กรุงเทพ--15 ส.ค--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2550 อิหม่ามสนิท เอี่ยมฤทธิ์ นายกสมาคมกอรีแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้แทนจุฬาราชมนตรี ได้นำนักกอรีทีมชาติไทยที่จะเดินทางไปแข่งขันการอ่านคัมภีร์อัลกุรอ่านระหว่างประเทศ ครั้งที่ 49 ซึ่งมาเลเซียจะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 16-22 สิงหาคม 2550 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เข้าพบอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อแจ้งรายละเอียดของการเดินทางไปร่วมการแข่งขันการอ่านพระคัมภีร์อัลกุรอ่านดังกล่าว โดยกระทรวงการต่างประเทศได้ให้การสนับสนุนผู้ฝึกสอน (coach) ของสมาคมกอรีแห่งประเทศไทยในการส่งนักกอรีไทยเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ เพื่อเสริมการสนับสนุนจากกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงวัฒนธรรมที่สนับสนุนองค์ประกอบอื่น ๆ ในคณะของไทยที่เดินทางไปร่วมการแข่งขันครั้งนี้
คณะนักอ่านคัมภีร์อัลกุรอ่านจากประเทศไทยในปีนี้ ประกอบด้วย 1) นายสุรินทร์ ดาราฉาย หนึ่งในกรรมการตัดสิน จากสมาคมกอรีแห่งประเทศไทย 2) นายหร้อมหลี แหละมีนา นักกอรีชาย 3) นางสาวกนกวรรณ สุขถาวร นักกอรีหญิง 4) นายฮาหมิด เซ็งกะจรี ผู้ฝึกสอน และ 5) นายสมาน ก้อพิทักษ์ ผู้ประสานงานประจำคณะ ทั้งนี้ นักกอรีทีมชาติไทยที่จะเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันที่ประเทศมาเลเซียในปีนี้ เป็นผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดนักกอรีประจำปีในงานเมาลิดกลางแห่งประเทศ พ.ศ. 2549 (ฮ.ศ. 1427)
สมาคมกอรีแห่งประเทศไทยในความอุปถัมภ์ของจุฬาราชมนตรี เป็นสถาบันของบรรดานักกอรีไทยที่ได้การยอมรับจากชาวไทยมุสลิมและชาวมุสลิมในประเทศต่าง ๆ ที่ผ่านมาสมาคมฯ ได้ส่งนักกอรีไทยเข้าร่วมแข่งขันประกวดอ่านคัมภร์อัลกุรอ่านในต่างประเทศมาแล้วหลายปีติดต่อกัน ซึ่งนักกอรีไทยได้ทำชื่อเสียงให้กับประเทศไทย และเคยได้รับรางวัลชนะเลิศและรางวัลอื่น ๆ จากการแข่งขันอ่านคัมภีร์อัลกุรอ่านในประเทศต่าง ๆ มาแล้วหลายครั้ง เช่น บรูไน อิหร่าน อินโดนีเซีย โดยเฉพาะในการแข่งขันที่มาเลเซีย ได้รับรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระราชาธิบดีมาเลเซียถึง 7 ครั้ง ทำให้นักกอรีไทยเป็นที่รู้จักในวงการโลกมุสลิม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยได้รับการยอมรับอย่างสูงในวงการกอรีระดับโลกและในประเทศมุสลิมต่าง ๆ ที่เป็นเจ้าภาพจัดการประกวดแข่งขันอ่านคัมภีร์อัลกุรอ่านระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ประเทศมุสลิมต่าง ๆ ได้เชิญทีมนักกอรีไทยไปร่วมการแข่งขันอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งเชิญกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชาวไทยมุสลิมไปร่วมตัดสินด้วย
กระทรวงการต่างประเทศเห็นว่านักกอรีไทยได้ไปสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติถึงมาตรฐานคุณวุฒิทางวิชาการของนักกอรีไทยที่เป็นที่ยอมรับในระดับโลก ตลอดจนถึงสภาพของสังคมไทยอันมีเสรีภาพ/เปิดกว้างในการนับถือศาสนา รวมทั้งสนับสนุนกิจกรรมอันเกี่ยวเนื่องจากศาสนาหลัก ๆ อันเป็นที่ยอมรับทั้งปวง โดยถือเป็นการส่งเสริมกิจกรรมหนึ่งของคนไทยที่ไปสร้างชื่อเสียงในต่างประเทศ นอกจากนั้น ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะได้ให้การสนับสนุนถ้วยรางวัลในการประกวดนักกอรีประจำปีในงานเมาลิดกลางในประเทศไทยซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงปลายปี พ.ศ. 2550 (ฮ.ศ. 1428) อีกด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2550 อิหม่ามสนิท เอี่ยมฤทธิ์ นายกสมาคมกอรีแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้แทนจุฬาราชมนตรี ได้นำนักกอรีทีมชาติไทยที่จะเดินทางไปแข่งขันการอ่านคัมภีร์อัลกุรอ่านระหว่างประเทศ ครั้งที่ 49 ซึ่งมาเลเซียจะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 16-22 สิงหาคม 2550 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เข้าพบอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อแจ้งรายละเอียดของการเดินทางไปร่วมการแข่งขันการอ่านพระคัมภีร์อัลกุรอ่านดังกล่าว โดยกระทรวงการต่างประเทศได้ให้การสนับสนุนผู้ฝึกสอน (coach) ของสมาคมกอรีแห่งประเทศไทยในการส่งนักกอรีไทยเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ เพื่อเสริมการสนับสนุนจากกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงวัฒนธรรมที่สนับสนุนองค์ประกอบอื่น ๆ ในคณะของไทยที่เดินทางไปร่วมการแข่งขันครั้งนี้
คณะนักอ่านคัมภีร์อัลกุรอ่านจากประเทศไทยในปีนี้ ประกอบด้วย 1) นายสุรินทร์ ดาราฉาย หนึ่งในกรรมการตัดสิน จากสมาคมกอรีแห่งประเทศไทย 2) นายหร้อมหลี แหละมีนา นักกอรีชาย 3) นางสาวกนกวรรณ สุขถาวร นักกอรีหญิง 4) นายฮาหมิด เซ็งกะจรี ผู้ฝึกสอน และ 5) นายสมาน ก้อพิทักษ์ ผู้ประสานงานประจำคณะ ทั้งนี้ นักกอรีทีมชาติไทยที่จะเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันที่ประเทศมาเลเซียในปีนี้ เป็นผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดนักกอรีประจำปีในงานเมาลิดกลางแห่งประเทศ พ.ศ. 2549 (ฮ.ศ. 1427)
สมาคมกอรีแห่งประเทศไทยในความอุปถัมภ์ของจุฬาราชมนตรี เป็นสถาบันของบรรดานักกอรีไทยที่ได้การยอมรับจากชาวไทยมุสลิมและชาวมุสลิมในประเทศต่าง ๆ ที่ผ่านมาสมาคมฯ ได้ส่งนักกอรีไทยเข้าร่วมแข่งขันประกวดอ่านคัมภร์อัลกุรอ่านในต่างประเทศมาแล้วหลายปีติดต่อกัน ซึ่งนักกอรีไทยได้ทำชื่อเสียงให้กับประเทศไทย และเคยได้รับรางวัลชนะเลิศและรางวัลอื่น ๆ จากการแข่งขันอ่านคัมภีร์อัลกุรอ่านในประเทศต่าง ๆ มาแล้วหลายครั้ง เช่น บรูไน อิหร่าน อินโดนีเซีย โดยเฉพาะในการแข่งขันที่มาเลเซีย ได้รับรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระราชาธิบดีมาเลเซียถึง 7 ครั้ง ทำให้นักกอรีไทยเป็นที่รู้จักในวงการโลกมุสลิม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยได้รับการยอมรับอย่างสูงในวงการกอรีระดับโลกและในประเทศมุสลิมต่าง ๆ ที่เป็นเจ้าภาพจัดการประกวดแข่งขันอ่านคัมภีร์อัลกุรอ่านระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ประเทศมุสลิมต่าง ๆ ได้เชิญทีมนักกอรีไทยไปร่วมการแข่งขันอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งเชิญกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชาวไทยมุสลิมไปร่วมตัดสินด้วย
กระทรวงการต่างประเทศเห็นว่านักกอรีไทยได้ไปสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติถึงมาตรฐานคุณวุฒิทางวิชาการของนักกอรีไทยที่เป็นที่ยอมรับในระดับโลก ตลอดจนถึงสภาพของสังคมไทยอันมีเสรีภาพ/เปิดกว้างในการนับถือศาสนา รวมทั้งสนับสนุนกิจกรรมอันเกี่ยวเนื่องจากศาสนาหลัก ๆ อันเป็นที่ยอมรับทั้งปวง โดยถือเป็นการส่งเสริมกิจกรรมหนึ่งของคนไทยที่ไปสร้างชื่อเสียงในต่างประเทศ นอกจากนั้น ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะได้ให้การสนับสนุนถ้วยรางวัลในการประกวดนักกอรีประจำปีในงานเมาลิดกลางในประเทศไทยซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงปลายปี พ.ศ. 2550 (ฮ.ศ. 1428) อีกด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-