว้ในการยกร่างกฎบัตรอาเซียน โดยประเด็นสำคัญได้แก่ การกำหนดเป้าหมายในด้านการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของอาเซียนภายหลังจากปี ค.ศ.2015 ซึ่งเห็นควรกำหนดเป้าหมายในเชิงวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน (bold vision) และสามารถเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ โดยสำนักเลขาธิการอาเซียนอยู่ระหว่างยกร่างถ้อยความที่จะเป็น input ในด้านเศรษฐกิจให้ SEOM พิจารณา ก่อนเสนอ HLTF ต่อไป
2. พิมพ์เขียวการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC Blueprint) ที่ประชุมได้พิจารณาแก้ไขร่าง AEC Blueprint ซึ่งรวมความเห็น ASEAN Body บางส่วนแล้ว รวมทั้งความเห็นที่ไทยได้แจ้งไปก่อนล่วงหน้าโดยประเด็นสำคัญที่ SEOM เห็นชอบแล้ว ได้แก่ การไม่รวมเรื่ององค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานภายนอกภูมิภาค (external component) ไว้ภายใต้ Blueprint เช่น การปรับประสานอัตราภาษี MFN และการกำหนดให้อาเซียนมีเสียงเดียว (one voice) ในการเจรจากับประเทศคู่เจรจาต่างๆ
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาประเด็นสำคัญด้านการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจอื่น ๆ ดังนี้
1. การรวมกลุ่มสาขาสำคัญของอาเซียน ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานตามแผนงานการรวมกลุ่มสาขาสำคัญของอาเซียน ซึ่งประเด็นปัญหาสำคัญในขณะนี้ คือ การที่หลายประเทศยังไม่สามารถออกประกาศเพื่อลดภาษีสินค้าในสาขาสำคัญเป็นร้อยละ 0 ได้ตามกำหนดเวลา คือวันที่ 1 มกราคม 2550 เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนมาใช้ระบบพิกัด AHTN โดยสินค้าหลายรายการมีพิกัดและอัตราภาษีที่เปลี่ยนแปลงไป อย่างไรก็ตามที่ประชุมยืนยันให้แต่ละประเทศออกประกาศให้แล้วเสร็จก่อนการประชุม AFTA Council ในเดือนสิงหาคม 2550
2. การจัดทำ Roadmap สาขาโลจิสติกส์ ที่ประชุมพิจารณาแก้ไขร่าง Roadmap สาขาโลจิสติกส์ ซึ่งใกล้จะได้ข้อสรุปแล้ว โดยตั้งเป้าหมายเสนอให้รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนลงนามในพิธีสารเพื่อการรวมกลุ่มสาขาโลจิสติกส์ ในช่วงการประชุม AEM ครั้งที่ 39 ในเดือนสิงหาคมศกนี้ ณ กรุงมะนิลา
3. การเจรจาการค้าบริการของอาเซียน ขณะนี้ SEOM ได้เห็นชอบเป้าหมายการเปิดเสรีการค้าบริการในแต่ละรอบของการเจรจาแล้ว โดยให้เพิ่มจำนวนสาขาใหม่ในแต่ละรอบของการเจรจาดังนี้ 10 สาขา (ปี 2008), 15 สาขา (ปี 2010), 20 สาขา (ปี 2012), 20 สาขา (ปี 2014) และ 7 สาขา (ปี 2015) และได้เห็นชอบการกำหนดความยืดหยุ่นสำหรับการเปิดตลาดการค้าบริการ โดยให้มีสาขาที่ยกเว้นจากการการเปิดเสรี (exclusion list) ได้ไม่เกินร้อยละ 15 ของจำนวนสาขาทั้งหมด และสามารถพิจารณาความยืดหยุ่นอื่น ๆ ได้เป็นกรณี ๆ ไป
4. การจัดทำแผนงานด้านการอำนวยความสะดวกทางการค้า ที่ประชุมได้พิจารณาร่างแผนงานด้านการอำนวยความะสะดวกทางการค้าที่สำนักเลขาธิการอาเซียนได้ปรับปรุงใหม่แล้ว โดยให้จัดประชุมหารือร่วมกับภาคเอกชนเพื่อให้แน่ใจว่ามาตรการภายใต้แผนงานนี้เป็นประโยชน์กับภาคธุรกิจ และให้สำนักเลขาธิการอาเซียนศึกษาเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากมาตรการด้านการอำนวยความสะดวกทางการค้าต่าง ๆ ที่ผ่านมา เช่น การจัดทำมาตรฐาน และการพัฒนากฎว่าด้วยแหล่งกำเนิดสินค้าว่า มีส่วนช่วยส่งเสริมภาคเอกชนในการดำเนินธุรกิจและส่งเสริมการค้าภายในภูมิภาคมากน้อยเพียงใด เพื่อช่วยในการกำหนดทิศทางสำหรับการดำเนินงานต่อไป
ในการประชุมครั้งนี้ที่ประชุมยังได้ร่วมหารือกับประเทศคู่เจรจา ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย สหภาพยุโรป ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เพื่อให้แนวทางเกี่ยวกับการเจรจาเขตการค้าเสรีระหว่างกัน ซึ่งขณะนี้ การเจรจาส่วนใหญ่มีความคืบหน้า โดยในส่วนของจีนจะต้องเร่งเจรจาหาข้อสรุปในเรื่องความตกลงด้านการลงทุนระหว่างกัน สำหรับญี่ปุ่นและอินเดียจะต้องเร่งหาข้อสรุปในเรื่องรูปแบบการลดภาษี เพื่อเสนอต่อที่ประชุม AEM ในเดือนสิงหาคม 2550
ในส่วนของ EU ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณารูปแบบ/แนวทางการเจรจาระหว่างกัน ซึ่งหากยังไม่ได้ข้อสรุป คาดว่าจะต้องเสนอที่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนในเดือนพฤษภาคม 2550 พิจารณาให้แนวทางต่อไป
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000
โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630
-พห-