กรุงเทพ--6 ก.ค--กระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศเชิญหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมาร่วมการประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจว่าด้วยการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารของกัมพูชาเป็นมรดกโลก ที่ห้องประชุมสำนักงานรัฐมนตรี วันนี้ (5 กรกฎาคม 2550) เพื่อหารือและประสานงานร่วมกันในการดำเนินการต่างๆ เพื่อช่วยให้มติคณะกรรมการมรดกโลกที่ให้การขึ้นทะเบียนปราสาทบรรลุผลด้วยดีในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยที่ 32 ณ ประเทศแคนาดาในปีหน้า
ดร.มนัสพาสน์ ชูโต ผู้แทนพิเศษของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยที่ 31 ณ เมือง Christchurch ประเทศนิวซีแลนด์ ได้ชี้แจงให้ที่ประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจทราบมติของคณะกรรมการมรดกโลก และสิ่งที่ฝ่ายไทยจะพิจารณาดำเนินการโดยร่วมมือกับกัมพูชาอย่างเข้มแข็งและเป็นรูปธรรมเพื่อนำไปสู่การขึ้นทะเบียนปราสาทในปีหน้า
ดร.มนัสพาสน์ ชูโต หัวหน้าคณะผู้แทนไทยและประธานในที่ประชุมวันนี้ ยืนยันว่า ทางการไทยสนับสนุนการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกมาโดยตลอด และขอให้หน่วยราชการทุกฝ่ายแสดงความพร้อมที่จะให้ส่วนเกื้อกูลความร่วมมือระหว่างไทย-กัมพูชา ที่คาดว่าจะเริ่มขึ้นอย่างแข็งขันเพื่อเอื้ออำนวยให้กระบวนการขึ้นทะเบียนอย่างเป็นทางการโดยกัมพูชาประสบความสำเร็จสมตามความตั้งใจ
ดร.มนัสพาสน์ ชูโต ชี้แจงว่า ในระหว่างการประชุม ประธานที่ประชุมได้ขอร้องให้คณะผู้แทนไทยเสนอแผนปฏิบัติงานบางส่วนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งฝ่ายไทยก็สนองตอบด้วยดี เมื่อบัดนี้ คณะกรรมการมรดกโลกได้มีฉันทามติแล้ว ฝ่ายไทยจะต้องแสดงให้ปรากฏชัดว่า ฝ่ายไทยมีความจริงจังและจริงใจที่จะสนับสนุนกัมพูชาในการขึ้นทะเบียนปราสาท โดยช่วยดำเนินการต่างๆ เพื่อให้ข้อเสนอขึ้นทะเบียนของกัมพูชามีความสมบูรณ์ที่สุด
ในชั้นแรกนี้ กระทรวงการต่างประเทศจะฟื้นการปฏิบัติงานของคณะกรรมการร่วมไทย-กัมพูชาซึ่งมีอยู่หลายชุดด้วยกันในทันที และจะนัดหมายการประชุมร่วมกันโดยเร็วเท่าที่จะทำได้ คณะกรรมการร่วมชุดหนึ่ง อันได้แก่ ชุดที่ว่าด้วยการพัฒนาร่วมและการบูรณะปฏิสังขรณ์ปราสาทคงจะต้องรีบหารือกับฝ่ายกัมพูชา เพื่อหาข้อเท็จจริงที่มีข่าวว่าปราสาทบางส่วนกำลังเสื่อมโทรมลงเรื่องนี้พึงได้รับความเอาใจใส่โดยรีบด่วน เพื่อผ่อนคลายความกังวลของกรรมการบางประเทศที่อยู่ห่างจากพื้นที่ และดำเนินการต่อไปเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์และพัฒนาตามหลักวิชาการที่ถูกต้อง
กรมศิลปากรและผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดีของไทยได้รับที่จะเตรียมความพร้อมในเรื่องอันรีบด่วนนี้โดยจะประสานงานกับฝ่ายกัมพูชาเพื่อบูรณะสภาวะของส่วนที่อาจมีปัญหาอันจะเป็นการส่งเสริมคุณค่าสากลของปราสาทให้ดียิ่งขึ้นต้องตามหลักวิชาการ แม้ว่าคุณค่าสากลของปราสาทจะเป็นที่ยอมรับนับถือจากบรรดากรรมการมรดกโลกแล้วก็ตาม
ดร. มนัสพาสน์ ชูโต แถลงด้วยว่า โดยที่การประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยที่ 31 ได้สิ้นสุดลงแล้ว คณะกรรมการเฉพาะกิจว่าด้วยการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารของกัมพูชาเป็นมรดกโลกจะทำหน้าที่ต่อไปในการติดตามความคืบหน้าของความร่วมมือกัมพูชา-ไทย ในกระบวนการขึ้นทะเบียนปราสาทเพื่อให้สามารถมั่นใจได้ว่า การขึ้นทะเบียนอย่างเป็นทางการจะสัมฤทธิผลในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยประชุม ครั้งที่ 32 ณ ประเทศแคนาดา ในปี 2551
ทั้งนี้ ประเทศและประชาชนไทยพร้อมที่จะให้ความร่วมมือและสนับสนุนกัมพูชาและประชาคมระหว่างประเทศในการขึ้นทะเบียนและพัฒนาปราสาทพระวิหารอย่างจริงจัง เพื่อพัฒนาให้ประสาทพระวิหารเป็นโบราณสถานที่มีคุณค่าสมกับเป็นมรดกโลก และเป็นสัญญลักษณ์แห่งมิตรภาพและความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนระหว่างประเทศและประชาชนไทยกับกัมพูชาสืบไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
กระทรวงการต่างประเทศเชิญหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมาร่วมการประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจว่าด้วยการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารของกัมพูชาเป็นมรดกโลก ที่ห้องประชุมสำนักงานรัฐมนตรี วันนี้ (5 กรกฎาคม 2550) เพื่อหารือและประสานงานร่วมกันในการดำเนินการต่างๆ เพื่อช่วยให้มติคณะกรรมการมรดกโลกที่ให้การขึ้นทะเบียนปราสาทบรรลุผลด้วยดีในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยที่ 32 ณ ประเทศแคนาดาในปีหน้า
ดร.มนัสพาสน์ ชูโต ผู้แทนพิเศษของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยที่ 31 ณ เมือง Christchurch ประเทศนิวซีแลนด์ ได้ชี้แจงให้ที่ประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจทราบมติของคณะกรรมการมรดกโลก และสิ่งที่ฝ่ายไทยจะพิจารณาดำเนินการโดยร่วมมือกับกัมพูชาอย่างเข้มแข็งและเป็นรูปธรรมเพื่อนำไปสู่การขึ้นทะเบียนปราสาทในปีหน้า
ดร.มนัสพาสน์ ชูโต หัวหน้าคณะผู้แทนไทยและประธานในที่ประชุมวันนี้ ยืนยันว่า ทางการไทยสนับสนุนการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกมาโดยตลอด และขอให้หน่วยราชการทุกฝ่ายแสดงความพร้อมที่จะให้ส่วนเกื้อกูลความร่วมมือระหว่างไทย-กัมพูชา ที่คาดว่าจะเริ่มขึ้นอย่างแข็งขันเพื่อเอื้ออำนวยให้กระบวนการขึ้นทะเบียนอย่างเป็นทางการโดยกัมพูชาประสบความสำเร็จสมตามความตั้งใจ
ดร.มนัสพาสน์ ชูโต ชี้แจงว่า ในระหว่างการประชุม ประธานที่ประชุมได้ขอร้องให้คณะผู้แทนไทยเสนอแผนปฏิบัติงานบางส่วนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งฝ่ายไทยก็สนองตอบด้วยดี เมื่อบัดนี้ คณะกรรมการมรดกโลกได้มีฉันทามติแล้ว ฝ่ายไทยจะต้องแสดงให้ปรากฏชัดว่า ฝ่ายไทยมีความจริงจังและจริงใจที่จะสนับสนุนกัมพูชาในการขึ้นทะเบียนปราสาท โดยช่วยดำเนินการต่างๆ เพื่อให้ข้อเสนอขึ้นทะเบียนของกัมพูชามีความสมบูรณ์ที่สุด
ในชั้นแรกนี้ กระทรวงการต่างประเทศจะฟื้นการปฏิบัติงานของคณะกรรมการร่วมไทย-กัมพูชาซึ่งมีอยู่หลายชุดด้วยกันในทันที และจะนัดหมายการประชุมร่วมกันโดยเร็วเท่าที่จะทำได้ คณะกรรมการร่วมชุดหนึ่ง อันได้แก่ ชุดที่ว่าด้วยการพัฒนาร่วมและการบูรณะปฏิสังขรณ์ปราสาทคงจะต้องรีบหารือกับฝ่ายกัมพูชา เพื่อหาข้อเท็จจริงที่มีข่าวว่าปราสาทบางส่วนกำลังเสื่อมโทรมลงเรื่องนี้พึงได้รับความเอาใจใส่โดยรีบด่วน เพื่อผ่อนคลายความกังวลของกรรมการบางประเทศที่อยู่ห่างจากพื้นที่ และดำเนินการต่อไปเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์และพัฒนาตามหลักวิชาการที่ถูกต้อง
กรมศิลปากรและผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดีของไทยได้รับที่จะเตรียมความพร้อมในเรื่องอันรีบด่วนนี้โดยจะประสานงานกับฝ่ายกัมพูชาเพื่อบูรณะสภาวะของส่วนที่อาจมีปัญหาอันจะเป็นการส่งเสริมคุณค่าสากลของปราสาทให้ดียิ่งขึ้นต้องตามหลักวิชาการ แม้ว่าคุณค่าสากลของปราสาทจะเป็นที่ยอมรับนับถือจากบรรดากรรมการมรดกโลกแล้วก็ตาม
ดร. มนัสพาสน์ ชูโต แถลงด้วยว่า โดยที่การประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยที่ 31 ได้สิ้นสุดลงแล้ว คณะกรรมการเฉพาะกิจว่าด้วยการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารของกัมพูชาเป็นมรดกโลกจะทำหน้าที่ต่อไปในการติดตามความคืบหน้าของความร่วมมือกัมพูชา-ไทย ในกระบวนการขึ้นทะเบียนปราสาทเพื่อให้สามารถมั่นใจได้ว่า การขึ้นทะเบียนอย่างเป็นทางการจะสัมฤทธิผลในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยประชุม ครั้งที่ 32 ณ ประเทศแคนาดา ในปี 2551
ทั้งนี้ ประเทศและประชาชนไทยพร้อมที่จะให้ความร่วมมือและสนับสนุนกัมพูชาและประชาคมระหว่างประเทศในการขึ้นทะเบียนและพัฒนาปราสาทพระวิหารอย่างจริงจัง เพื่อพัฒนาให้ประสาทพระวิหารเป็นโบราณสถานที่มีคุณค่าสมกับเป็นมรดกโลก และเป็นสัญญลักษณ์แห่งมิตรภาพและความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนระหว่างประเทศและประชาชนไทยกับกัมพูชาสืบไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-