แท็ก
อินเดีย
อินเดียเป็นตลาดใหม่ที่น่าสนใจนับตั้งแต่ดำเนินนโยบายเปิดเสรีทางเศรษฐกิจในปี 2534 และประกาศใช้นโยบายส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ ประกอบกับอินเดียเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีประชากรสูงถึง 1,065 ล้านคนและเศรษฐกิจกำลังเติบโต โดยในปีงบประมาณ 2547 (1 เมษายน 2546- 31 มีนาคม 2547) เศรษฐกิจขยายตัวสูงราว 6.7% อีกทั้งยังมีค่าเช่าที่ดินและค่าจ้างแรงงานต่ำ โดยแรงงานส่วนใหญ่สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ดี นอกจากนี้ยังมีระบบกฎหมายและบัญชีที่ได้มาตรฐานสากล ปัจจัยเหล่านี้จูงใจให้ชาวต่างชาติเข้าไปลงทุนในอินเดียเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ โดยในปี 2547 มีเงินลงทุนทางตรงจากต่างชาติไหลเข้าอินเดียราว 3,753.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2546 ถึง 48.6%
สำหรับนักลงทุนต่างชาติที่ต้องการจัดตั้งบริษัท/สำนักงานในอินเดียสามารถทำได้ในรูปแบบดังนี้
* การจดทะเบียนธุรกิจ การจัดตั้งบริษัทเอกชนในอินเดียอยู่ภายใต้กฎหมาย Companies Act 1956 กำหนดให้ต้องมีเงินทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ 1 แสนรูปี(ราว 2,198 ดอลลาร์สหรัฐ) มีจำนวนผู้ถือหุ้นได้ไม่เกิน 50 คน สำหรับโครงการลงทุนทั่วไปนักลงทุนสามารถยื่นเรื่องขออนุมัติการลงทุนกับธนาคารกลางของอินเดีย (Reserve Bank of India: RBI) ซึ่งส่วนใหญ่จะอนุมัติโดยอัตโนมัติ(Automatic Apporval) หากบริษัทมีคณะสมบัติครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ ยกเว้นในบางอุตสาหกรรม เช่น ปิโตรเลียม(ไม่รวมการขุดเจาะน้ำมัน) นักลงทุนต้องขออนุมัติการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนต่างชาติ(Foreign Investment Promotion Board: FIPB)
การจัดตั้งบริษัทในอินเดียแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ
- การร่วมลงทุนกับนักลงทุนท้องถิ่น สัดส่วนการถือหุ้นขึ้นกับความต้องการของนักลงทุนแต่จะต้องสอดคล้องกับสัดส่วนที่รัฐบาลอินเดียกำหนดไว้สำหรับในแต่ละอุตสาหกรรม เช่น นักลงทุนต่างชาติจะลงทุนในการสำรวจและขุดเจาะเพชรและหินมีค่าได้ไม่เกิน 74% ของมูลค่าการลงทุนทั้งหมด เป็นต้น
- การลงทุนโดยนักลงทุนต่างชาติ 100% สามารถทำได้ในอุตสาหกรรมที่รัฐบาลอินเดียอนุญาตเท่านั้น เช่น ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ ถนน ทางด่วน ท่าเรือ
* การจัดตั้งสำนักงาน นักลงทุนสามารถจัดตั้งสำนักงานเพื่อดำเนินธุรกิจในอินเดีย โดยจะต้องได้รับอนุญาตจากธนาคารกลางของอินเดีย ซึ่งการจัดตั้งสำนักงานทำได้ 3 ประเภทดังนี้
- สำนักงานสาขา เพื่อการนำเข้า/ส่งออกสินค้า โดยตรงหรือเป็นตัวแทนของบริษัทแม่ในการดำเนินการซื้อขายรวมถึงการให้บริการด้านวิชาชีพหรือให้คำปรึกษาต่างๆ โดยสำนักงานสาขาสามารถส่งผลกำไรสุทธิหลังหักภาษีกลับออกไปได้โดยยื่นเอกสารตามที่ธนาคารกลางกำหนด อาทิ สำเนางบดุลและงบกำไรขาดทุน ใบรับรองถึงรายละเอียดของผลกำไรที่ออกโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เป็นต้น
- สำนักงานโครงการ บริษัทต่างชาติที่มีแผนจะลงทุนในบางโครงการเป็นการเฉพาะเจาะจงสามารถเข้าไปตั้งสำนักงานในอินเดียได้ชั่วคราว แต่จะได้รับอนุญาตให้ทำธุรกิจได้เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าวเท่านั้น เมื่อโครงการเสร็จสิ้นลงก็สามารถส่งผลกำไรกลับออกไปได้หลังได้รับอนุญาตจากธนาคารกลาง
- สำนักงานตัวแทน เพื่อทำหน้าที่เก็บข้อมูล ศึกษาช่องทางการทำธุรกิจ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทและสินค้าของบริษัทแม่แก่ลูกค้าชาวอินเดีย เพื่อส่งเสริมการค้าตลอดจนเป็นตัวกลางในการอำนวยความสะดวกด้านเทคนิคและการเงินระหว่างบริษัทแม่กับสาขาหรือบริษัทในเครือที่อยู่ในอินเดีย
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย กันยายน 2548--
-พห-
สำหรับนักลงทุนต่างชาติที่ต้องการจัดตั้งบริษัท/สำนักงานในอินเดียสามารถทำได้ในรูปแบบดังนี้
* การจดทะเบียนธุรกิจ การจัดตั้งบริษัทเอกชนในอินเดียอยู่ภายใต้กฎหมาย Companies Act 1956 กำหนดให้ต้องมีเงินทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ 1 แสนรูปี(ราว 2,198 ดอลลาร์สหรัฐ) มีจำนวนผู้ถือหุ้นได้ไม่เกิน 50 คน สำหรับโครงการลงทุนทั่วไปนักลงทุนสามารถยื่นเรื่องขออนุมัติการลงทุนกับธนาคารกลางของอินเดีย (Reserve Bank of India: RBI) ซึ่งส่วนใหญ่จะอนุมัติโดยอัตโนมัติ(Automatic Apporval) หากบริษัทมีคณะสมบัติครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ ยกเว้นในบางอุตสาหกรรม เช่น ปิโตรเลียม(ไม่รวมการขุดเจาะน้ำมัน) นักลงทุนต้องขออนุมัติการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนต่างชาติ(Foreign Investment Promotion Board: FIPB)
การจัดตั้งบริษัทในอินเดียแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ
- การร่วมลงทุนกับนักลงทุนท้องถิ่น สัดส่วนการถือหุ้นขึ้นกับความต้องการของนักลงทุนแต่จะต้องสอดคล้องกับสัดส่วนที่รัฐบาลอินเดียกำหนดไว้สำหรับในแต่ละอุตสาหกรรม เช่น นักลงทุนต่างชาติจะลงทุนในการสำรวจและขุดเจาะเพชรและหินมีค่าได้ไม่เกิน 74% ของมูลค่าการลงทุนทั้งหมด เป็นต้น
- การลงทุนโดยนักลงทุนต่างชาติ 100% สามารถทำได้ในอุตสาหกรรมที่รัฐบาลอินเดียอนุญาตเท่านั้น เช่น ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ ถนน ทางด่วน ท่าเรือ
* การจัดตั้งสำนักงาน นักลงทุนสามารถจัดตั้งสำนักงานเพื่อดำเนินธุรกิจในอินเดีย โดยจะต้องได้รับอนุญาตจากธนาคารกลางของอินเดีย ซึ่งการจัดตั้งสำนักงานทำได้ 3 ประเภทดังนี้
- สำนักงานสาขา เพื่อการนำเข้า/ส่งออกสินค้า โดยตรงหรือเป็นตัวแทนของบริษัทแม่ในการดำเนินการซื้อขายรวมถึงการให้บริการด้านวิชาชีพหรือให้คำปรึกษาต่างๆ โดยสำนักงานสาขาสามารถส่งผลกำไรสุทธิหลังหักภาษีกลับออกไปได้โดยยื่นเอกสารตามที่ธนาคารกลางกำหนด อาทิ สำเนางบดุลและงบกำไรขาดทุน ใบรับรองถึงรายละเอียดของผลกำไรที่ออกโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เป็นต้น
- สำนักงานโครงการ บริษัทต่างชาติที่มีแผนจะลงทุนในบางโครงการเป็นการเฉพาะเจาะจงสามารถเข้าไปตั้งสำนักงานในอินเดียได้ชั่วคราว แต่จะได้รับอนุญาตให้ทำธุรกิจได้เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าวเท่านั้น เมื่อโครงการเสร็จสิ้นลงก็สามารถส่งผลกำไรกลับออกไปได้หลังได้รับอนุญาตจากธนาคารกลาง
- สำนักงานตัวแทน เพื่อทำหน้าที่เก็บข้อมูล ศึกษาช่องทางการทำธุรกิจ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทและสินค้าของบริษัทแม่แก่ลูกค้าชาวอินเดีย เพื่อส่งเสริมการค้าตลอดจนเป็นตัวกลางในการอำนวยความสะดวกด้านเทคนิคและการเงินระหว่างบริษัทแม่กับสาขาหรือบริษัทในเครือที่อยู่ในอินเดีย
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย กันยายน 2548--
-พห-