สศอ.จับมือสถาบันยานยนต์ ร่างแผนแม่บทพัฒนาอุตฯยานยนต์ไทยเฟส 2 ปี 2550-2554 ต่อยอดความสำเร็จจากเฟสแรก เน้นฐานการผลิตรถยนต์ที่สำคัญของโลก มุ่งพัฒนาคุณภาพรักษามาตรฐานการผลิต
ดร.อรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สศอ.ได้ร่วมมือกับสถาบันยานยนต์ เร่งจัดทำแผนแม่บทพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ ปี 2550-2554 ซึ่งเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากเฟสแรก (พ.ศ.2545-2549) ที่ทำให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญในเอเชีย และของโลก สามารถผลิตรถยนต์ได้เกิน 1 ล้านคันต่อปี สร้างมูลค่าเพิ่มในประเทศอย่างมหาศาล โดยขณะนี้แผนแม่บทยานยนต์เฟสแรกได้สิ้นสุดลงจึงมีการเร่งศึกษาวางแผนแม่บทพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ขึ้นมาใหม่ให้เกิดความต่อเนื่อง เพื่อรักษาศักยภาพที่มีอยู่ให้คงความเข้มแข็งยิ่งขึ้น และเป็นการวางกรอบการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อบรรลุความสำเร็จอย่างเต็มประสิทธิภาพ เนื่องจากขณะนี้อุตสาหกรรมยานยนต์ได้มีการแข็งขันกันสูง
“มีปัจจัยหลายประการที่อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ไม่ว่าจะเป็นมาตรการตามข้อตกลงการค้าเสรีต่างๆ ที่มีเป้าหมายให้ต้องลดภาษีเหลือ 0% ความท้าทายด้านพลังงานเชื้อเพลิงที่มีราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นโยบายและมาตรการกีดกันทางการค้าของประเทศคู่ค้าต่างๆ ที่มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย จึงมีความจำเป็นที่จะต้องจัดทำแผนแม่บทอุตสาหกรรมยานยนต์ฉบับใหม่ ซึ่ง สศอ.ได้มอบหมายให้สถาบันยานยนต์เป็นผู้ดำเนินการศึกษา ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในรัฐบาลชุดนี้”
ดร.อรรชกา กล่าวอีกว่า การศึกษาแผนแม่บทระยะที่ 2 มีเป้าหมายคือการมุ่งเน้นการรักษาความได้เปรียบในการเป็นฐานการผลิตของรถบรรทุก 1 ตัน ได้แก่ รถปิคอัพและอนุพันธ์ของปิคอัพ และสร้างโอกาสในการพัฒนาการเป็นฐานการผลิตของรถยนต์ประเภทอื่นๆ รวมถึงชิ้นส่วน OEM และ REM ที่มีโอกาสในการพัฒนาเชื่อมโยงจากการเป็นฐานการผลิตของรถยนต์แต่ละประเภท นอกจากนี้ยังจะเป็นการชี้นำหน่วยงานของรัฐในการกำหนดนโยบายและมาตรการสอดคล้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ผู้ประกอบการสามารถปรับตัวได้อย่างเหมาะสมต่อสภาวะแวดล้อมในการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีแผนแม่บทเป็นกรอบแนวทางที่สำคัญในการปรับปรุงและพัฒนาอุตสาหกรรมให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันที่ยั่งยืนต่อไป
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--
-พห-
ดร.อรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สศอ.ได้ร่วมมือกับสถาบันยานยนต์ เร่งจัดทำแผนแม่บทพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ ปี 2550-2554 ซึ่งเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากเฟสแรก (พ.ศ.2545-2549) ที่ทำให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญในเอเชีย และของโลก สามารถผลิตรถยนต์ได้เกิน 1 ล้านคันต่อปี สร้างมูลค่าเพิ่มในประเทศอย่างมหาศาล โดยขณะนี้แผนแม่บทยานยนต์เฟสแรกได้สิ้นสุดลงจึงมีการเร่งศึกษาวางแผนแม่บทพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ขึ้นมาใหม่ให้เกิดความต่อเนื่อง เพื่อรักษาศักยภาพที่มีอยู่ให้คงความเข้มแข็งยิ่งขึ้น และเป็นการวางกรอบการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อบรรลุความสำเร็จอย่างเต็มประสิทธิภาพ เนื่องจากขณะนี้อุตสาหกรรมยานยนต์ได้มีการแข็งขันกันสูง
“มีปัจจัยหลายประการที่อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ไม่ว่าจะเป็นมาตรการตามข้อตกลงการค้าเสรีต่างๆ ที่มีเป้าหมายให้ต้องลดภาษีเหลือ 0% ความท้าทายด้านพลังงานเชื้อเพลิงที่มีราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นโยบายและมาตรการกีดกันทางการค้าของประเทศคู่ค้าต่างๆ ที่มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย จึงมีความจำเป็นที่จะต้องจัดทำแผนแม่บทอุตสาหกรรมยานยนต์ฉบับใหม่ ซึ่ง สศอ.ได้มอบหมายให้สถาบันยานยนต์เป็นผู้ดำเนินการศึกษา ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในรัฐบาลชุดนี้”
ดร.อรรชกา กล่าวอีกว่า การศึกษาแผนแม่บทระยะที่ 2 มีเป้าหมายคือการมุ่งเน้นการรักษาความได้เปรียบในการเป็นฐานการผลิตของรถบรรทุก 1 ตัน ได้แก่ รถปิคอัพและอนุพันธ์ของปิคอัพ และสร้างโอกาสในการพัฒนาการเป็นฐานการผลิตของรถยนต์ประเภทอื่นๆ รวมถึงชิ้นส่วน OEM และ REM ที่มีโอกาสในการพัฒนาเชื่อมโยงจากการเป็นฐานการผลิตของรถยนต์แต่ละประเภท นอกจากนี้ยังจะเป็นการชี้นำหน่วยงานของรัฐในการกำหนดนโยบายและมาตรการสอดคล้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ผู้ประกอบการสามารถปรับตัวได้อย่างเหมาะสมต่อสภาวะแวดล้อมในการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีแผนแม่บทเป็นกรอบแนวทางที่สำคัญในการปรับปรุงและพัฒนาอุตสาหกรรมให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันที่ยั่งยืนต่อไป
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--
-พห-