ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ ระหว่าง 16 มีนาคม 2550 - 22 มีนาคม 2550
ภาคเหนือ
อากาศหนาวทางตอนบนของภาคในตอนเช้า กับมีอากาศร้อน และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยในวันที่ 19-22 มี.ค. จะมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว โดยหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตการเกษตรไว้กลางแจ้ง เพราะจะเสียหายได้ เนื่องจากระยะนี้บางพื้นที่อุณหภูมิแตกต่างกันมากระหว่างกลางวันและกลางคืน ดังนั้นจึงควรดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง โดยในวันที่ 18-22 มี.ค. จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย และมีลูกเห็บตกในบางพื้นที่ เกษตรกรควรจัดทำอาคารบ้านเรือนให้แข็งแรง และหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง ตลอดจนป้ายโฆษณาสูงๆ ขณะลมแรง เนื่องจากระยะนี้อากาศร้อน เกษตรกรควรลดอุณหภูมิภายในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ เพื่อป้องกันสัตว์เครียด อ่อนแอและเจ็บป่วย
ภาคกลาง
อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง โดยวันที่ 18-22 มี.ค. จะมีพายุฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเป็นแห่งๆ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว ในระยะนี้แม้มีฝนตกแต่ปริมาณน้อย เกษตรกรควรใช้น้ำอย่างประหยัดเพื่อจะได้มีน้ำใช้ในช่วงที่มีฝนตกน้อย
ภาคตะวันออก
อากาศร้อน และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง โดยในวันที่ 18-22 มี.ค. จะมีพายุฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย และมีลูกเห็บตกในบางพื้นที่ เกษตรกรควรผูกโยงและค้ำยันกิ่งของไม้ผลให้แข็งแรง เพื่อป้องกันกิ่งฉีกหักเมื่อมีลมพัดแรง สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะออกผล ซึ่งอยู่ในบริเวณที่ฝนไม่ตกและไม่มีปริมาณน้ำสำรองพอเพียง ชาวสวนควรปลิดผลบางส่วนทิ้ง เหลือไว้แต่ผลที่สมบูรณ์
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีเมฆบางส่วนกับมีอากาศร้อนบางพื้นที่ โดยจะมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง และในวันที่ 20-22 มีค. จะมีฝนเพิ่มขึ้นเป็นแห่งๆ สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะดอกบาน เกษตรกรควรงดการฉีดพ่นสาร ฆ่าแมลง เพื่อให้แมลงช่วยผสมเกสร รวมทั้งควรให้น้ำอย่างพอเพียง โดยให้ครั้งละน้อยๆแล้วค่อยเพิ่มปริมาณขึ้น นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดซึ่งจะดูดกิน น้ำเลี้ยงทำให้ดอกและผลอ่อนร่วงหล่น การติดผลลดลง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีเมฆบางส่วนกับมีอากาศร้อนบางพื้นที่ โดยจะมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง และในวันที่ 20-22 มีค. จะมีฝนเพิ่มขึ้นเป็นแห่งๆ สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะดอกบาน เกษตรกรควรงดการฉีดพ่นสาร ฆ่าแมลง เพื่อให้แมลงช่วยผสมเกสร รวมทั้งควรให้น้ำอย่างพอเพียง โดยให้ครั้งละน้อยๆแล้วค่อยเพิ่มปริมาณขึ้น นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดซึ่งจะดูดกิน น้ำเลี้ยงทำให้ดอกและผลอ่อนร่วงหล่น การติดผลลดลง