บาทแข็งส่งออกไทย+สิ่งทอ-อาหารสั่งลดคนงานเลิกจ้างโอที/บ่อกุ้งปิดตัว

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 14, 2007 11:50 —กรมส่งเสริมการส่งออก

          นายวัลลภ  วิตนากร ประธานกรรมการกลุ่มบริษัทไฮเทค ผู้ผลิตและส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูป เปิดเผยว่า จากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ใช้มาตรการกันสำรอง 30% เพื่อสกัดการเก็งกำไรค่าเงินบาทเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แม้เวลานี้จะส่งผลทำให้ค่าเงินบาทไม่ผันผวนมาก โดยยืนอยู่ที่ระดับ 35.75-35.85 บาท หรือเฉลี่ย 35.80 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แต่ยังถืออยู่ในระดับที่แข็งมาก
นายเธียรชัย มหาศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเหรียญไทย แอพพาเรล จำกัด เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทที่ยังแข็งค่า ทำให้ความสามารถในการแข่งขันของบริษัทลดลงมาก ลูกค้ามีการต่อรองราคาลงอีกเพราะค่าเงินบาททำให้สินค้าแพงขึ้น บริษัทได้ลดกำลังการผลิตลงโดยรับคำสั่งซื้อเท่าที่สามารถรับราคาได้เพื่อความอยู่รอด ส่วนแรงงานต้องเลิกจ้างไปบางส่วนและใช้เท่าที่จำเป็น
นางวิไล เกียรติศรีชาติ นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป กล่าวว่า การที่ค่าเงินบาทเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 35 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ทำให้คำสั่งซื้อสินค้าอาหารสำเร็จรูปจากต่างประเทศในขณะนี้ซบเซามาก หลายโรงงานต้องลดหรือเลิกการทำงานล่วงเวลา(โอที) อย่างไรก็ตามในแต่ละปีที่ผ่านมาจะเริ่มมีคำสั่งซื้อเข้ามามากในเดือนมีนาคม ต้องจับตามองว่า ในเดือนมีนาคมค่าเงินบาทจะอยู่ที่ระดับเท่าใดเพราะจะมีผลต่อคำสั่งซื้อมาก และจะส่งผลกระทบต่อภาคแรงงานรวมถึงกระทบต่อมูลค่าการส่งออกของไทยในภาพรวม จากแต่ละปีไทยส่งออกอาหารสำเร็จรูป 1.2-1.3 แสนล้านบาท รวมกับอาหารแช่เยือกแข็งของสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทยอีกแสนกว่าล้านบาท รวมสองสมาคมเกือบ 3 แสนล้านบาท"
ประเด็นวิเคราะห์
จากภาวะดังกล่าว ทำให้ผู้ผลิตและส่งออก ต้องปรับตัวโดยการลดค่าใช้จ่ายด้านอื่น ๆ เช่น การปรับลดแรงงานไร้ฝีมือ และฝ่ายอื่น ๆ ที่ไม่จำเป็น โดยคงไว้เฉพาะผู้ที่มีความรู้ความสามารถจริง ๆ เท่านั้น การสร้างห่วงโซ่อุปทาน(ซัพพลายเชน) กับอุตสาหกรรมต้นน้ำ-กลางน้ำเพื่อลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ และการรับคำสั่งซื้อเท่าที่ความสามารถในการผลิตมีอยู่ไม่รับเกินตัวเหมือนเมื่อก่อน
ที่มา: http://www.depthai.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ