กรุงเทพ--18 พ.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
องค์การการประชุมอิสลาม (OIC)ได้ออกแถลงการณ์ร่วมหลังเสร็จการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศชื่นชม แนวทางการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลไทย และเรียกร้องให้ยุติการใช้ความรุนแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ เพื่อให้ประชาชนอยู่อย่างสันติสุข และสมานฉันท์ด้วยความหลากหลายทางศาสนาแต่มีพื้นฐานทางมรดกร่วมกัน พร้อมยืนยันว่าปัญหาภาคใต้มิใช่ปัญหาทางศาสนา แต่เป็นปัญหาเกี่ยวกับสิทธิทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม นอกจากนั้น OIC ย้ำถึงการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ซึ่งต้องเคารพในอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย และยังได้ชื่นชมความร่วมมือของไทยกับประเทศเพื่อนบ้านอันนำมาซึ่งผลสำเร็จแห่งการการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่ภาคใต้
เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2550 นายนิตย์ พิบูลสงคราม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ให้ สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศองค์การการประชุมอิสลาม (ICFM) ครั้งที่ 34ณ กรุงอิสลามาบัด ว่า รู้สึกพอใจกับผลการประชุมOIC ครั้งนี้มาก ผลการประชุมออกมาดี สมดุล และที่สำคัญ เอกสารต่างๆ ของ OIC สนับสนุนแนวทางการแก้ไขปัญหาของไทย โดยเรียกร้องให้ยุติความรุนแรงต่อผู้บริสุทธิ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยเรียกร้อง เป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหารและพลเรือน ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
นายนิตย์ฯ กล่าวว่า ข้อมติ OIC เกี่ยวกับไทยออกมาในเชิงบวก เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ โดยทุก เอกสารกล่าวถึงไทยในทางสนับสนุนการดำเนินการของไทย และสอดคล้องกับแถลงข่าวร่วมที่กรุงเทพฯ โดย OIC ชื่นชมแนวทางการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลไทยและเรียกร้องให้ยุติการใช้ความรุนแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ เพื่อให้ประชาชน อยู่อย่างสันติสุขและสมานฉันท์ ด้วยความหลากหลายทางศาสนาแต่มีพื้นฐานทางมรดกร่วมกัน พร้อมได้ย้ำว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น มิใช่ปัญหาทางศาสนา และเชื่อมั่นว่า รัฐบาลไทยจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้โดยสันติวิธี โดยการมีส่วนร่วม ของประชาชนในพื้นที่ แต่การดำเนินการต้องเคารพในอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย
นอกจากนั้น OIC ได้ชื่นชมความร่วมมือระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านอันนำมาซึ่งผลสำเร็จของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่ภาคใต้ด้วย
ข้อมติดังกล่าวยังได้ชื่นชมต่อพัฒนาการเชิงสร้างสรรค์ของการดำเนินการแก้ปัญหาของนายกรัฐมนตรีในการสร้างความมั่นใจในพื้นที่ โดยเฉพาะต่อการที่นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอโทษต่อคนมุสลิมสำหรับความผิดพลาดที่รัฐบาลที่แล้วได้ดำเนินการ และหวังว่า การดำเนินการของรัฐบาลจะนำไปสู่การยุติความรุนแรงในที่สุด
นายนิตย์ฯ ได้กล่าวด้วยว่า OIC ไม่ได้ออกข้อมติเกี่ยวกับสถานการณ์ชาวมุสลิมในไทยเป็นการเฉพาะเช่นที่ OIC ได้ดำเนินการกับบางประเทศ ทั้งนี้ จากที่ไทยได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับประเทศมุสลิมสำคัญใน OIC ทำให้ประเทศเหล่านี้ช่วยทำความเข้าใจกับ OIC เกี่ยวกับแนวทางการแก้ปัญหาภาคใต้ของไทย จนทำให้ผลการประชุมในส่วนที่เกี่ยวกับไทยออกมาสนับสนุนแนวทางแก้ปัญหาของไทย หลายประเทศเห็นว่า การสร้างความรุนแรงต่อผู้บริสุทธิ์เป็นสิ่งที่ป่าเถื่อนและยอมรับไม่ได้
รายละเอียดแถลงการณ์ร่วมของ OIC สามารถดูได้ www.oic-oci.org
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
องค์การการประชุมอิสลาม (OIC)ได้ออกแถลงการณ์ร่วมหลังเสร็จการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศชื่นชม แนวทางการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลไทย และเรียกร้องให้ยุติการใช้ความรุนแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ เพื่อให้ประชาชนอยู่อย่างสันติสุข และสมานฉันท์ด้วยความหลากหลายทางศาสนาแต่มีพื้นฐานทางมรดกร่วมกัน พร้อมยืนยันว่าปัญหาภาคใต้มิใช่ปัญหาทางศาสนา แต่เป็นปัญหาเกี่ยวกับสิทธิทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม นอกจากนั้น OIC ย้ำถึงการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ซึ่งต้องเคารพในอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย และยังได้ชื่นชมความร่วมมือของไทยกับประเทศเพื่อนบ้านอันนำมาซึ่งผลสำเร็จแห่งการการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่ภาคใต้
เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2550 นายนิตย์ พิบูลสงคราม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ให้ สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศองค์การการประชุมอิสลาม (ICFM) ครั้งที่ 34ณ กรุงอิสลามาบัด ว่า รู้สึกพอใจกับผลการประชุมOIC ครั้งนี้มาก ผลการประชุมออกมาดี สมดุล และที่สำคัญ เอกสารต่างๆ ของ OIC สนับสนุนแนวทางการแก้ไขปัญหาของไทย โดยเรียกร้องให้ยุติความรุนแรงต่อผู้บริสุทธิ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยเรียกร้อง เป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหารและพลเรือน ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
นายนิตย์ฯ กล่าวว่า ข้อมติ OIC เกี่ยวกับไทยออกมาในเชิงบวก เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ โดยทุก เอกสารกล่าวถึงไทยในทางสนับสนุนการดำเนินการของไทย และสอดคล้องกับแถลงข่าวร่วมที่กรุงเทพฯ โดย OIC ชื่นชมแนวทางการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลไทยและเรียกร้องให้ยุติการใช้ความรุนแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ เพื่อให้ประชาชน อยู่อย่างสันติสุขและสมานฉันท์ ด้วยความหลากหลายทางศาสนาแต่มีพื้นฐานทางมรดกร่วมกัน พร้อมได้ย้ำว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น มิใช่ปัญหาทางศาสนา และเชื่อมั่นว่า รัฐบาลไทยจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้โดยสันติวิธี โดยการมีส่วนร่วม ของประชาชนในพื้นที่ แต่การดำเนินการต้องเคารพในอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย
นอกจากนั้น OIC ได้ชื่นชมความร่วมมือระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านอันนำมาซึ่งผลสำเร็จของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่ภาคใต้ด้วย
ข้อมติดังกล่าวยังได้ชื่นชมต่อพัฒนาการเชิงสร้างสรรค์ของการดำเนินการแก้ปัญหาของนายกรัฐมนตรีในการสร้างความมั่นใจในพื้นที่ โดยเฉพาะต่อการที่นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอโทษต่อคนมุสลิมสำหรับความผิดพลาดที่รัฐบาลที่แล้วได้ดำเนินการ และหวังว่า การดำเนินการของรัฐบาลจะนำไปสู่การยุติความรุนแรงในที่สุด
นายนิตย์ฯ ได้กล่าวด้วยว่า OIC ไม่ได้ออกข้อมติเกี่ยวกับสถานการณ์ชาวมุสลิมในไทยเป็นการเฉพาะเช่นที่ OIC ได้ดำเนินการกับบางประเทศ ทั้งนี้ จากที่ไทยได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับประเทศมุสลิมสำคัญใน OIC ทำให้ประเทศเหล่านี้ช่วยทำความเข้าใจกับ OIC เกี่ยวกับแนวทางการแก้ปัญหาภาคใต้ของไทย จนทำให้ผลการประชุมในส่วนที่เกี่ยวกับไทยออกมาสนับสนุนแนวทางแก้ปัญหาของไทย หลายประเทศเห็นว่า การสร้างความรุนแรงต่อผู้บริสุทธิ์เป็นสิ่งที่ป่าเถื่อนและยอมรับไม่ได้
รายละเอียดแถลงการณ์ร่วมของ OIC สามารถดูได้ www.oic-oci.org
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-