วันนี้(13 ส.ค. 50) นายสาธิต ปิตุเตชะ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญว่าเป็นประวัติศาสตร์ทางการเมือง เพราะเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ซึ่งการรณรงค์ว่าให้ลง หรือไม่ลงประชามติ มีคนบางกลุ่มที่ออกมารณรงค์เพื่อประโยชน์ของตนและพวกพ้อง โดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ ถ้าเป็นเช่นนี้ประเทศชาติก็ไม่ได้รับประโยชน์อะไร แต่สิ่งที่หลงเหลือในสังคมคือความแตกแยก
พรรคประชาธิปัตย์ จึงขอเรียกร้อง ขอให้ประชาชนคนไทย ที่มีความคิดเห็นว่าการรับ หรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญนั้น เป็นเรื่องปกติ เป็นความแตกต่างทางความคิด จึงไม่ควรจะนำมาเป็นประเด็นทำให้เกิดความแตกแยกทางสัมคม เพราะหากเหตุการณ์เป็นเช่นนั้นแล้ว เท่ากับเป็นการเข้าทางของกลุ่มคนบางกลุ่ม
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า เพื่อให้การลงประชามติ เป็นไปอย่างราบรื่น ยุติธรรม ตนขอเรียกร้องไปยัง กกต. ในการทำหน้าที่ควบคุม และดำเนินการ ให้การลงประชามติ เป็นไปอย่างราบรื่น และยุติธรรม จึงขอให้ กกต.เร่งประสานงานไปยังรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีเพื่อให้มีการสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่จะจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมาย พ.ร.บ.ลงประมามติ และให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้ามาดูแลการกระทำต่างที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย ที่สำคัญกว่านั้นตนเห็นว่า กกต. ควรร่วมมือกับเอกชนในการที่จะสืบสวนเสาะหาข้อมูลเบื้องลึกในการที่จะหาความจริง หรือหาพยาน เพื่อจะนำคนที่กระทำความผิดกฎหมายมาลงโทษ เป็นตัวอย่าง
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 13 ส.ค. 2550--จบ--
พรรคประชาธิปัตย์ จึงขอเรียกร้อง ขอให้ประชาชนคนไทย ที่มีความคิดเห็นว่าการรับ หรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญนั้น เป็นเรื่องปกติ เป็นความแตกต่างทางความคิด จึงไม่ควรจะนำมาเป็นประเด็นทำให้เกิดความแตกแยกทางสัมคม เพราะหากเหตุการณ์เป็นเช่นนั้นแล้ว เท่ากับเป็นการเข้าทางของกลุ่มคนบางกลุ่ม
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า เพื่อให้การลงประชามติ เป็นไปอย่างราบรื่น ยุติธรรม ตนขอเรียกร้องไปยัง กกต. ในการทำหน้าที่ควบคุม และดำเนินการ ให้การลงประชามติ เป็นไปอย่างราบรื่น และยุติธรรม จึงขอให้ กกต.เร่งประสานงานไปยังรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีเพื่อให้มีการสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่จะจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมาย พ.ร.บ.ลงประมามติ และให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้ามาดูแลการกระทำต่างที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย ที่สำคัญกว่านั้นตนเห็นว่า กกต. ควรร่วมมือกับเอกชนในการที่จะสืบสวนเสาะหาข้อมูลเบื้องลึกในการที่จะหาความจริง หรือหาพยาน เพื่อจะนำคนที่กระทำความผิดกฎหมายมาลงโทษ เป็นตัวอย่าง
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 13 ส.ค. 2550--จบ--