อุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยาง
อุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยางเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศทั้งในแง่ของการสร้างมูลค่าเพิ่มและการจ้าง
งาน จากการที่ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกยางธรรมชาติมากที่สุดในโลก ส่งผลให้เกิดความได้เปรียบในด้านวัตถุดิบและสร้างมูลค่าในการส่งออก
ให้กับประเทศเป็นอย่างมาก โดยในปี 2549 มีมูลค่าส่งออกในกลุ่มอุตสาหกรรมไม่น้อยกว่า 8,422 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีอัตราการขยายตัวร้อยละ
38.96 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ซึ่งแบ่งเป็น (1). การส่งออกยางพาราขั้นต้น ประเภทยางแผ่น ยางแท่ง น้ำยางข้น และยางขั้นต้นอื่น ๆ มีมูลค่าส่ง
ออกรวมกันประมาณ 5,364.84 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 44.60 และ (2) ส่วนผลิตภัณฑ์ยางมีการส่งออก 3,057.96 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ขยายตัวร้อยละ 30.06 ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการขยายตัวของกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพที่อยู่ในระดับที่น่าพอใจ
1. การผลิต
การผลิตยางพาราของประเทศมีจำนวนประมาณ 3.0 ล้านตัน/ปี ซึ่งจำนวนร้อยละ 90 จะถูกนำไปแปรรูปเป็นยางขั้นต้น ได้แก่ ยาง
แผ่น ยางแท่ง ยางเครพ และน้ำยางข้น เป็นต้น ส่วนที่เหลือ จะนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ยาง ได้แก่ ยางยานพาหนะ ถุงมือยาง ยางรัดของ และ
สายยางยืด เป็นต้น
การผลิตยางขั้นต้น ในปี 2549 มีการผลิตยางแผ่นจำนวน 286,772 ตัน และยางแท่งจำนวน 837,862 ตัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ
3.52 และ 4.26 ตามลำดับ
สำหรับผลิตภัณฑ์ยางในปี 2549 ในช่วงของไตรมาสแรก มีอัตราการผลิตขยายตัวเพิ่มขึ้นเพื่อสต็อกสินค้า เนื่องจากมีความผันผวนของราคา
ยาง และราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีผลกระทบต่อต้นทุนการผลิต เป็นผลให้ไตรมาส 3 และ4 มีการผลิตในอัตราลดลงซึ่งสอดคล้องกับการ
ผลิตรถยนต์ในประเทศที่มีอัตราการขยายที่ตัวลดลงจากปีที่แล้วจากร้อยละ 10 เป็น ร้อยละ 6 เมื่อรวมทั้งปีทำให้มีการผลิตอัตราการขยายตัวลดลงจาก
ปีก่อน โดยจำแนกเป็นการผลิตยางนอกรถยนต์นั่ง จำนวน 12,845,101 เส้น ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 3.48 ยางนอกรถกะบะจำนวน 5,600,630
เส้น ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 1.67 ยางนอกรถบรรทุกและรถโดยสาร จำนวน 4,786,525 เส้น ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 7.55 ยางนอกรถ
จักรยานยนต์ จำนวน 20,539,044 เส้น ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 4.51 ถุงมือยาง จำนวน 8,189,453,436 ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 14.42 และ
ยางรัดของ จำนวน 14,543 ตัน ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 4.66 เป็นต้น
ตารางที่ 1 ปริมาณการผลิตผลิตภัณฑ์ยาง
ปริมาณการผลิต หน่วย 2545 2546 2547 2548 2549* %
2548/2549
ยางนอกรถยนต์นั่ง เส้น 8,248,304 10,101,266 13,680,209 13,307,590 12,845,101 -3.48
ยางนอกรถกะบะ เส้น 4,324,131 4,813,007 5,114,585 5,695,564 5,600,630 -1.67
ยางนอกรถบรรทุก 3,791,296 4,080,377 4,973,626 5,177,195 4,786,525 -7.55
และรถโดยสาร เส้น
ยางนอกรถจักรยานยนต์ เส้น 14,185,651 16,063,757 18,423,018 21,508,505 20,539,044 -4.51
ยางนอกรถแทรกเตอร์ เส้น 143,750 184,597 189,870 185,538 175,530 -5.39
ยางนอกอื่น ๆ เส้น 1,845,430 878,226 1,257,958 509,541 571,352 12.13
ยางในรถบรรทุก 2,409,874 2,738,010 2,459,960 2,493,313 2,089,391 -16.2
และรถโดยสาร เส้น
ยางในรถจักรยานยนต์ เส้น 22,379,975 25,660,511 30,346,772 34,457,439 30,697,405 -10.91
ยางในรถจักรยาน เส้น 23,076,717 23,097,066 22,982,290 19,810,522 16,368,959 -17.37
ยางรอง เส้น 2,942,929 2,347,420 2,833,121 3,143,402 3,115,907 -0.87
ยางหล่อดอก เส้น 226,818 269,270 261,588 281,254 116,868 -58.45
ถุงมือยางถุงมือตรวจ ชิ้น 8,705,750,223 9,027,961,011 9,918,454,683 9,567,164,856 8,187,453,436 -14.42
ยางรัดของ ตัน 16,681 15,643 16,000 15,254 14,543 -4.66
ยางแผ่น ตัน 376,487 379,224 324,200 277,024 286,772 3.52
ยางแท่ง ตัน 709,146 806,225 715,185 803,651 837,862 4.26
ที่มา : 1. ศูนย์สารสนเทศเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
หมายเหตุ : 2549* ตัวเลขประมาณการ
2. การตลาด
2.1 ตลาดส่งออก ประเภทสินค้าที่ผลิตและส่งออก แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1) ยางแปรรูปขั้นต้น แบ่งเป็นการส่งออก ยางแผ่น 1,857 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ร้อยละ 40.90 ยางแท่งจำนวน
2,191..56 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 40.04 น้ำยางข้นจำนวน 1,219.92 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 61.11
ตลาดส่งออกสำคัญได้แก่ จีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย อินเดีย และสหรัฐอเมริกา
2) ผลิตภัณฑ์ยาง แบ่งเป็นการส่งออกยางยานพาหนะ 1,187.52 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 31.89 ถุงมือยาง
553.44 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 7.32 สายพานลำเลียงและ ส่งกำลัง 43.68 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ
39.55 ล้านเหรียญสหรัฐ ตลาดสำคัญได้แก่ สหรัฐอเมริกา , ญี่ปุ่น , ฮ่องกง เฉพาะสายพานลำเลียง และส่งกำลัง ตลาดที่สำคัญได้แก่ สิงคโปร์
ตารางที่ 2 มูลค่าการส่งออกของสินค้ายางและผลิตภัณฑ์ยาง
หน่วย: ล้านเหรียญสหรัฐ
สินค้า 2545 2546 2547 2548 2549* %
2548/ 2549
ยางพารา 1,740.20 2,787.70 3,428.90 3,710.00 5,364.84 44.6
ยางแผ่น 786.9 1,198.90 1,325.40 1,318.00 1,857.00 40.9
ยางแท่ง 603.8 1,002.30 1,325.30 1,565.00 2,191.56 40.04
น้ำยางข้น 322 545.7 713.7 757.2 1,219.92 61.11
ยางพาราอื่น ๆ 27.6 41.2 64.4 69.8 96.24 37.88
ผลิตภัณฑ์ยาง 1,268.00 1,557.60 1,959.60 2,351.20 3,057.96 30.06
ยางยานพาหนะ 435.3 475 679.8 900.4 1,187.52 31.89
ถุงมือยาง 394.1 474.5 489.4 515.7 553.44 7.32
ยางรัดของ 30.5 35.4 45.9 47.8 63.6 33.05
หลอดและท่อ 38.5 56.3 73 86.5 103.56 19.72
สายพานลำเลียงและส่งกำลัง 12.6 15.3 23.7 31.3 43.68 39.55
ผลิตภัณฑ์ยางที่ใช้ทางเภสัชกรรม 110.1 156.8 151.1 189.2 208.8 10.36
ยางวัลแคไนซ์ 79.2 87.6 120.5 147.7 214.68 45.35
ผลิตภัณฑ์ยางอื่น ๆ 165.9 255.9 361.2 432.6 682.8 57.84
รวม 3,008.20 4,345.30 5,388.50 6,061.20 8,422.80 38.96
ที่มา : 1. ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร กระทรวงการคลัง
หมายเหตุ : 2549* ตัวเลขประมาณการ
2.2 ตลาดนำเข้า การนำเข้าผลิตภัณฑ์ยางมีมูลค่า 1,035.24 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ร้อยละ 94.23 โดยแบ่ง
เป็นประเภทท่อหรือข้อต่อ สายพานลำเลียง จำนวน 114 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 18.65 ผลิตภัณฑ์ยางวัลแคไนซ์ จำนวน
312.24 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ร้อยละ 8.76 และยางรถยนต์ จำนวน 153.36 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 38.54
โดยสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์ยางวัลแคไนซ์ นำเข้ามาจากประเทศ ญี่ปุ่น เยอรมัน จีน และสหรัฐอเมริกา
ตารางที่ 3 มูลค่าการนำเข้าของสินค้ายางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง
หน่วย : ล้านเหรียญสหรัฐ
สินค้า 2545 2546 %
2547 2548 2549* 2548/ 2549
ผลิตภัณฑ์ยาง 376.2 376.2 470 533 1,035.24 94.23
ท่อหรือข้อต่อและสายพานลำเลียง 66.4 75.6 81.6 96.1 114 18.63
ผลิตภัณฑ์ยางวัลแคไนซ์ เช่น ประเก็น ฝารอง และซีล 234.9 255.9 260.7 287.1 312.24 8.76
ยางรถยนต์ 52.8 61.7 90.3 110.7 153.36 38.54
กระเบื้องปูพื้นและปิดผนัง 3.3 2.9 6.4 4.5 5.88 30.67
ยางสังเคราะห์ 173.3 198.7 257.9 346.2 408.12 17.89
อื่น ๆ รวมเศษยาง 24.1 31.5 29.9 34.5 41.64 20.7
ที่มา : 1. ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร กระทรวงการคลัง
หมายเหตุ : 2549* ตัวเลขประมาณการ
3. สรุปภาพรวมปี 2549
ปี 2549 ในช่วงต้นปีอุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยางอยู่ในภาวะการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตามตลาดโลกที่ยังคงมีปริมาณความต้องการ
ใช้ยางเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดในประเทศจีน ที่ใช้ยางในปริมาณมากเพื่อรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ กอร์ปกับราคาน้ำมันยังอยู่ใน
ระดับที่สูงทำให้ราคายางสังเคราะห์ที่ทำมาจากน้ำมันมีราคาสูงด้วย ในช่วงครึ่งหลังปี 2549 ทิศทางราคายางที่มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็น
ช่วงฤดูกาลผลิตยางในประเทศ ทำให้ประเทศผู้ซื้อ ผู้ใช้ยางชะลอการซื้อเพื่อรอดูทิศทางของราคายางโรงงานผลิต โรงงานผลิตผลิตภัณฑ์ยางลดกำลัง
การผลิต ทั้งในอุตสาหกรรมผลิตยางล้อและอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางอื่น ๆ ส่วนของประเทศนำเข้ายางรายใหญ่ของโลกทั้งจีน สหรัฐอเมริกา และ
ญี่ปุ่นล้วนมีสต็อกยางในปริมาณสูงหันไปใช้ยางที่สต็อกไว้ก่อนหน้านี้ รวมทั้งต้องการรอดูทิศทางราคายางที่มีแนวโน้มลดลง และราคาน้ำมันมีแนวโน้มลดลง
อย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคายางสังเคราะห์ที่ใช้ทดแทนยางธรรมชาติมีแนวโน้มลดลงด้วย ซึ่งส่งผลกดดันต่อราคายางธรรมชาติ นอกจากนี้การแข็งค่าขึ้น
ของเงินบาทส่งผลให้ผู้ส่งออกยางของไทยต้องประสบกับภาวะขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน และบรรดาพ่อค้ายังใช้เป็นข้ออ้างในการกดราคารับซื้อยางใน
ประเทศ เนื่องจากไม่สามารถปรับราคาส่งออกได้ อย่างไรก็ตามในปี 2549 ราคายางทรงตัวอยู่ในระดับ 55 - 70 บาทต่อกิโลกรัม และจะต่อเนื่อง
ไปถึงปี 2550 - 2551
4.แนวโน้มปี 2550
แนวโน้มอุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยางในปี 2550 คาดการณ์ว่าทั้งปริมาณการผลิตและปริมาณการใช้ยางยังคงมีแนวโน้มขยายตัวโดย
คาดว่าจะมีอัตราการขยายตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 เปรียบเทียบกับปี 2549 ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมใหม่และ
ยุทธศาสตร์ยางพาราปี 2549 — 2551 ที่มีเป้าหมายมุ่งเน้นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ และการสร้างคุณค่า
เพิ่ม โดยกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ที่รัฐต้องการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางผลิตรถยนต์และชิ้นส่วน การผลักดันให้การจัดตั้งห้องปฏิบัติการวิจัย
และทดสอบยางล้อ และผลิตภัณฑ์ยาง การจัดทำมาตรฐานการผลิตการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีประเภทถุงมือตรวจโรคและถุงมือทั่วไป นอก
จากนี้ในภาคเกษตรกรรมก็มีการสนับสนุนการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมยาง โดยนำมาผลิตเป็นขื่อนยาง สร้างอ่างเก็บน้ำยาง ฝายยาง หรือ
ถนน เป็นต้น
ในด้านการผลิตยาง ที่น่าจับตามองคือ เวียดนาม ถึงแม้ว่าผลผลิตยางของเวียดนามยังมีปริมาณน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศผู้ผลิตยางราย
ใหญ่อย่างไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย แต่ผลผลิตของเวียดนามมีอัตราการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในบรรดาประเทศผู้ผลิตยางทั้งหมดและมีการกำหนด
นโยบายในด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมยางอย่างชัดเจน
ด้านประเทศผู้ใช้ยาง คาดว่าจีนและอินเดียจะยังมีบทบาทสำคัญในฐานะที่เป็นประเทศผู้ใช้ยาง เนื่องจากการเติบโตของอุตสาหรรมรถยนต์
ในทั้งสองประเทศมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจีนจะเป็นประเทศผู้ใช้ยางที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในช่วงระยะ 15 ปีต่อจากนี้ไป ซึ่งจะเป็น
เหมือนที่ผ่านมาที่สหรัฐอเมริกาที่เคยเป็นประเทศผู้ใช้ยางที่มีบทบาทสำคัญที่สุดตั้งแต่ปี 2503-2545 อย่างไรก็ตามราคาจะขยับขึ้น-ลงตามปัจจัยทางด้าน
ปริมาณการผลิต ความต้องการใช้ยางของผู้ใช้ และราคาน้ำมันในตลาดโลก ซึ่งราคายางธรรมชาติจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันกับราคาน้ำมัน
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-
อุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยางเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศทั้งในแง่ของการสร้างมูลค่าเพิ่มและการจ้าง
งาน จากการที่ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกยางธรรมชาติมากที่สุดในโลก ส่งผลให้เกิดความได้เปรียบในด้านวัตถุดิบและสร้างมูลค่าในการส่งออก
ให้กับประเทศเป็นอย่างมาก โดยในปี 2549 มีมูลค่าส่งออกในกลุ่มอุตสาหกรรมไม่น้อยกว่า 8,422 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีอัตราการขยายตัวร้อยละ
38.96 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ซึ่งแบ่งเป็น (1). การส่งออกยางพาราขั้นต้น ประเภทยางแผ่น ยางแท่ง น้ำยางข้น และยางขั้นต้นอื่น ๆ มีมูลค่าส่ง
ออกรวมกันประมาณ 5,364.84 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 44.60 และ (2) ส่วนผลิตภัณฑ์ยางมีการส่งออก 3,057.96 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ขยายตัวร้อยละ 30.06 ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการขยายตัวของกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพที่อยู่ในระดับที่น่าพอใจ
1. การผลิต
การผลิตยางพาราของประเทศมีจำนวนประมาณ 3.0 ล้านตัน/ปี ซึ่งจำนวนร้อยละ 90 จะถูกนำไปแปรรูปเป็นยางขั้นต้น ได้แก่ ยาง
แผ่น ยางแท่ง ยางเครพ และน้ำยางข้น เป็นต้น ส่วนที่เหลือ จะนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ยาง ได้แก่ ยางยานพาหนะ ถุงมือยาง ยางรัดของ และ
สายยางยืด เป็นต้น
การผลิตยางขั้นต้น ในปี 2549 มีการผลิตยางแผ่นจำนวน 286,772 ตัน และยางแท่งจำนวน 837,862 ตัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ
3.52 และ 4.26 ตามลำดับ
สำหรับผลิตภัณฑ์ยางในปี 2549 ในช่วงของไตรมาสแรก มีอัตราการผลิตขยายตัวเพิ่มขึ้นเพื่อสต็อกสินค้า เนื่องจากมีความผันผวนของราคา
ยาง และราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีผลกระทบต่อต้นทุนการผลิต เป็นผลให้ไตรมาส 3 และ4 มีการผลิตในอัตราลดลงซึ่งสอดคล้องกับการ
ผลิตรถยนต์ในประเทศที่มีอัตราการขยายที่ตัวลดลงจากปีที่แล้วจากร้อยละ 10 เป็น ร้อยละ 6 เมื่อรวมทั้งปีทำให้มีการผลิตอัตราการขยายตัวลดลงจาก
ปีก่อน โดยจำแนกเป็นการผลิตยางนอกรถยนต์นั่ง จำนวน 12,845,101 เส้น ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 3.48 ยางนอกรถกะบะจำนวน 5,600,630
เส้น ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 1.67 ยางนอกรถบรรทุกและรถโดยสาร จำนวน 4,786,525 เส้น ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 7.55 ยางนอกรถ
จักรยานยนต์ จำนวน 20,539,044 เส้น ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 4.51 ถุงมือยาง จำนวน 8,189,453,436 ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 14.42 และ
ยางรัดของ จำนวน 14,543 ตัน ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 4.66 เป็นต้น
ตารางที่ 1 ปริมาณการผลิตผลิตภัณฑ์ยาง
ปริมาณการผลิต หน่วย 2545 2546 2547 2548 2549* %
2548/2549
ยางนอกรถยนต์นั่ง เส้น 8,248,304 10,101,266 13,680,209 13,307,590 12,845,101 -3.48
ยางนอกรถกะบะ เส้น 4,324,131 4,813,007 5,114,585 5,695,564 5,600,630 -1.67
ยางนอกรถบรรทุก 3,791,296 4,080,377 4,973,626 5,177,195 4,786,525 -7.55
และรถโดยสาร เส้น
ยางนอกรถจักรยานยนต์ เส้น 14,185,651 16,063,757 18,423,018 21,508,505 20,539,044 -4.51
ยางนอกรถแทรกเตอร์ เส้น 143,750 184,597 189,870 185,538 175,530 -5.39
ยางนอกอื่น ๆ เส้น 1,845,430 878,226 1,257,958 509,541 571,352 12.13
ยางในรถบรรทุก 2,409,874 2,738,010 2,459,960 2,493,313 2,089,391 -16.2
และรถโดยสาร เส้น
ยางในรถจักรยานยนต์ เส้น 22,379,975 25,660,511 30,346,772 34,457,439 30,697,405 -10.91
ยางในรถจักรยาน เส้น 23,076,717 23,097,066 22,982,290 19,810,522 16,368,959 -17.37
ยางรอง เส้น 2,942,929 2,347,420 2,833,121 3,143,402 3,115,907 -0.87
ยางหล่อดอก เส้น 226,818 269,270 261,588 281,254 116,868 -58.45
ถุงมือยางถุงมือตรวจ ชิ้น 8,705,750,223 9,027,961,011 9,918,454,683 9,567,164,856 8,187,453,436 -14.42
ยางรัดของ ตัน 16,681 15,643 16,000 15,254 14,543 -4.66
ยางแผ่น ตัน 376,487 379,224 324,200 277,024 286,772 3.52
ยางแท่ง ตัน 709,146 806,225 715,185 803,651 837,862 4.26
ที่มา : 1. ศูนย์สารสนเทศเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
หมายเหตุ : 2549* ตัวเลขประมาณการ
2. การตลาด
2.1 ตลาดส่งออก ประเภทสินค้าที่ผลิตและส่งออก แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1) ยางแปรรูปขั้นต้น แบ่งเป็นการส่งออก ยางแผ่น 1,857 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ร้อยละ 40.90 ยางแท่งจำนวน
2,191..56 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 40.04 น้ำยางข้นจำนวน 1,219.92 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 61.11
ตลาดส่งออกสำคัญได้แก่ จีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย อินเดีย และสหรัฐอเมริกา
2) ผลิตภัณฑ์ยาง แบ่งเป็นการส่งออกยางยานพาหนะ 1,187.52 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 31.89 ถุงมือยาง
553.44 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 7.32 สายพานลำเลียงและ ส่งกำลัง 43.68 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ
39.55 ล้านเหรียญสหรัฐ ตลาดสำคัญได้แก่ สหรัฐอเมริกา , ญี่ปุ่น , ฮ่องกง เฉพาะสายพานลำเลียง และส่งกำลัง ตลาดที่สำคัญได้แก่ สิงคโปร์
ตารางที่ 2 มูลค่าการส่งออกของสินค้ายางและผลิตภัณฑ์ยาง
หน่วย: ล้านเหรียญสหรัฐ
สินค้า 2545 2546 2547 2548 2549* %
2548/ 2549
ยางพารา 1,740.20 2,787.70 3,428.90 3,710.00 5,364.84 44.6
ยางแผ่น 786.9 1,198.90 1,325.40 1,318.00 1,857.00 40.9
ยางแท่ง 603.8 1,002.30 1,325.30 1,565.00 2,191.56 40.04
น้ำยางข้น 322 545.7 713.7 757.2 1,219.92 61.11
ยางพาราอื่น ๆ 27.6 41.2 64.4 69.8 96.24 37.88
ผลิตภัณฑ์ยาง 1,268.00 1,557.60 1,959.60 2,351.20 3,057.96 30.06
ยางยานพาหนะ 435.3 475 679.8 900.4 1,187.52 31.89
ถุงมือยาง 394.1 474.5 489.4 515.7 553.44 7.32
ยางรัดของ 30.5 35.4 45.9 47.8 63.6 33.05
หลอดและท่อ 38.5 56.3 73 86.5 103.56 19.72
สายพานลำเลียงและส่งกำลัง 12.6 15.3 23.7 31.3 43.68 39.55
ผลิตภัณฑ์ยางที่ใช้ทางเภสัชกรรม 110.1 156.8 151.1 189.2 208.8 10.36
ยางวัลแคไนซ์ 79.2 87.6 120.5 147.7 214.68 45.35
ผลิตภัณฑ์ยางอื่น ๆ 165.9 255.9 361.2 432.6 682.8 57.84
รวม 3,008.20 4,345.30 5,388.50 6,061.20 8,422.80 38.96
ที่มา : 1. ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร กระทรวงการคลัง
หมายเหตุ : 2549* ตัวเลขประมาณการ
2.2 ตลาดนำเข้า การนำเข้าผลิตภัณฑ์ยางมีมูลค่า 1,035.24 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ร้อยละ 94.23 โดยแบ่ง
เป็นประเภทท่อหรือข้อต่อ สายพานลำเลียง จำนวน 114 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 18.65 ผลิตภัณฑ์ยางวัลแคไนซ์ จำนวน
312.24 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ร้อยละ 8.76 และยางรถยนต์ จำนวน 153.36 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 38.54
โดยสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์ยางวัลแคไนซ์ นำเข้ามาจากประเทศ ญี่ปุ่น เยอรมัน จีน และสหรัฐอเมริกา
ตารางที่ 3 มูลค่าการนำเข้าของสินค้ายางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง
หน่วย : ล้านเหรียญสหรัฐ
สินค้า 2545 2546 %
2547 2548 2549* 2548/ 2549
ผลิตภัณฑ์ยาง 376.2 376.2 470 533 1,035.24 94.23
ท่อหรือข้อต่อและสายพานลำเลียง 66.4 75.6 81.6 96.1 114 18.63
ผลิตภัณฑ์ยางวัลแคไนซ์ เช่น ประเก็น ฝารอง และซีล 234.9 255.9 260.7 287.1 312.24 8.76
ยางรถยนต์ 52.8 61.7 90.3 110.7 153.36 38.54
กระเบื้องปูพื้นและปิดผนัง 3.3 2.9 6.4 4.5 5.88 30.67
ยางสังเคราะห์ 173.3 198.7 257.9 346.2 408.12 17.89
อื่น ๆ รวมเศษยาง 24.1 31.5 29.9 34.5 41.64 20.7
ที่มา : 1. ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร กระทรวงการคลัง
หมายเหตุ : 2549* ตัวเลขประมาณการ
3. สรุปภาพรวมปี 2549
ปี 2549 ในช่วงต้นปีอุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยางอยู่ในภาวะการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตามตลาดโลกที่ยังคงมีปริมาณความต้องการ
ใช้ยางเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดในประเทศจีน ที่ใช้ยางในปริมาณมากเพื่อรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ กอร์ปกับราคาน้ำมันยังอยู่ใน
ระดับที่สูงทำให้ราคายางสังเคราะห์ที่ทำมาจากน้ำมันมีราคาสูงด้วย ในช่วงครึ่งหลังปี 2549 ทิศทางราคายางที่มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็น
ช่วงฤดูกาลผลิตยางในประเทศ ทำให้ประเทศผู้ซื้อ ผู้ใช้ยางชะลอการซื้อเพื่อรอดูทิศทางของราคายางโรงงานผลิต โรงงานผลิตผลิตภัณฑ์ยางลดกำลัง
การผลิต ทั้งในอุตสาหกรรมผลิตยางล้อและอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางอื่น ๆ ส่วนของประเทศนำเข้ายางรายใหญ่ของโลกทั้งจีน สหรัฐอเมริกา และ
ญี่ปุ่นล้วนมีสต็อกยางในปริมาณสูงหันไปใช้ยางที่สต็อกไว้ก่อนหน้านี้ รวมทั้งต้องการรอดูทิศทางราคายางที่มีแนวโน้มลดลง และราคาน้ำมันมีแนวโน้มลดลง
อย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคายางสังเคราะห์ที่ใช้ทดแทนยางธรรมชาติมีแนวโน้มลดลงด้วย ซึ่งส่งผลกดดันต่อราคายางธรรมชาติ นอกจากนี้การแข็งค่าขึ้น
ของเงินบาทส่งผลให้ผู้ส่งออกยางของไทยต้องประสบกับภาวะขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน และบรรดาพ่อค้ายังใช้เป็นข้ออ้างในการกดราคารับซื้อยางใน
ประเทศ เนื่องจากไม่สามารถปรับราคาส่งออกได้ อย่างไรก็ตามในปี 2549 ราคายางทรงตัวอยู่ในระดับ 55 - 70 บาทต่อกิโลกรัม และจะต่อเนื่อง
ไปถึงปี 2550 - 2551
4.แนวโน้มปี 2550
แนวโน้มอุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยางในปี 2550 คาดการณ์ว่าทั้งปริมาณการผลิตและปริมาณการใช้ยางยังคงมีแนวโน้มขยายตัวโดย
คาดว่าจะมีอัตราการขยายตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 เปรียบเทียบกับปี 2549 ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมใหม่และ
ยุทธศาสตร์ยางพาราปี 2549 — 2551 ที่มีเป้าหมายมุ่งเน้นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ และการสร้างคุณค่า
เพิ่ม โดยกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ที่รัฐต้องการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางผลิตรถยนต์และชิ้นส่วน การผลักดันให้การจัดตั้งห้องปฏิบัติการวิจัย
และทดสอบยางล้อ และผลิตภัณฑ์ยาง การจัดทำมาตรฐานการผลิตการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีประเภทถุงมือตรวจโรคและถุงมือทั่วไป นอก
จากนี้ในภาคเกษตรกรรมก็มีการสนับสนุนการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมยาง โดยนำมาผลิตเป็นขื่อนยาง สร้างอ่างเก็บน้ำยาง ฝายยาง หรือ
ถนน เป็นต้น
ในด้านการผลิตยาง ที่น่าจับตามองคือ เวียดนาม ถึงแม้ว่าผลผลิตยางของเวียดนามยังมีปริมาณน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศผู้ผลิตยางราย
ใหญ่อย่างไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย แต่ผลผลิตของเวียดนามมีอัตราการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในบรรดาประเทศผู้ผลิตยางทั้งหมดและมีการกำหนด
นโยบายในด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมยางอย่างชัดเจน
ด้านประเทศผู้ใช้ยาง คาดว่าจีนและอินเดียจะยังมีบทบาทสำคัญในฐานะที่เป็นประเทศผู้ใช้ยาง เนื่องจากการเติบโตของอุตสาหรรมรถยนต์
ในทั้งสองประเทศมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจีนจะเป็นประเทศผู้ใช้ยางที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในช่วงระยะ 15 ปีต่อจากนี้ไป ซึ่งจะเป็น
เหมือนที่ผ่านมาที่สหรัฐอเมริกาที่เคยเป็นประเทศผู้ใช้ยางที่มีบทบาทสำคัญที่สุดตั้งแต่ปี 2503-2545 อย่างไรก็ตามราคาจะขยับขึ้น-ลงตามปัจจัยทางด้าน
ปริมาณการผลิต ความต้องการใช้ยางของผู้ใช้ และราคาน้ำมันในตลาดโลก ซึ่งราคายางธรรมชาติจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันกับราคาน้ำมัน
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-