กรุงเทพ--8 ก.พ.--กระทรวงการต่างประเทศ
นายกิตติ วะสีนนท์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงข่าวประจำสัปดาห์ ณ ห้องประชุมกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โดยมีผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าว หนังสือพิมพ์ และสถานีโทรทัศน์ เข้าร่วมรับฟังและซักถามในประเด็นต่าง ๆ สรุปได้ดังนี้
1. นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
ดาโต๊ะซรี อับดุลลาห์ อาหมัด บาดาวี (Dato’ Seri Abdullah Ahmad Badawi) นายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะเดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 11-13 กุมภาพันธ์ 2550 ตามคำเชิญของพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี โดยเป็นตอบแทนการที่พลเอกสุรยุทธ์ฯ ได้เดินทางเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2549
อนึ่ง ในการเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียครั้งนี้ ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2550 นายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะพบกับพลเอกสุรยุทธ์ฯ อย่างไม่เป็นทางการที่จังหวัดภูเก็ต ต่อมาในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2550 นายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะเดินทางมากรุงเทพฯ ซึ่งพลเอกสุรยุทธ์ฯ จะนำนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน หลังจากนั้น จะมีการหารือข้อราชการในรูปแบบเต็มคณะระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยและมาเลเซีย ณ ทำเนียบรัฐบาล และพลเอกสุรยุทธ์ฯ จะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีมาเลเซียด้วย
การเดินทางเยือนประเทศไทยของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์และกระชับความร่วมมือที่ดีระหว่างไทยและมาเลเซียให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายมีระดับความสัมพันธ์ที่ดี ส่วนด้านสารัตถะนั้นล้วนเป็นประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายสนใจตรงกัน อาทิ ความร่วมมือด้านความมั่นคง ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ การกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมภายใต้กรอบโครงการ Joint Development Strategy (JDS) และ Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle (IMT-GT) การแก้ไขปัญหาบุคคลสองสัญชาติ รวมไปถึงการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์เพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการจัดกิจกรรมฉลองครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-มาเลเซียในวันที่ 31 สิงหาคม 2550 ซึ่งประเด็นต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนเป็นส่วนช่วยในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยด้วย
2. การส่งทหารไทยไปสังเกตการณ์ในปฏิบัติการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในเนปาล
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2550 คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติในหลักการให้ส่งเจ้าหน้าที่ทหารไทยเพื่อรับการคัดเลือกให้ปฏิบัติหน้าที่ทหารสังเกตการณ์ในปฏิบัติการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในประเทศเนปาลตามที่สหประชาชาชาติร้องขอ
การปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้เป็นการดำเนินการตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ 1740 (2007) ที่จัดตั้งปฏิบัติการของสหประชาชาติในเนปาล (United Nations Political Mission in Nepal - UNMIN) โดยมีอาณัติให้ตรวจตรากองกำลังและอาวุธตามแนวทางของกระบวนการสันติภาพและสนับสนุนการจัดการเลือกตั้งทั่วไปในประเทศเนปาล ซึ่งจะมีระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่ในชั้นต้นเป็นเวลา 12 เดือน มีผู้แทนพิเศษของเลขาธิการสหประชาชาติเป็นหัวหน้า UNMIN
สำหรับภารกิจในครั้งนี้จะประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ตรวจตราอาวุธทั้งหมด ไม่เกิน 186 นาย โดยเป็นนายทหารหรืออดีตนายทหารที่ไม่ติดอาวุธและไม่สวมเครื่องแบบ ที่ปรึกษาและเจ้าหน้าที่พลเรือน
ด้านการเลือกตั้ง การเมืองและการประชาสัมพันธ์ รวมทั้งจะมีการใช้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครของสหประชาชาติเพื่อสนับสนุนงานด้านการเลือกตั้ง
สหประชาชาติได้ขอความร่วมมือจากประเทศไทยในการพิจารณาส่งทหารเข้ารับการคัดเลือกเพื่อปฏิบัติภารกิจทหารสังเกตการณ์ที่ประเทศเนปาลในฐานะผู้เชี่ยวชาญ (experts on mission) จำนวน 10 นาย และภารกิจแพทย์ทหารจำนวน 10 นาย ซึ่งกองบัญชาการทหารสูงสุดและกระทรวงกลาโหมยืนยันความพร้อมที่จะส่งทหารเข้าร่วมในภารกิจตามคำขอของสหประชาชาติ โดยสหประชาชาติเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมดของผู้เข้าร่วมในการปฏิบัติการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ทั้งนี้ คาดว่า จะสามารถส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมปฏิบัติการฯ ได้ประมาณเดือนมีนาคม 2550
3. การจัดหน่วยหนังสือเดินทางเคลื่อนที่ที่ปัตตานีและอุดรธานี
ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2550 กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ จะจัดหน่วยหนังสือเดินทางเคลื่อนที่เพื่อให้บริการประชาชน ใน 2 จังหวัด ดังนี้
3.1 จังหวัดปัตตานี ระหว่างวันที่ 6 — 16 กุมภาพันธ์ 2550 ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี (โดยจะปิดให้บริการในวันเสาร์ที่ 10 และวันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2550) การจัดหน่วยหนังสือเดินทางเคลื่อนที่ที่จังหวัดปัตตานีเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในพื้นที่และโดยเฉพาะประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งทุกปีจะมีประชาชนจำนวนมากเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ดังเช่นเมื่อปี 2549 กระทรวงฯ ก็ได้ให้บริการหนังสือเดินทางเคลื่อนที่ในลักษณะนี้มาแล้ว และมีประชาชนมายื่นคำร้องขอทำหนังสือเดินทางเพื่อไปเข้าร่วมพิธีฮัจย์จำนวน 3,463 ราย ดังนั้น คาดว่า ในปีนี้จะมีประชาชนมาขอใช้บริการจำนวนมากเช่นกัน
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
นายกิตติ วะสีนนท์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงข่าวประจำสัปดาห์ ณ ห้องประชุมกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โดยมีผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าว หนังสือพิมพ์ และสถานีโทรทัศน์ เข้าร่วมรับฟังและซักถามในประเด็นต่าง ๆ สรุปได้ดังนี้
1. นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
ดาโต๊ะซรี อับดุลลาห์ อาหมัด บาดาวี (Dato’ Seri Abdullah Ahmad Badawi) นายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะเดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 11-13 กุมภาพันธ์ 2550 ตามคำเชิญของพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี โดยเป็นตอบแทนการที่พลเอกสุรยุทธ์ฯ ได้เดินทางเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2549
อนึ่ง ในการเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียครั้งนี้ ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2550 นายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะพบกับพลเอกสุรยุทธ์ฯ อย่างไม่เป็นทางการที่จังหวัดภูเก็ต ต่อมาในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2550 นายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะเดินทางมากรุงเทพฯ ซึ่งพลเอกสุรยุทธ์ฯ จะนำนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน หลังจากนั้น จะมีการหารือข้อราชการในรูปแบบเต็มคณะระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยและมาเลเซีย ณ ทำเนียบรัฐบาล และพลเอกสุรยุทธ์ฯ จะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีมาเลเซียด้วย
การเดินทางเยือนประเทศไทยของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์และกระชับความร่วมมือที่ดีระหว่างไทยและมาเลเซียให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายมีระดับความสัมพันธ์ที่ดี ส่วนด้านสารัตถะนั้นล้วนเป็นประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายสนใจตรงกัน อาทิ ความร่วมมือด้านความมั่นคง ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ การกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมภายใต้กรอบโครงการ Joint Development Strategy (JDS) และ Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle (IMT-GT) การแก้ไขปัญหาบุคคลสองสัญชาติ รวมไปถึงการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์เพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการจัดกิจกรรมฉลองครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-มาเลเซียในวันที่ 31 สิงหาคม 2550 ซึ่งประเด็นต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนเป็นส่วนช่วยในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยด้วย
2. การส่งทหารไทยไปสังเกตการณ์ในปฏิบัติการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในเนปาล
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2550 คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติในหลักการให้ส่งเจ้าหน้าที่ทหารไทยเพื่อรับการคัดเลือกให้ปฏิบัติหน้าที่ทหารสังเกตการณ์ในปฏิบัติการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในประเทศเนปาลตามที่สหประชาชาชาติร้องขอ
การปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้เป็นการดำเนินการตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ 1740 (2007) ที่จัดตั้งปฏิบัติการของสหประชาชาติในเนปาล (United Nations Political Mission in Nepal - UNMIN) โดยมีอาณัติให้ตรวจตรากองกำลังและอาวุธตามแนวทางของกระบวนการสันติภาพและสนับสนุนการจัดการเลือกตั้งทั่วไปในประเทศเนปาล ซึ่งจะมีระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่ในชั้นต้นเป็นเวลา 12 เดือน มีผู้แทนพิเศษของเลขาธิการสหประชาชาติเป็นหัวหน้า UNMIN
สำหรับภารกิจในครั้งนี้จะประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ตรวจตราอาวุธทั้งหมด ไม่เกิน 186 นาย โดยเป็นนายทหารหรืออดีตนายทหารที่ไม่ติดอาวุธและไม่สวมเครื่องแบบ ที่ปรึกษาและเจ้าหน้าที่พลเรือน
ด้านการเลือกตั้ง การเมืองและการประชาสัมพันธ์ รวมทั้งจะมีการใช้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครของสหประชาชาติเพื่อสนับสนุนงานด้านการเลือกตั้ง
สหประชาชาติได้ขอความร่วมมือจากประเทศไทยในการพิจารณาส่งทหารเข้ารับการคัดเลือกเพื่อปฏิบัติภารกิจทหารสังเกตการณ์ที่ประเทศเนปาลในฐานะผู้เชี่ยวชาญ (experts on mission) จำนวน 10 นาย และภารกิจแพทย์ทหารจำนวน 10 นาย ซึ่งกองบัญชาการทหารสูงสุดและกระทรวงกลาโหมยืนยันความพร้อมที่จะส่งทหารเข้าร่วมในภารกิจตามคำขอของสหประชาชาติ โดยสหประชาชาติเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมดของผู้เข้าร่วมในการปฏิบัติการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ทั้งนี้ คาดว่า จะสามารถส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมปฏิบัติการฯ ได้ประมาณเดือนมีนาคม 2550
3. การจัดหน่วยหนังสือเดินทางเคลื่อนที่ที่ปัตตานีและอุดรธานี
ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2550 กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ จะจัดหน่วยหนังสือเดินทางเคลื่อนที่เพื่อให้บริการประชาชน ใน 2 จังหวัด ดังนี้
3.1 จังหวัดปัตตานี ระหว่างวันที่ 6 — 16 กุมภาพันธ์ 2550 ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี (โดยจะปิดให้บริการในวันเสาร์ที่ 10 และวันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2550) การจัดหน่วยหนังสือเดินทางเคลื่อนที่ที่จังหวัดปัตตานีเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในพื้นที่และโดยเฉพาะประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งทุกปีจะมีประชาชนจำนวนมากเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ดังเช่นเมื่อปี 2549 กระทรวงฯ ก็ได้ให้บริการหนังสือเดินทางเคลื่อนที่ในลักษณะนี้มาแล้ว และมีประชาชนมายื่นคำร้องขอทำหนังสือเดินทางเพื่อไปเข้าร่วมพิธีฮัจย์จำนวน 3,463 ราย ดังนั้น คาดว่า ในปีนี้จะมีประชาชนมาขอใช้บริการจำนวนมากเช่นกัน
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-